โจรใต้ยังเล่นไม่เลิก ระเบิดแสวงเครื่องซุกโคนต้นยาง เฒ่าวัย 60 เคราะห์ร้ายออกไปกรีดยางตอนเช้า พลาดไปเหยียบกับระเบิด ข้อเท้าขวาขาด คาดเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบ

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 2 ก.ค. 61 พ.ต.ท.จิระศักดิ์ วิกรัยเจริญยิ่ง รอง ผกก.ป.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา นำกำลังออกปฏิบัติหน้าที่รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสื่อสารว่า เกิดเหตุชาวสวนยางพาราเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบ้านกูแย หมู่ 2 ต.สะเอะ ต่อมา พร้อม พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก. นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบร่องรอยจุดเกิดเหตุเป็นหลุมตื้นๆ อยู่บริเวณใต้โคนต้นยางพารา มีเลือดกระจายเปรอะอยู่บนพื้น ส่วนคนเจ็บทราบชื่อ นายสุทิน แห้วขุนทด อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/7 หมู่ 2 บ้านกูแย ต.สะเอะ ข้อเท้าขวาขาดเละ อาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลกรงปินังแล้ว แพทย์ต้องรีบส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์ยะลา

จากการสอบสวนทราบว่า นายสุทิน มีอาชีพกรีดยางพารา ก่อนเกิดเหตุได้ออกจากบ้านพักไปกรีดยางพาราตามปกติ ระหว่างเดินเข้าไปกรีดยางต้นที่เกิดเหตุ คนร้ายคาดว่ากลุ่มก่อความไม่สงบ ได้แอบนำระเบิดแสวงเครื่องประดิษฐ์แบบกับระเบิดไปวางซุกไว้บริเวณโคนต้นยาง โดยวางกะระยะให้ได้ผล กระทั่งนายสุทินเคราะห์ร้าย ก้าวไปเหยียบแล้วเกิดระเบิดดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

สำหรับเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในสวนยางพาราชาวไทยพุทธในระยะนี้ เกิดเหตุติดต่อกันเป็นระยะๆ รายแรกเกิดขึ้นที่บ้านแค่ หมู่ 1 บ้านแค่ ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อเช้าตรู่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา นางวิภาวรรณ ปลอดแก่นทอง อายุ 34 ปี ไปเดินเหยียบขาซ้ายขาดตั้งแต่ใต้หัวเข่า บาดเจ็บสาหัส ต่อมา เช้ามืดวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายชุติพนธ์ นามวงค์ อายุ 47 ปี ชาวบ้าน ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา ไปกรีดยางโดนระเบิดของคนร้ายบาดเจ็บสาหัสไปอีกราย และห้วงเวลาดังกล่าวชาวสวนยางพาราไทยพุทธยังตรวจพบกับระเบิดที่บ้านแอและ หมู่ 6 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา และเขตติดต่อในเขต อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา สามารถเก็บกู้ทำลายได้ทั้ง 2 จุด จนกระทั่งมาเกิดเหตุกับนายสุทิน แห้วขุนทด ได้รับบาดเจ็บเป็นรายล่าสุด

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา นายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทั้ง 8 อำเภอ เพื่อติดตามสถานการณ์ ทบทวนหามาตรการในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการหารือแนวทางการปฏิบัติ โดยให้ทุกอำเภอสำรวจพื้นที่ที่เสี่ยงภัย เน้นพื้นที่ที่ประกอบอาชีพสวนยางของประชาชนชาวไทยพุทธที่อยู่ห่างไกล และง่ายต่อการเข้าก่อเหตุ ให้มีการจัดชุดกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ประสานแจ้งเตือนให้คำแนะนำในการประกอบอาชีพในพื้นที่เสี่ยงภัย ของชุมชนชาวไทยพุทธอย่างเร่งด่วน ให้ใช้กองกำลังประจำถิ่น ชคต. ชรบ. และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ตำบลหมู่บ้าน เน้นเส้นทางหลัก เส้นทางการประกอบอาชีพกรีดยาง โดยประสานกำลังทหาร ตำรวจ อย่างใกล้ชิด ให้ทุก ศปก.อำเภอ ทำการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ เน้นตำบล หมู่บ้าน ชุมชนไทยพุทธ เป็นกรณีพิเศษ ให้ทางนายอำเภอ ปลัดอำเภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจำตำบล จัดทำแผนตรวจเยี่ยมชุมชนไทยพุทธในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจแก่ประชาชน และให้ทาง ศปก.อำเภอทุกอำเภอ จัดประชุมปรึกษาหารือสามฝ่าย กำหนดมาตรการดูแลคุ้มครองพื้นที่เสี่ยงภัย.