แก๊งโจ๋โหดยกพวกควงปืนบุกบ้านคู่อริ ซ้อมพ่อจนน่วม ก่อนไล่ยิงคู่อริดับกลางทุ่งนา ผญบ.ปรี่ไปดูถูกปืนจ่อ-ทำร้ายเจ็บ จึงออกอุบายเรียกชื่อตำรวจ ทำแก๊งโจ๋เผ่นหลบหนี ล่าสุด ตร.ตามรวบได้แล้ว 3 ส่วนที่เหลือเร่งไล่ล่า คาดได้ตัวเร็วๆนี้  

จากเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นใน จ.บุรีรัมย์ ยกพวกกว่า 10 คน พร้อมอาวุธปืนบุกบ้านคู่อริ ทำลายข้าวของในบ้านจนได้รับความเสียหาย และทำร้ายร่างกายพ่อจนได้รับบาดเจ็บ และไล่ยิงหนุ่มคู่อริเสียชีวิตกลางทุ่งนาอย่างอุกอาจนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (15 ม.ค.) พ.ต.ท.ปรีดา เจริญราช สารวัตร (สอบสวน) สภ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัยม์ นำตัว นายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นายสุขสรรค์ ปักเคทัง อายุ 20 และนายสุจินดา สิหาทุบ อายุ 26 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยิง นายวรินธร ศรีโย อายุ 21 ปี เสียชีวิต พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้อนุญาต บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ปรีดา เจริญราช สารวัตร (สอบสวน) สภ.นาโพธิ์ ได้รับแจ้งมีเหตุกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปยิงและรุมทำร้ายร่างกาย 2 พ่อลูกเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ที่บ้านเลขที่ 148 หมู่ที่ 2 บ้านหนองแวง ต.ดอนกอก อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณหน้าบ้านมีประตูเหล็กเลื่อน ล้อมรั้วลวดหนามรอบ ห่างจากบ้านผู้เสียชีวิตประมาณ 100 เมตร พบกองเลือดกลางทุ่งนา ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.นาโพธิ์ และเสียชีวิตต่อมาในระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อผู้ตายคือ นายวรินธร ศรีโย อายุ 21 ปี ถูกยิงเข้ากลางหลัง กระสุนไม่ทราบชนิดฝังใน และพบผู้บาดเจ็บชื่อ นายไพพูล ศรีโย อายุ 53 ปี พ่อผู้ตาย ถูกทำร้ายร่างกายจนใบหน้าปูดบวม ก่อนคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

...

เจ้าหน้าที่ตำรวชุดสืบสวนออกติดตามคนร้ายกระชั้นชิด หลังทราบว่าผู้ก่อเหตุคือกลุ่มวัยรุ่นเยาวชนต่างหมู่บ้านไม่ห่างกัน ชื่อแก๊ง "เอฟซี ขนมหวาน" มีประมาณ 10 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเบิ้ลเสียงดังลั่นบ้าน แล้วตะโกนถามหาผู้ตายบริเวณหน้าบ้าน ก่อนบุกยิงจนเสียชีวิต กระทั่งตำรวจสามารถตามจับกุมตัวคนร้ายได้ พร้อมของกลางปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก ปืนปากกา 1 กระบอก มีดด้ามเหล็กยาวประมาณ 1.5 เมตร รถจักรยานยนต์ผู้ต้องหา และรถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาทุบทำลายอีก 3 คัน นำมาเก็บไว้ที่ สภ.นาโพธิ์

ด้าน นายสุจินดา ศรีหาทุบ อายุ 26 ปี หนึ่งในสามผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ เล่าว่า ก่อนหน้านี้เห็นรุ่นน้องบอกว่าให้ไปเป็นเพื่อน เพราะจะไปเคลียร์ปัญหากับวัยรุ่นในตำบลเดียวกัน แต่คนละหมู่บ้าน เบื้องต้นทราบว่ามีการแชตหากันและท้าทายกัน น่าจะเป็นเรื่องผู้หญิง เมื่อไปถึงกลุ่มวัยรุ่นก็บุกเข้าไป ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ ด้านนายเอ (นามสมมติ) ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนวิ่งไล่ยิงผู้เสียชีวิต หลังมีเรื่องทะเลาะกันเกี่ยวกับแฟนสาวจนเป็นเหตุยกพวกมารุมตี

ขณะ นางสมบัติ จำนงพันธ์ อายุ 44 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเห็นกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์มาเร่งเครื่องเสียงดังบริเวณถนนหน้าบ้าน ก่อนจะพังประตูรั้วเข้ามา ตนจึงออกมาดูเห็นหลานตัวเองคือผู้ตาย วิ่งออกจากบ้านไปทางทุ่งนา ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด วัยรุ่นอีกกลุ่มได้เข้าไปทำร้ายพ่อผู้ตาย ตนตกใจกลัวจึงรีบปิดบ้านก่อน จนกระทั่งมาทราบว่ามีการยิงกันเสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตคือหลานชายตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการทำลายข้าวของภายในบ้านจนได้รับความเสียหายด้วย

ด้าน นายทรัพย์ เพาะไธสง อายุ 44 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ดอนกอก เล่าว่า ตนอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด และมีเสียงคนทะเลาะวิวาทกัน ตนจึงพกอาวุธปืนไปด้วย เมื่อเข้าไปถึงได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลืออยู่กลางนา ห่างบ้านประมาณ 100 เมตร ตนจึงเดินเข้าไปพบวัยรุ่นกว่า 10 คน ยืนอยู่หน้าบ้านผู้เสียหายพร้อมจะบุกเข้าไปในบ้านอีก แต่เจ้าบ้านได้ปิดประตูเงียบ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้เข้ามาล้อมตนเอาไว้ และได้ยินเสียงผู้หญิงจากบ้านอีกหลังหนึ่งตะโกนว่า เป็นตำรวจ กลุ่มวัยรุ่นก็บอกให้ยิงเลย ตนตกใจวิ่งไปในที่สว่าง แล้วแสดงตัวว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่ตำรวจ อย่าเข้ามาตนมีปืน ทันใดนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็ปรี่เข้ามาใช้อาวุธปืน 2 กระบอกมาจ่อที่หน้าอกและด้านหลัง และพยายามจะแย่งเอาอาวุธปืนจากตนไป จากนั้นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนมาแทงบริเวณท้องของตน ตนจึงแกล้งล้มลงทับอาวุธปืนเอาไว้ เพราะเกรงจะถูกแย่งเอาไป แต่กลุ่มวัยรุ่นได้แย่งเอาโทรศัพท์ของตนไปแทน ตนจึงตะโกนชื่อตำรวจที่อยู่ในหมู่บ้าน กลุ่มวัยรุ่นจึงวิ่งหนีขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

"การกระทำดังกล่าวถือว่าอุกอาจมาก ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตามตำรวจกำลังเร่งติดตามวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุมาอีกร่วม 10 คนมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนข้อหาจะต้องรอจับกุมทั้งหมดได้ก่อน ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้" ผู้ใหญ่บ้าน ระบุ.