เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เจอจุดชำแหละหมีเขาใหญ่ อยู่กลางป่า ติดแหล่งน้ำ คาดมีสัตว์ถูกนำมาชำแหละบริเวณนี้บ้างแล้ว จ่อหมายจับอีก 2 คนร่วมแล่ ...
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ หลังเจ้าหน้าที่สอบสวน นายอภิวัฒน์ นิลสนธิ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาชำแหละหมีเขาใหญ่ พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ที่บ้านปอหู ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก่อนจะส่งศาลฝากขังต่อในวันพรุ่งนี้ ร.ต.อ.อาทิตย์ พูนไธสง รอง สว.(สอบสวน) สภ.หมูสี เปิดเผยว่า ขณะนี้เพื่อนผู้ร่วมชำแหละหมีควาย อีก 2 คน ยังหลบหนีอยู่ ตำรวจพยายามแจ้งให้เข้ามอบตัว แต่ยังเงียบเฉย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (19 ก.พ.) จะขออนุมัติหมายจับจากศาล จ.สีคิ้ว เพิ่มอีก 2 คน คือ นายสุรศักดิ์ (ไม่ทราบนามสกุล) และชายอีกคนที่ นายอภิวัฒน์ ยังไม่ยอมบอกชื่อ ซึ่งร่วมกับ นายอภิวัฒน์ ช่วยกันยกหมีในป่าที่ติดบ่วง ขึ้นรถปิกอัพ ไปชำแหละ
ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ไปดูบริเวณที่หมีเขาใหญ่ติดบ่วง และบริเวณจุดชำแหละหมี โดยจุดที่หมีติดบ่วงนั้นอยู่ติดกับแปลงข้าวโพดของชาวบ้านเป็นป่ารกทึบ มีคลองน้ำใกล้ๆ โดยอยู่ติดกับถนนทางหลวงชนบท ต.หมูสี ไป อ.วังน้ำเขียว และอยู่ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ประมาณ 5 กม.
เมื่อหมีติดบ่วงแล้ว หมีดิ้นเพื่อให้หลุดจากบ่วงเพื่อเอาชีวิตรอดไปมาอย่างทรมาน เพราะต้นไม้บริเวณนั้นหักหลายต้น อีกทั้งยังมีเลือดติดตามต้นไม้อีก จากนั้นกลุ่ม นายอภิวัฒน์ ได้ใช้รถปิกอัพถอยหลังเข้ามา แล้วช่วยกันยกหมีขึ้นรถออกไปในไร่ข้าวโพด ที่คนไม่พลุกพล่าน ห่างจากจุดที่หมีติดบ่วง ประมาณ 4 กม. ซึ่งไม่มีบ้านเรือนราษฎรเลย ก่อนชำแหละจะใช้ใบตองรองพื้น เนื่องจากพบกองเลือดหลายกอง และยังพบขวดเหล้า ขวดเบียร์ ทั้งเก่าและใหม่ จำนวนหลายขวด
...
และบริเวณที่ชำแหละนี้ยังติดกับบ่อน้ำ ซึ่งสะดวกในการทำความสะอาด เมื่อตรวจดูรอบๆ บริเวณแห่งนี้ ไม่น่าจะเป็นการชำแหละหมีเป็นครั้งแรก น่าจะมีการชำแหละสัตว์อื่นๆ มาก่อนหน้านี้บ้างแล้ว เพราะสถานที่เหมาะสม อยู่ในป่าที่ไม่มีใครเข้าไปได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หมูสี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กระจายกันลงพื้นที่หาข่าว เพื่อหาข้อมูลติดตามจับกุมกลุ่มชำแหละสัตว์ป่าในอุทยานฯ เขาใหญ่.