"วิทยา แก้วภราดัย" อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทีมทนายความ ขึ้นโรงพักปทุมวัน เข้ารับทราบข้อหาหมิ่นประมาท สตช. หลัง “บิ๊กแป๊ะ” สั่งลูกน้องดำเนินคดี...
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ส.ค.61 ที่ สน.ปทุมวัน นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทีมทนายความ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา กรณีที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้แจ้งความฐานหมิ่นประมาท ที่นายวิทยา หลังให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไป Inside Thailand ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง พูดเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.60 ที่ผ่านมา โดยนายวิทยา เข้าพบทางพ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผกก. สน.ปทุมวัน และ พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ รองผกก. (สอบสวน) ร่วมสอบปากคำ และแจ้งข้อหา ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
นายวิทยา เปิดเผยภายหลังเข้ารับทราบข้อหาว่า วันนี้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว ตนขอปฏิเสธโดยยืนยันว่าที่พูดเรื่องการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในรายการนั้นเป็นการแสดงข้อเท็จจริงไม่ได้ทำให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย เป็นการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อประโยชน์สาธารณะ และเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปตำรวจ ถึงวันนี้ตน ตกเป็นผู้ต้องหาเรียบร้อย และขอยื่นพยานเพิ่มเติมให้ตำรวจไปสอบปากคำเพิ่มดังนี้ 1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยกล่าวว่ามีการร้องเรียนเรื่องการซื้อขายตำแหน่งของตำรวจและยังได้ขอบคุณตนที่ออกมาให้สัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด 2. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นบุคคลคนแรกที่โทรศัพท์มาสอบถามข้อเท็จจริงจากตนหลังจากที่ไปออกรายการมา 3. พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ซึ่งตอนนั้นดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ ได้รับคำสั่งจากทาง ตร. ให้สอบข้อเท็จจริงเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง แล้วมีบทสรุปว่ามีมูล สำหรับพยานคนที่ 4 และ 5 คือเจ้าหน้าที่จาก ปปท. ที่ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช สอบตำรวจ บช.ภ.8 จำนวน 20 นาย ซึ่งเป็นพยานที่ทางตำรวจต้องไปสอบปากคำตามที่ตนยื่นเรื่องไป
...
นายวิทยา เปิดเผยต่อไปว่า การปฏิรูปตำรวจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 260 กำหนดให้การปฏิรูปตำรวจต้องแล้วเสร็จภายใน 1 ปี แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดว่า ถ้าการปฏิรูปตำรวจยังไม่แล้วเสร็จ ให้ใช้หลักเกณฑ์การโยกย้ายด้วยยึดหลักอาวุโส แต่มีคำสั่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31ก.ค. ที่ผ่านมา ตีความอาวุโสใหม่ โดยหากเป็นรองผบช.1 ปี และมีผลงานก็เทียบเท่ากับการดำรงตำแหน่งรองผบช. มา 5 ปี ได้ตรงนี้ถือเป็นการเล่นกลเลี่ยงบาลีรัฐธรรมนูญ ตนขอสอบถามไปยังนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ให้ตอบคำถามนี้ในฐานะผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ และขอให้ทาง ครม. ทบทวนเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการเดินเข้ากรอบการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ตนขอให้ตำรวจออกมาปกป้องสิทธิของตัวเอง หากพบว่าคำสั่งดังกล่าวทำลายหลักอาวุโส อาจใช้ช่องทางกฎหมาย หรือยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นโมฆะเพราะขัดกับรัฐธรรมนูญได้
“วันนี้ตนเดินทางมาพบตำรวจเอง ก็ไม่ต้องทำเรื่องประกันตัว สามารถเดินทางกลับบ้านได้ จากนี้ถ้าตำรวจเรียกก็จะเดินทางมาพบ แต่ตนจะทำคำให้การในคดีนี้เป็นลายลักษณ์อักษรส่งให้ตำรวจภายใน 30 วันหลังจากนี้” นายวิทยา กล่าว.