เจอตัวแล้วโจรสาวสุดแสบ ฉากหน้าเป็นแม่ค้ายำ เบื้องหลังออกตระเวนหลอกร้านอาหาร ขอซื้อครั้งละมากๆ เช่น ส้มตำ 30 ครก ไก่ย่าง 5 ตัว ก่อนออกอุบายให้เจ้าของซ้อนจยย.มาปล่อยทิ้ง ตัวเองย้อนไปลักของ ผู้เสียหายมากถึง 21 ราย... 

 เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 1 ก.พ. 61 ที่หน้าห้อง ศปก.สภ.เมืองขอนแก่น นายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นายอำเภอเมืองขอนแก่น พ.ต.อ.จรัสพัฒน์ สุตยสรณาคม รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หน.กกล.รส.จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมแถลงผลการสืบสวนและจับกุมนางนิภาพร หรืออุ๊ บุญใหญ่ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256 ม.6 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น


พ.ต.อ.จรัสพัฒน์ สุตยสรณาคม รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า หลังจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น จับกุมผู้ต้องหา ในข้อหา ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการทรัพย์ พร้อมของกลางหลายรายการ จากนั้นได้สืบสวนขยายผล ว่าก่อเหตุที่ใดบ้าง เพราะมีประชาชน นักเรียน นักศึกษา เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ใช้กลอุบาย หลอกผู้เสียหายที่อยู่เฝ้าร้านขายของคนเดียว ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและผู้สูงอายุให้ตายใจ แล้วย้อนกลับมาลักทรัพย์ ซึ่งในพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น ก่อเหตุในร้านขายส้มตำ ขายก๋วยเตี๋ยว ขายกาแฟ ร้านพิซซ่า และลักโทรศัพท์มือถือ ลักคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของนักศึกษา รวมแล้ว 21 ราย นอกจากนี้ ยังมีหมายจับและถูกอายัดตัวในคดีเดียวกันจาก สภ.เมืองกาฬสินธุ์อีกด้วย


...

รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีอาชีพขายกับข้าวในศูนย์อาหารภายในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม และมีบ้านพักอยู่ที่ อ.กันทรวิชัย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ข้ามเขตมาก่อเหตุในจังหวัดขอนแก่นหลายครั้ง เช่นการไปสั่งส้มตำครั้งละ 20-30 ครกๆ สั่งพิซซ่าครั้งละหลายถาด สั่งไก่ย่าง ครั้งละ 5-10 ตัวโดยอ้างว่าจะนำไปเลี้ยงเพื่อน เลี้ยงเด็กๆ ในที่ทำงาน
ขณะที่เจ้าของร้านกำลังทำส้มตำ ก็จะใช้อุบายว่า กลับไปเอาถาด หรือตะกร้ามาใส่ของกิน โดยให้เจ้าของร้านขี่รถซ้อนท้ายไปด้วย เมื่อถึงหน้าหอพัก ซึ่งห่างจากร้านประมาณ 300-500 เมตรก็จะให้ลงรถและบอกว่าให้รอ จังหวะนั้นผู้ต้องหาจะย้อนกลับไปที่ร้าน เพื่อลักเอาทรัพย์สินต่างๆ แล้วขี่รถกลับไปที่จังหวัดมหาสารคาม นำทรัพย์สินไปฝากขายที่ร้านร้บซื้อขายสินค้ามือสอง ได้เงินมาก็นำไปใช้เที่ยวเตร่และซื้อของแต่งตัว

"ฝากถึงประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง หากใครได้รับความเสียหายจากผู้ต้องหารายดังกล่าว หรือสงสัยว่า ผู้ต้ององหารายนี้จะลักทรัพย์ในร้านไป ให้ไปดูทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ยึดมาได้ที่งานสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น มีทั้งโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อต่างๆ รวม 11 เครื่อง โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง แทบเล็ต 1 เครื่อง

นายภัทรพล ซาซุม อายุ 28 ปี เจ้าของร้านส้มตำโสเหล่ หน้า มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น ซึ่งถูกผู้ต้องหาลักเอาโน้ตบุ๊กไป 1 เครื่องและเดินทางมาดูของกลางที่ตำรวจยึดคืนมาได้ เปิดเผยว่า ช่วงสายวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติ ผู้ต้องหาขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีเขียว ไม่ติดทะเบียน สั่งส้มตำ ซึ่งเป็นตำหอยแครงครกละ 100 บาท จำนวน 30 ครก ไก่ย่าง 5 ตัว อ้างว่าจะนำไปเลี้ยงเด็กๆ ในวันเด็กแห่งชาติ สั่งแล้วยังไม่มีการจ่ายเงิน แต่บอกว่าจะกลับห้องพักไปเอาถาดใส่ส้มตำ แต่ไม่มีคนช่วยถือของ จึงได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วยกัน แต่ไปได้ไม่ไกล ก็จอดรถ และทิ้งให้รอข้างถนน โดยผู้ต้องหาบอกว่าลืมกุญแจห้องพัก ตนรอ ประมาณ 30 นาที ไม่กลับมา จึงเดินกลับไปที่ร้าน ปรากฏว่าโน้ตบุ๊กที่วางไว้ในร้านหายไป เมื่อดูกล้องวงจรปิดจากร้านค้าใกล้เคียงจึงรู้ว่าผู้ต้องหาขี่รถย้อนกลับไปลักทรัพย์ในร้านแล้วหลบหนีไป ซึ่งโชคดีที่ยังไม่ได้ลงมือตำส้มตำ.