ตำรวจ สน.หนองค้างพลู แจ้ง 2 ข้อหาเสี่ยเต็นท์รถ ซิ่งปอร์เช่ชนสยอง สาวท้องขาขาด ลูกในครรภ์เสียชีวิต ส่วนเพื่อนคนนั่งซ้อนท้ายดับ ผกก.ป้ายแดงเผย ผบช.น.สั่งทำคดีรอบคอบตรงไปตรงมา

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 17 มี.ค.62 ที่ สน.หนองค้างพลู พ.ต.ท.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สน.หนองค้างพลู เผยถึงคดีที่ นายสมเกียรติ ภักดีนอก อายุ 40 ปี เสี่ยเจ้าของเต็นท์รถซิ่งรถสปอร์ตหรู ปอร์เช่ รุ่นเคย์แมน เอส สีขาว ทะเบียน 6 กญ 9579 กรุงเทพมหานคร ปีนบาทวิถีพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่แล่นสวนทางกันมาบนบาทวิถีหน้าปากซอยพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 5 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. เมื่อช่วงตีหนึ่ง วันที่ 15  มี.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและหญิงตั้งครรภ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว ว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. ได้กำชับให้ทาง สน.หนองค้างพลู ทำสำนวนคดีนี้อย่างรอบคอบตรงไปตรงมา

โดยเมื่อช่วงเช้าตนและพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ไปเก็บพยานหลักฐานซ้ำในที่เกิดเหตุอีก 1 รอบ เบื้องต้นสามารถดำเนินคดีผู้ขับขี่รถปอร์เช่ได้แล้ว 2 ข้อหา คือ ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ส่วนข้อหาเกี่ยวกับการดื่มสุรานั้นได้ประสานแพทย์ให้ทำการตรวจเลือดแล้ว กำลังรอผลพิสูจน์ส่งกลับมา หากพบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนด ก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ต่อไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่โซเชียลมีเดียกำลังกล่าวโจมตีถึงข้อความสนทนาระหว่างพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีนี้ กับญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ เกี่ยวกับการพูดถึงเรื่องเมาสุราของคนขับรถปอร์เช่ พ.ต.ท.อดุลย์ ตอบว่า ตนเพิ่งย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.หนองค้างพลู ได้เพียง 2 วัน ได้ฟังประเด็นนี้แล้วไม่ได้นิ่งนอนใจ ตนจึงเรียกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รวมถึงหัวหน้าพนักงานสอบสวนของโรงพักมาสอบถามได้ความว่า ไม่มีใครพูดบอกญาติๆ ผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ห้ามให้ข่าวเรื่องคู่กรณีเมาหรือไม่แต่อย่างใด น่าจะเป็นการสื่อสารกันผิดพลาดมากกว่า

...

ตนยืนยันคดีนี้ไม่มีการวิ่งเต้นใดๆ จะดำเนินการต่อไปอย่างเที่ยงตรง โดยให้ความยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วน นายสมเกียรติ คนขับรถปอร์เช่ที่รักษาตัวอยู่ใน รพ.พญาไท 3 ตนก็ให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปสอบปากคำในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังให้การได้ไม่ละเอียดนัก เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บอยู่ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าญาติๆ ของนายสมเกียรติ ก็เดินทางไปที่ รพ.ศิริราช เพื่อเยี่ยมอาการคนเจ็บและแสดงความจำนงที่จะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว.