ทะเลาะเมียน้อย ยกลูกซองขึ้นขู่ เลยยื้อแย่งกัน อีกฝ่ายเจ็บด้วย
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านชะตาขาดปืนลั่นเจาะกลางอกดับอนาถ สาเหตุจากแย่งปืนกับเมียคนที่สองหลังมีเรื่องทะเลาะกัน เนื่องจากผู้ตายไปเห็นเมียรักนั่งใกล้ผู้ชายขณะไปช่วยงานศพเพื่อนบ้าน พอกลับมาบ้านถือปืนลูกซองสั้นรอก่อนมีปากเสียงกันลั่น เมียคนแรกพยายามห้ามศึกแต่ไม่เป็นผล จนเกิดการยื้อแย่งปืนกับเมียคนเล็กจนปืนลั่นโดนมือเมียคู่กรณีก่อนทะลุเจาะอกดับ
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านถูกปืนลั่นเจาะอกดับอนาถรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. ร.ต.อ.มนตรี พุทธขันธ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุมีเหตุยิงกันตายในบ้านเลขที่ 180 หมู่ 5 ต.ขี้เหล็ก รีบรายงานให้ พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ พ.ต.อ.สถาพร โพธิ์ศรี รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ทราบ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ธนัตถ์สันต์ เมืองอินทร์ ผกก.สภ.แม่แตง และชุดสืบสวนพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว
ที่หน้าประตูห้องนอนภายในพบศพนายมานิตย์ ศรีอ่อน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 5 ต.ขี้เหล็กและเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ดังกล่าว สภาพศพนอนหงายในชุดเสื้อยืดและกางเกงขายาวสีดำ กลางหน้าอกพบรอยกระสุนปืนลูกซองหลายรูโดยมีนางศิริเพ็ญ คำคง อายุ 37 ปี บ้านเดิมอยู่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ยืนร่ำไห้อยู่ในที่เกิดเหตุมือซ้ายมีบาดแผลถูกยิงบาดเจ็บด้วย ส่วนบนเตียงพบปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์วางอยู่โดยมีปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้วคาอยู่ สอบสวนเบื้องต้นนางศิริเพ็ญให้การรับสารภาพว่า ใช้ปืนยิงนายมานิตย์เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสอบสวนในรายละเอียด
ต่อมา พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนางศิริเพ็ญทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุอยู่ด้วยกัน 3 คน มีนายมานิตย์ ผู้ตาย นางพรรณี คิดชัย อายุ 64 ปี ภรรยาหลวงและนางศิริเพ็ญซึ่งเป็นภรรยาอีกคน โดยอยู่ร่วมกันมานานแล้ว เนื่องจากทางนางพรรณี ร่างกายไม่แข็งแรงและไม่ค่อยสบาย นายมานิตย์ขอมีภรรยาคนที่สองเพื่อมาช่วยดูแลภรรยาคนแรกด้วย นางพรรณีก็ไม่ได้ว่าอะไร อนุญาตให้พามาอยู่ชายคาบ้านเดียวกันมานานหลายปีโดยไม่มีเรื่องทะเลาะกันแต่นายมานิตย์เป็นคนขี้หึงนางศิริเพ็ญมาก
...
รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า คืนเกิดเหตุ นางศิริเพ็ญไปช่วยงานศพเพื่อนบ้านจนดึก นายมานิตย์เห็นยังไม่กลับบ้านเลยขับรถไปตามให้กลับพร้อมต่อว่าด้วยความหึงหวงที่มีผู้ชายนั่งในงานศพด้วย จากนั้นผู้ตายได้ขับรถมารอที่บ้าน พอนางศิริเพ็ญเสร็จจากงานศพกลับมาถึงบ้าน พบนายมานิตย์นั่งถือปืนรอเป็นเชิงข่มขู่เลยเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ขณะเดียวกันนางพรรณีอยู่ในบ้านด้วยได้ห้ามปรามและให้นางศิริเพ็ญเลี่ยงเข้าไปในห้องนอน แต่ผู้ตายไม่ยอมเดินตามเข้าไปถึงประตูและเกิดการแย่งปืนกันขึ้น กระทั่งปืนลั่นถูกมือนางศิริเพ็ญทะลุเจาะเข้ากลางหน้าอกของนายมานิตย์ล้มทั้งยืนถึงแก่ความตายคาที่ หลังเกิดเหตุนางศิริเพ็ญได้นั่งรอให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว