ตำรวจสุวรรณภูมิ รวบหญิงชาวจีนหยิบกระเป๋าคาดเอวชาวอิหร่านทำหล่น มีเงินกว่าครึ่งแสน บริเวณที่พักรอขึ้นเครื่องบินขาออกนอกประเทศ อ้างไม่ได้ขโมย แต่ไม่รู้ของใครเลยเก็บไว้เอง
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 3 กันยายน 2562 ร.ต.อ.อภิชัย สุโพธิ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ได้จับกุม นางหลิว เวน จวน อายุ 46 ปี ชาวจีน ได้ที่อาคารผู้โดยสาร บริเวณที่พักรอขึ้นเครื่องบินขาออกนอกประเทศ หลังจากที่ นางหลิว เวน จวน ได้หยิบกระเป๋าคาดเอวของนักท่องเที่ยวชาวอิหร่าน โดยในกระเป๋ามีทรัพย์สินหลายรายการ
สืบเนื่องจาก นายโมฮัมหมัด แอบบาส ฮัมเซ่ อายุ 29 ปี ชาวอิหร่าน ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อภิชัย สุโพธิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุวรรณภูมิ ว่ากระเป๋าคาดเอวของตนเอง มีคนหยิบไป ภายในกระเป๋ามีเงิน 1,441 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 44,116 บาท โทรศัพท์ 1 เครื่อง และเอกสารสำคัญอีกหลายรายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในอาคารผู้โดยสาร โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดไปในจังหวะที่ นายโมฮัมหมัด ทำกระเป๋าคาดเอวหล่น และผู้หญิงต้องสงสัยเดินผ่านมาเจอและหยิบใส่กระเป๋าเดินทาง ก่อนจะเดินเข้าไปรอขึ้นเครื่องกลับประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวหญิงคนดังกล่าวมาสอบสวนที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงทราบชื่อ นางหลิว เวน จวน ชาวจีน โดยพบกระเป๋าของผู้เสียหายอยู่ในกระเป๋าเดินทางของนางหลิว เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกก่อนมอบทรัพย์สินของผู้เสียหายกลับมาได้ทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาติดตามไม่ถึง 2 ชั่วโมง หลัง นายโมฮัมหมัด ตรวจสอบทรัพย์สินก็พบว่า อยู่ครบตามจำนวน รวมทั้งหนังสือเดินทางที่ต้องใช้แสดงกับเจ้าหน้าที่ขณะขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับ จึงขอแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ไทยที่เร่งติดตามคืน จนสามารถเดินทางกลับได้
...
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนนางหลิว ให้การผ่านล่ามอ้างว่าไม่ได้ขโมย แต่เห็นกระเป๋าตกอยู่จึงเก็บไว้ โดยไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ทราบว่ากฎหมายไทย หากพบทรัพย์สินหรือสิ่งของมีค่า ต้องนำส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อติดตามสืบหาเจ้าของตามขั้นตอน ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดฐานลักทรัพย์สิน โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน ตามมาตรา 335 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี หรือปรับ 2000 ถึง 10000 บาท.