สาวหมอนวดแผนโบราณวัย 47 ปี พร้อมลูกสาวเข้าขอบคุณตำรวจกองปราบปราม หลังติดตามรถเก๋งที่จำนำไว้กับนายทุนคืนมาได้ หลังจ่ายเงินคืนแล้วไม่ได้รถ พบโดนเอาไปจำนำต่อ 7 ทอด เหตุไม่ได้ทำสัญญาจำนำรถเอาไว้
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 ก.ย.2562 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.วราพร เทียมทองหลาง อายุ 47 ปี ชาว จ.นครราชสีมา อาชีพนวดแผนโบราณ พร้อมลูกสาวเป็นใบ้ น.ส.ญาณี วงค์ใจ อายุ 19 ปี เข้าขอบคุณ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. หลังสั่งการให้ ร.ต.อ.(หญิง) กัญจิรา นรสาร รอง สว.(สอบสวน) ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์รถจักรยานยนต์ บก.ป.(ศปจร.ป.) ช่วยติดตามรถที่ไปจำนำไว้กลับมาคืนให้ได้
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2562 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายพร้อมลูกสาวที่เป็นใบ้ เข้าแจ้งความกับตำรวจ บก.ป. ว่า ได้จำนำรถมาสด้า 2 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขอ 5950 นครราชสีมา ไว้ในราคา 40,000 บาท กับนายทุนคนหนึ่งผ่านทางผู้ใหญ่บ้านเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากมีความเดือดร้อนต้องการใช้เงิน แต่ปรากฏว่าหลังจากจำนำไป ได้ทำงานรวบรวมเงินจนครบแล้วโอนเงินไปให้ผู้รับจำนำ แต่กลับไม่ได้รถคืน จนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากต้องใช้รถยนต์ในการดูแลลูกสาว เพราะก่อนหน้านี้ให้ลูกนั่งรถจักรยานยนต์แต่เกิดอุบัติเหตุจึงตัดสินใจซื้อรถ ที่ผ่านมามีความเดือดร้อนอย่างมาก จนเกิดความเครียดตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตายไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่พลเมืองดีช่วยกันพาส่งโรงพยาบาลได้ทัน เมื่อรักษาตัวดีแล้วได้เดินทางมาแจ้งความกับกองปราบปราม
ร.ต.อ.(หญิง) กัญจิรา กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียหายไม่มีหลักฐานการจำนำ เป็นการจำนำปากเปล่า ไม่มีการทำสัญญาจำนำเอาไว้ จากการสืบสวนพบว่ารถมีการขายต่อกันไปกว่า 7 ทอด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสืบสวนจนสามารถติดตามรถคืนมาให้ได้
“วันที่ผู้เสียหายมาแจ้งความกับกองปราบแล้ว ก็ไม่ยอมกลับบ้านเพราะเดือดร้อนมาก จะขอนอนที่กองปราบปราม จนเจ้าหน้าที่ต้องเกลี้ยกล่อมให้กลับบ้านไปก่อน พร้อมสัญญาจะเร่งติดตามรถคืนมาให้โดยเร็ว ระหว่างที่เจ้าหน้าที่สืบสวนหารถให้ ผู้เสียหายโทรมาขอลาตายด้วย บอกว่าจะกินยาฆ่าตัวตายทั้งแม่ลูก จนต้องเกลี้ยกล่อมว่ากำลังจะได้รถกลับคืนมาแล้ว สองแม่ลูกจึงได้ล้มเลิกความคิดฆ่าตัวตาย จนเมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามรถกลับมาได้ สองแม่ลูกถึงได้รีบนั่งรถทัวร์เดินทางมารับรถคืนในวันนี้” ร.ต.อ.หญิง กัญจิรา กล่าว
...
เบื้องต้นผู้เสียหายกล่าวว่า ทำงานเป็นหมอนวดแผนไทยโบราณ ใครเรียกให้ไปนวดก็ไป มีรายได้เฉลี่ยวันละ 400-500 บาท ที่ผ่านมาเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์มันลำบากเพราะต้องรับส่งลูก จึงตัดสินใจซื้อรถเก๋ง ปกติจะเอาลูกไว้ที่บ้าน ช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาได้นำรถไปจำนำเพื่อหาเงินไปทำงานต่างประเทศ แต่ปรากฏว่าไปทำงานที่รัสเซียแล้วติดปัญหาเอกสารที่ ตม.รัสเซีย จนถูกส่งตัวกลับ ที่ผ่านมาหาเงินจ่ายดอกเบี้ยไปแล้ว 4 เดือน พอจะขอไถ่รถคืนกลับไม่ได้คืน ตอนนั้นเครียดมากจนคิดฆ่าตัวตาย ไปหาหมอกินยารักษาอาการทางจิตเวช ตนก็ป่วย ลูกก็พิการ มีปัญหาดูแลตัวเองไม่ได้
ครั้งหนึ่งลูกหิวมากจนเอาหมูสามชั้นดิบมากิน ตนถึงกับตกใจนึกว่าลูกเป็นปอบ ตอนนั้นยอมรับว่าหมดที่พึ่งมาก ไปขอพึ่งพี่สาวให้ช่วยไถ่รถ กลับไม่ช่วยเหลือ เลยมาที่แจ้งความร้องทุกข์กองปราบปราม พอได้รถคืนรู้สึกดีใจมาก ทำให้มีแรงใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไป
เบื้องต้น พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจจะขยายผลสืบสวนหาผู้กระทำผิด อยากฝากถึงประชาชนว่า อย่าจำนำรถโดยที่ไม่มีสัญญา ในวงการจำนำรถนั้น หากไม่มีการทำสัญญาผู้รับจำนำจะขายต่อเป็นทอดๆ จึงอยากฝากถึงประชาชนให้ระวังด้วย.