เจอแล้ว 2 ผู้สูญหาย เหยื่อศาลาริมน้ำแม่กลอง ใกล้วัดเพชรสมุทรวรวิหาร ถล่ม ร่างติดอยู่คาซากใต้น้ำ เจ้าหน้าที่กู้ร่างขึ้นมาได้แล้ว 1 ศพ ด้านรองผวจ.สั่งหยุดใช้บริการท่าเทียบเรือแสงวนิช ล้อมคอกสำรวจที่พักริมน้ำทั้งหมด
จากกรณี ศาลาริมน้ำแม่กลอง ใกล้วัดเพชรสมุทรวรวิหาร อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พังถล่มลงไปในแม่น้ำ ซึ่งศาลาหลังดังกล่าวมีร้านขายของ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน และยังคงสูญหายไปอีก 2 คน คือ นางสุรีย์ อุระชื่น อายุ 37 ปี เป็นแม่ค้าขายกาแฟ และ น.ส.พรพิไล เสือเล็ก พนักงานบริษัท ยังไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งเป็นลูกค้าที่มาทานอาหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการค้นหา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่วางแผนและระดมกำลังกันค้นหาอย่างต่อเนื่อง นักประดาน้ำยืนยันพบร่างผู้สูญหายทั้ง 2 คนแล้ว ซึ่งเสียชีวิตติดอยู่ใต้หลังคาศาลาที่ถล่ม โดยเจ้าหน้าที่พยายามหาทางนำร่างขึ้นมา ซึ่งโดยเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาเป็นช่วงน้ำขึ้นเต็มที่ จึงมีน้ำลึกประมาณ 12 เมตร เป็นอุปสรรคในการค้นหาอย่างมาก เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว ประกอบกับใต้น้ำมืด และศาลาที่ถล่มมีซากปรักหักพังทำให้ยากต่อการสำรวจ
...
อย่างไรก็ตาม ทีมเจ้าหน้าที่ได้ลงสำรวจอาคารตามยุทธวิธี กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาพบศพ นางสุรีย์ อุระชื่น อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 /92 หมู่ 3 ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม เป็นแม่ค้าขายกาแฟ ถูกโครงสร้างอาคารทับ สภาพศพสวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อแขนสั้นสีดำ ขาขวาหักผิดรูป ใบหน้าด้านซ้ายบวมซ้ำ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครนยขนาดใหญ่ยกแผ่นปูนโครงสร้างอาคารขึ้นอย่างระมัดระวัง จนถึงเวลา 23.59 น. จึงสามารถนำศพ นางสุรีย์ ขึ้นมาได้ ก่อนนำไปไว้ที่ห้องสุขนิรันดร์ รพ.สมเด็จพระพุทธนเลิศหล้า โดยมี นพ.ธีรนิตย์ ปราพฤติกิจ แพทย์เวร ร่วมชันสูตรพลิกศพ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการกู้ศพของ น.ส.พรพิไล
รายงานข่าวแจ้งว่า นายประจินต์ ธารศิริสิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ได้มีคำสั่งให้ฝ่ายปกครองท้องถิ่นออกสำรวจท่าเทียบเรือและที่พักริมแม่น้ำลำคลองทั้งหมด พร้อมประสานงานกับหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ส่งผู้ชำนาญการลงไปตรวจสอบ เพื่อป้องการอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
สำหรับด้านด้านความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตในเบื้องต้น ได้ให้ทางพัฒนาสังคมจังหวัด และกาชาดจังหวัดเข้ามาดูแล ด้านคดีความกำชับให้พนักงานสอบสวนทำงานอย่างรอบครอบ
นอกทางนี้ยังมีคำสั่งให้หยุดใช้บริการท่าเทียบเรือข้ามฟากแสงวนิช ใกล้ท่าน้ำวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เนื่องจากไม่มีความปลอดภัย และห้ามนำสินค้ามาวางขายในบริเวณดังกล่าว หากใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 6,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ศาลาริมน้ำแห่งนี้เดิมทีจะถูกรื้อถอนออกมาสร้างเป็นแนวกั้นน้ำทะเลหนุน ตามแผนพัฒนาจังหวัดปี 62 แต่ก็มาพังลงเสียก่อน.