DSI แถลงจับแก๊งค้ามนุษย์เป็นอปป้าเกาหลีตัวแสบ หลอกหญิงไทยไปทำงานนวดแผนโบราณต่างประเทศ สุดท้ายบังคับค้ากามอย่างทารุณ เล่นเซ็กซ์ทางทวารหนัก แถมโดนข่มขู่ทำร้ายร่างกาย จนท.คุมฝากขังศาลอาญาทันที พร้อมค้านประกันตัว เกรงหลบหนี...

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ส.ค.60 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ. ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะที่กำกับดูแลศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ พ.ต.อ. อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีการค้ามนุษย์และคดียาเสพติด หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปราม 1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายคิม ฮยอง จุน (Mr.Kim Hyoung Joon) สัญชาติเกาหลี อายุ 39 ปี ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีดังกล่าวได้ ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ฯลฯ หลังหลอกลวงหญิงไทยบังคับค้าประเวณีที่ประเทศเกาหลีใต้ 

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า ดีเอสไอได้รับข้อมูลจากองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ว่ามีหญิงไทยถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณี ณ สาธารณรัฐเกาหลี โดยหลอกลวงว่าจะพาไปทำงานนวดแผนไทย แต่เมื่อเดินทางไปถึงสาธารณรัฐเกาหลีกลับมีการบังคับให้ค้าประเวณีอย่างทารุณ รวมทั้งยึดหนังสือเดินทาง และกักขังโดยมีบุคคลคอยควบคุมอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐเกาหลีได้เข้าไปช่วยเหลือผู้เสียหาย และจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวเกาหลี จำนวน 8 ราย พร้อมดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าว นำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย เป็นหญิงสัญชาติไทย 1 ราย และชายสัญชาติเกาหลี จำนวน 1 ราย

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า กระทั่งเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.อาริชย์ ทัศน์พันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม 3 ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอย และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าตรวจค้นอาคารชุดพักอาศัยชื่อ The Log 3 ซอยสุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร สามารถจับกุมตัวนายคิม ฮยอง จุน ได้สำเร็จ และยังพบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐเกาหลีด้วย เนื่องจากมีหมายจับในคดีค้ามนุษย์ และตำรวจอินเตอร์โพลต้องการตัวมาดำเนินคดีเช่นกัน ดีเอสไอจะส่งตัวให้ทางเกาหลีใต้ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนเมื่อหลังพ้นโทษจากประเทศไทย

...

"พฤติการณ์ของคนร้ายจะหลอกลวงหญิงไทยโดยออกอุบายว่าจะให้ไปทำงานที่เกาหลีใต้มีรายได้ดี ทำงานนวดแผนโบราณ โดยออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ทั้งหมด ปรากฏว่าเมื่อเหยื่อหลงเชื่อเดินทางไปกลับถูกบังคับค้าประเวณี พร้อมถูกยึดหนังสือเดินทางไว้ ซึ่งมีหญิงไทยตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก แต่คดีนี้มีหญิงไทย 2 รายให้ข้อมูลกับตำรวจจึงทราบพฤติกรรมคนร้าย ส่วนอีกหลายรายไม่กล้าให้ข้อมูลเพราะอับอาย" พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าว

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า เหยื่อจะถูกบังคับทารุณให้ค้าประเวณีทางทวารหนักและไม่ใส่ถุงยางอนามัย มีการข่มขู่ทำร้ายร่างกายเหยื่อจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางดีเอสไอจะดำเนินการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.คมวิชช์ กล่าวว่า อาชีพนวดแผนโบราณ เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนพิการเท่านั้น หากใครเข้าไปทำถือว่ามีความผิด ดังนั้นหากใครถูกชักชวนไปทำถือว่าผิดกฎหมายแน่นอน ตอนนี้ตัวเลขหญิงไทยถูกหลอกลวงไปค้าประเวณีจำนวนมากอย่างน่าตกใจ อย่างไรก็ตาม ทางดีเอสไอได้ควบคุมตัว นายคิม ฮยอง จุน ผู้ต้องหาส่งศาลอาญารัชดาภิเษกเพื่อฝากขังต่อไป

ต่อมา เมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คุมตัวนายคิม ฮยอง จุน (Mr.Kim Hyoung Joon) สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันค้ามนุษย์ ฯลฯ เป็นผู้ต้องหาสำคัญที่ประเทศเกาหลีใต้ต้องการตัว ก่อเหตุหลอกลวงหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณีที่เกาหลีไปฝากขังต่อศาลอาญา ผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 18-29 ส.ค.60 คำร้องระบุว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2560 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นอาคารชุดพักอาศัยชื่อ The Log 3 ซอยสุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร จับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ตามหมายจับ หลังก่อเหตุล่อลวงผู้หญิงไทยไปค้าประเวณีที่ประเทศเกาหลี และประเทศเกาหลีกำลังต้องการตัวไปดำเนินคดี แต่การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ จึงขอฝากขังและคัดค้านการประกันตัว เกรงว่าจะหลบหนี ซึ่งศาลอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง.