วงการแม่พิมพ์จังหวัดชุมพรสะเทือน ครูสอนวิชาดนตรีขยี้กามนักเรียนหญิงชั้น ม.1 เป็นเรื่องเศร้า 14 กุมภาวันวาเลนไทน์ พาเด็กขึ้นรถตู้ไปข่มขืนฝ่าไฟแดงในรีสอร์ตกลางสวนยาง ผกก.สภ.ปะทิว สั่งลูกน้องล็อกเป้าประกบตัวกลัวหลบหนี แฉเป็นถึงลูกชายนายตำรวจยศ พ.ต.ท.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ก.พ.63 นายเจมส์ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี พร้อมด้วยนางลินดา (นามสมมติ) อายุ 31 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว นำตัว ด.ญ.จอย (นามสมมติ) ลูกสาว วัย 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนี่งใน อ.ปะทิว เข้าพบกับ พ.ต.อ.ศุภเกียรติ เทิดตระกูล ผกก.สภ.ปะทิว จ.ชุมพร เพื่อแจ้งความเอาผิด นายนิว หรืออาจารย์นิว (นามสมมติ) อายุ 27 ปี เป็นครูสอนวิชาดนตรีโรงเรียนเดียวกันกับ ด.ญ.จอย หลังจากพาตัวลูกสาวของตนเองไปข่มขืนกระทำชำเราที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งบริเวณรอยต่ออำเภอปะทิวกับอำเภอท่าแซะ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์

นายเจมส์ พ่อของ ด.ญ.จอย เปิดเผยว่า เมื่อวานตอนเย็นขณะที่ตนกับภรรยากำลังทำงานอยู่ที่บ้านพักอาศัย ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนที่ลูกสาวเรียนอยู่ไม่กี่ร้อยเมตร ได้มีอาจารย์ประจำชั้นของลูกสาวเดินทางมาสอบถามว่าลูกสาวตนได้กลับมาบ้านหรือไม่ เพราะหลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติตอนเช้าของเมื่อวานแล้วไม่เข้าห้องเรียน ทำให้ตนเองแปลกใจและตกใจมากเพราะลูกสาวไม่เคยมีนิสัยเกเร ตื่นเช้าไปโรงเรียนและเย็นก็กลับบ้านตามปกติ

...

นายเจมส์ เล่าต่อว่า จากนั้นตนเองก็ได้โทรศัพท์ไปหาก็พบว่ามือถือเครื่องปิด ด้วยความกังวลใจจึงเดินทางมายังโรงเรียนที่ลูกเรียน เพื่อมาสอบถามเพื่อนๆ ของลูกสาว ซึ่งทุกคนต่างยืนยันว่าลูกสาวของตนได้ขึ้นรถตู้ไปกับอาจารย์นิว ซึ่งเป็นอาจารย์สอนดนตรีตั้งแต่ช่วงเช้าหลังเคารพธงชาติ โดยอาจารย์นิวบอกให้ลูกสาวของตนไปช่วยขนกล้วยที่สวนเพื่อนำมาที่โรงเรียนแล้วหายไป

นายเจมส์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้ฟังจากปากเพื่อนลูกสาวที่ยืนยันแบบนั้น ยิ่งทำให้ตนเองกังวลใจมากขึ้น เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุไม่ดีมิร้ายขึ้น ตนจึงได้ให้ทางโรงเรียนโทรศัพท์ไปที่เบอร์ของอาจารย์นิว ก่อนโทรติดและรับสาย โดยอาจารย์นิวอ้างว่าทำธุระอยู่ในตลาดสดใกล้โรงเรียน และไม่ถึงครึ่งชั่วโมงอาจารย์นิวคนดังกล่าวก็มาถึงโรงเรียนพร้อมรถตู้ โดยในรถตู้ไม่พบลูกสาวของตนแต่อย่างใด พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ไปด้วยกันและไม่เห็นลูกสาวของตนตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว ซึ่งไม่ตรงกับที่ได้ข้อมูลมาจากปากของเพื่อนลูกสาวในห้องเรียนโดยสิ้นเชิง

นายเจมส์ กล่าวอีกว่า จนกระทั่งไม่นานก็ทราบภายหลังจากเพื่อนลูกสาวว่า น้องจอยได้โทรศัพท์ติดต่อมาให้ไปรับที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งเพื่อนก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับกลับมาแล้ว เมื่อเจอลูกสาวตนจึงได้ไปคาดคั้นความจริงจนลูกสาวยอมเปิดปากรับสารภาพว่าได้ไปกับอาจารย์นิวตั้งแต่เมื่อช่วงเช้า โดยก่อนขับรถตู้ออกจากโรงเรียนอาจารย์นิวได้บอกให้ลูกสาวตนหมอบลงกับพื้นรถเพื่อไม่ให้ใครเห็น ก่อนจะพาไปที่รีสอร์ตดังกล่าว และได้ข่มขืนทั้งที่ลูกสาวบอกว่ามีประจำเดือนก็ตาม แต่อาจารย์นิวก็ยังกระทำจนสำเร็จความใคร่ ตนจึงได้นำลูกสาวมาแจ้งความดังกล่าว

หลังจากนั้น พ.ต.อ.ศุภเกียรติ เทิดตระกูล ผกก.สภ.ปะทิว ได้ประสาน นางสาวพวงเพ็ญ ใจกว้าง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร ได้มาร่วมสอบปากคำเบื้องต้นก่อนนำตัว ด.ญ.จอย ไปยังรีสอร์ตที่ถูกข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งพบว่าเป็นรีสอร์ตที่เปิดอยู่กลางสวนยางพารา ห่างจากถนนสายเพชรเกษมประมาณ 5 กิโลเมตร และห่างจากโรงเรียนประมาณ 13 กิโลเมตร อยู่ในเขตพื้นที่หมู่ 2 ตำบลทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ให้ ด.ญ.จอย ลงจากรถ แต่ได้ชี้ยืนยันชัดเจนว่าเป็นห้องเบอร์ 8 ของรีสอร์ตแห่งนี้ที่อาจารย์นิวพามาข่มขืน ซึ่งตรงกับผู้ดูแลรีสอร์ตที่ยืนยันว่ามีรถตู้สีขาวมาเปิดห้องพักแบบรายวันเป็นเงิน 400 บาท โดยไม่ทราบตัวบุคคลดังกล่าวว่าเป็นใคร เพราะสถานที่แบบนี้มักจะไม่มองหรือสนทนากับลูกค้าว่าเป็นใคร

ขณะที่ พ.ต.อ.ศุภเกียรติ เทิดตระกูล ผกก.สภ.ปะทิว ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ไพรัตน์ คงเอียง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ปะทิว บันทึกปากคำผู้ดูแลรีสอร์ตไว้เบื้องต้น แล้วให้ไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งที่โรงพัก พร้อมประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดภายในรีสอร์ตมาเป็นหลักฐานเพื่อประกอบการสอบสวนดำเนินคดี และประสานสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำ ด.ญ.จอย อย่างละเอียดในวันจันทร์นี้ (17 ก.พ.) ส่วนตัวอาจารย์นิวได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปประกบตัวไว้แล้วเพื่อเกรงว่าจะหลบหนีก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตัวอาจารย์นิวนั้น เพิ่งมาบรรจุเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนดังกล่าว และเป็นอาจารย์สอนดนตรีได้ประมาณ 2 ปี โดยอาจารย์นิวเป็นบุตรชายของนายตำรวจยศ พ.ต.ท.ประจำอยู่ สภ.แห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้.