“พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์” อธิบดีกรมคุก คนที่ 35 เริ่มงานวันแรก เล็งแก้ปัญหาผู้พ้นโทษไม่ให้กระทำผิดซ้ำ พร้อมสานต่อนโยบาย 5 ก้าวย่าง แห่งการเปลี่ยนแปลงราชทัณฑ์
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ 2 ต.ค. 60 ที่ห้องสัมมนา กรมราชทัณฑ์ ชั้น 3 พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ คนที่ 35 ได้ประชุมชี้แจงและมอบนโยบายให้แก่ ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ผบ.เรือนจำ และ ผอ.ทัณฑสถาน ทั่วประเทศ
โดย พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของงานราชทัณฑ์ที่ต้องแก้ไข เช่น เรื่องผู้ต้องขังล้นคุก เนื่องจากมีกฎหมายที่มีโทษทางอาญาถึงขั้นจำคุกเป็นจำนวนมาก ทำให้การแก้ไขฟื้นฟูด้อยประสิทธิภาพ และยังไม่เห็นผลอย่างชัดเจนเท่าที่ควร นอกจากนี้ เรือนจำโดยส่วนใหญ่มีสภาพเก่าและทรุดโทรม เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานาน มีลักษณะเป็นโรงเรือน ทำให้ต้องควบคุมผู้ต้องขังแบบรวม ประกอบกับจำนวนผู้ต้องขังที่มีมาก ทำให้อัตราส่วนของเจ้าหน้าที่ต่อการควบคุมผู้ต้องขังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล จึงทำให้เกิดภาวการณ์ดูแลผู้ต้องขังไม่ทั่วถึง ดังนั้น เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษออกมาส่วนหนึ่ง จึงได้ย้อนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก ซึ่งจะได้พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และพัฒนาปรับปรุงงานราชทัณฑ์ต่อไป
...
"โดยยึดนโยบาย 5 ก้าวย่างของ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีกฎเหล็กเรื่องการห้ามมียาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้ามต่างๆ มีการจัดระเบียบเรือนจำให้สะอาดทุกตารางนิ้ว ฝึกวินัย และสมาธิให้แก่ผู้ต้องขัง รวมทั้งสร้างการยอมรับของสังคม เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษ ทั้งนี้ ภารกิจของกรมราชทัณฑ์ ตั้งแต่ต้นจนจบเป็น 7 ก. ซึ่งประกอบไปด้วย 1. กักขัง 2. แก้ไข 3. ยึดหลักกฎหมาย 4. วางกรอบ 5. กลั่นกรอง (การจำแนก จัดชั้นผู้ต้องขัง และการพัก/ลดการลงโทษ) 6. ให้กำลังใจ และ 7. กลับตัว (เป็นคนดีคืนสู่สังคม) และสำหรับทิศทางการบริหารงานราชทัณฑ์ที่จะดำเนินต่อไปภายใต้การบริหารของตน ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ท่านปัจจุบัน คือ การใช้แนวทาง 3 ส. ในการปฏิบัติหน้าที่ คือ สะอาด สุจริต และเสมอภาค" พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าว