โฆษก ตร. เผย บก.ปคบ.เร่งสืบสวนเก็บหลักฐานรวบคนขายหน้ากากเกินราคา ขณะที่การคัดกรองผีน้อยที่กลับไทยแล้วผ่านด่าน ตม. พบมีไข้กว่า 10 ราย แต่ยังไม่พบโควิด-19 กำชับให้กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน

เมื่อวันที่ 4 มี.ค.63 สำนักงานตำรวจแห่งชาติพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กล่าวถึงมาตรการกวดขันจับกุมการขายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ล้างมือเกินราคา ว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ บก.ปคบ.เป็นหน่วยงานหลักในการออกตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ หรือผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ ในส่วนของการจำหน่ายสินค้าเกินราคา และการจำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน

สำหรับผลการปราบปรามช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บก.ปคบ. ได้ดำเนินการกวาดล้างจับกุมมา 40 กว่ารายแล้ว ยึดของกลางที่เป็นหน้ากากที่จำหน่ายเกินราคา และเป็นหน้ากากที่ไม่ได้มาตรฐานอีกหลายหมื่นชิ้น มูลค่าความเสียหายนับแสนบาท ทั้งนี้ยังพบข้อมูลผู้กักตุนสินค้าที่จำเป็นในการป้องกันเชื้อโรคอยู่ระหว่างการสืบสวนจับกุม และหากประชาชนมีข้อมูลเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 191, 1599 และ 1135

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีการเดินทางกลับเข้าประเทศของกลุ่มคนไทยที่ไปทำงานยังประเทศเกาหลีในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีการเดินทางกลับเข้ามาแล้ว 100 กว่าราย มีขั้นตอนการคัดกรองอย่างละเอียด เบื้องต้นพบว่ามีประมาณ 10 กว่าราย มีพบว่าอาจจะมีไข้สูง แต่จากการรับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่พบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังมีการแนะนำให้ปฏิบัติตนตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำเอาไว้ ในส่วนของการกักตัวเอง 14 วันที่บ้านตนเอง และปฏิบัติตามขั้นตอนสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด

...

สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ จะถูกปฏิบัติเหมือนผู้ถูกส่งกลับ ซึ่งจะกลับมาได้ 2 ช่องทาง คือ สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองเท่านั้น โดยจะมีช่องทางพิเศษให้กับบุคคลเหล่านี้ เพื่อที่จะได้ดำเนินการคัดกรองให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อไม่ให้ไปปะปนกับผู้โดยสารกลุ่มอื่น สำหรับเจ้าหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติตนตามทางการแพทย์แนะนำ ในส่วนของตัวเลขบุคคลกลุ่มนี้ที่เข้ามา อาจจะมีการประเมินล่วงหน้าได้เพียง 1-2 วันเท่านั้น เพราะสถานะไม่เหมือนกับนักท่องเที่ยวทั่วๆไป.