มอบตัวแล้ว 9 ราย แชร์ข่าวปลอม "ปลดกกต.-สลับรถ-ยัดบัตรผี" ชี้ทำลายความเชื่อมั่นต่อความมั่นคงของประเทศ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

ตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ว่าที่ พ.ต.อ.ขวัญชัย พัฒรักษ์ ผกก.3 บก.ปอท. ได้ร่วมกันแถลงข่าวการดำเนินการกับผู้ต้องหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

ตามที่มีบุคคลนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยได้มีการโพสต์บทความบิดเบือนให้ร้ายคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในเว็บไซต์ syoutaogou.com โดยพาดหัวข่าวว่า “ปลดด่วน! 2 กกต. สลับรถ ขนบัตร” และ “อัพยศ ที่สุดประเทศไทย ยัดบัตรผี 600,000 ใบ สลับรถในโรงรถ ปธ.ชี้อาจมีเลือกตั้งใหม่” พร้อมการนำภาพ นายฉัตรไชย จันทร์พลายศรี และ นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง มาตัดต่อรวมกัน เพื่อนำมาเป็นสื่อกระจายแก่บุคคลต่างๆ ซึ่งการดัดแปลงดังกล่าว อาจส่งผลทำให้ประชาชนที่ได้รับสื่อเกิดความตื่นตระหนก และหลงเชื่อได้ว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริง

...

ต่อมา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาร้องทุกข์กล่าวโทษในกรณีดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. จากการสืบสวนทราบว่ามี ผู้เผยแพร่และส่งต่อข่าวปลอมดังกล่าว ซึ่งกระทำผิดฐาน “นำเข้า เผยแพร่ หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ตามมาตรา 14(2)(5) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยในวันนี้ มีผู้กระทำความผิดมาพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เป็นผู้แชร์โพสต์ดังกล่าว จำนวน 9 ราย ซึ่งทาง บก.ปอท. จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

"ดังนั้น ในห้วงเวลานี้ อยู่ระหว่างรอการประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างเป็นทางการ และอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างความปั่นป่วนผลการเลือกตั้ง สร้างข่าวปลอมโจมตีใส่ร้ายป้ายสีการจัดการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทำลายความเชื่อมั่นต่อความมั่นคงของประเทศ และก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน จึงขอประชาสัมพันธ์ประชาชนในการติดตามข่าวสาร ควรมีการตรวจสอบ แหล่งที่มาของข่าวสาร มีสติไตร่ตรอง ก่อนแชร์หรือส่งต่อข่าวสาร เพื่อไม่ให้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ"