พนักงานสอบสวน กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอ ยื่นคำร้องศาลจังหวัดอุดรธานี โอนย้าย “แม่มณี” พร้อมพวกรวม 8 คน เข้าสอบปากคำที่ กทม. เผยตามยึดทรัพย์ได้แล้วกว่า 130 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 พ.ย.62 พ.ต.อ.ศักดา เหมือนโพธิ์ รองผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี, ร.ต.อ.จักรพงษ์ ต้องแต้ม รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี และพนักงานสอบสวน กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอ เดินทางไปศาลจังหวัดอุดรธานี เพื่อยื่นคำร้องขอนำตัว น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือเดียร์ เท้าแชร์แม่มณีลวงโลกกับพวกรวม 8 คน ประกอบด้วย นายเมธี ชิณภา อายุ 20 ปี, นายปิยะ คีรีสุวรรณกุล อายุ 22 ปี, น.ส.พรสวรรค์ ภูอินอ้อย อายุ 19 ปี, น.ส.สุพรรณี นิกรกุล อายุ 22 ปี, น.ส.วัลธนีย์ ทิพย์ประเวช อายุ 47 ปี, น.ส.วิไลวรรณ หงษ์ประชาทรัพย์ อายุ 25 ปี และ น.ส.นิตยา พินนอก อายุ 27 ปี เข้ามาสอบปากคำที่ ดีเอสไอ ในกรุงเทพฯ
ซึ่งคาดว่าศาลจะอนุมัติเย็นนี้ และนำตัว น.ส.วันทนีย์ และพวกรวม 8 คน มายังกรุงเทพฯในวันที่ 21 พ.ค.นี้ โดยผู้ต้องขังชาย จะนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนผู้ต้องขังหญิงจะนำตัวไปฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงกลางไว้ระหว่างสอบสวนคดีดังกล่าว
...
โดยผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันให้กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน”
สำหรับคดีแชร์แม่มณี เริ่มจากปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มประชาชนผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่า ได้รับความเสียหายจากการที่ได้หลงเชื่อเข้าร่วมโครงการฝากเงินออมเงินกับแม่มณี หรือ แชร์แม่มณี โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นร้อยละ 93 ต่อเดือน ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อและได้โอนเงินไปร่วมฝากเงินกับแม่มณีและพวก จนกระทั่งต่อมาแม่มณี หรือ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือ เดียร์ กับพวก เบี้ยวจ่ายเงิน และได้หลบหนีไป จนถูกตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 ชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ติดตามจับกุมตัวได้
ทั้งนี้ยอดผู้เสียหายของ จ.อุดรธานี ประมาณ 341 คน มูลค่าความเสียหาย 147 ล้านบาท ส่วนรวมผู้เสียหายในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 4 ทั้ง 12 จังหวัด มีผู้เสียหาย 456 ราย รวมความเสียหายทั้ง 12 จังหวัด 221,891,437.15 บาท
นอกจากนี้ ยังได้ติดตามยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง จำนวน 130,790,843 บาท ประกอบด้วย 1.เงินสด 17,517,000 บาท 2.อายัดบัญชี รวม 15,843,244 บาท 3.รถยนต์ 12 คัน 4.รถ จยย.บิ๊กไบค์ 1 คัน และ 5.อายัดทรัพย์สินอื่น มีอาคารพาณิชย์ , บ้านพร้อมที่ดิน, ทองรูปพรรณ รวม 89 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึด 130,790,843 บาท.