หิ้วนักธุรกิจเจ้าของสายการบิน เหยื่อร้อง‘บิ๊กป้อม’ช่วยทลาย
บุกจับแก๊งพลตรี-พ.ต.ท.อุ้มเรียกค่าไถ่นักธุรกิจท่องเที่ยวและสายการบินชาวไทยเชื้อสายจีน 20 ล้าน บาท กล่าวหาเหยื่อมีบัตรประชาชนปลอม แต่ต่อรองเหลือ 2 ล้านบาทจึงถูกปล่อยตัวมา หลังรอดชีวิตเข้าร้องเรียน “บิ๊กป้อม” รองนายกฯ ไฟเขียวตำรวจ 191 ท่องเที่ยว และนครบาล รวบรวมหลักฐานอนุมัติหมายจับยกแก๊ง 10 คน รวบแล้ว 8 คน เหลืออีก 2 คน อยู่ระหว่างตามจับกุม
191 รวบแก๊งนายพลอุ้มนักธุรกิจชาวจีนเรียกค่าไถ่รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 10 ส.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิติธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. และกำลังตำรวจ 191 ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันจับกุมแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่นายสุรชัย แซ่ย่าง เจ้าของบริษัทนิวเจนแอร์เวย์ และบริษัทคันต้า กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด เป็นเงิน 20 ล้านบาท แต่ญาติขอต่อรองเหลือ 2 ล้านบาท โอนเงินไปให้แก๊งคนร้ายแล้วนายสุรชัยจึงถูกปล่อยตัวมา
หลังรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ขออนุมัติศาลออกหมายจับทั้งหมด 10 คน จับกุมแล้ว 8 คน ประกอบด้วย พล.ต.จรูญ อำภา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ ยุทยา พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. นายเสาวเดช ศักดิ์กิตตินันท์ นายอภิวัฒน์ ศรีนะพรม นายเทพพิทักษ์ รัดทะนี นายทรงวุฒิ เที่ยงธรรม นายโอภาส ศรียา นายอุทิศ ก่อแก้ว นายฐิติกร ชื่นอุรา และนายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ แจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์และบุกรุก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.ค. เวลาประมาณ 12.00 น. กลุ่มชายฉกรรจ์แต่งชุดลายพรางทหาร 4 คน และแต่งนอกเครื่องแบบอีก 5 คนรวม 9 คน บุกเข้าไปหานายสุรชัย แซ่ย่าง ที่บริษัทคันต้า กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด เลขที่ 68 ซอยนวลจันทร์ 34 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบสังกัด 191 และกองปราบปราม ขอตรวจค้นบริษัทเกี่ยวกับความมั่นคงโดยไม่มีหมาย จากนั้นกลุ่มคนร้ายแสดงเอกสารทะเบียนราษฎรและบัตรประชาชนของนายสุรชัย กล่าวหาว่าทำเอกสารทะเบียนราษฎรและบัตรประชาชนปลอม จากนั้นพานายสุรชัยไปพบผู้บังคับบัญชา ที่ กอ.รมน.ดอนเมือง ขึ้นรถยนต์เล็กซัส ทะเบียน วฉ 1100 กรุงเทพมหานคร ขณะนั่งรถไปมีนายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ เป็นคนขับรถและเป็นล่ามภาษาจีนไปในตัว มีชายใส่เครื่องแบบทหารนั่งประกบ
...
แต่ก่อนที่จะออกมาจากบริษัทฯผู้เสียหายกลัวไม่ปลอดภัยจึงแจ้งให้นายจีราวัฒน์ ลลิตนาถสิริ พนักงานในบริษัทฯขับรถตามไปด้วย จากนั้นกลุ่มคนร้ายพานายสุรชัยไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง พบ พล.ต.จรูญ พูดว่า นายสุรชัยมาจากไหน ได้บัตรประชาชนมายังไง ข่มขู่ว่าทำผิดกฎหมาย กล่อมให้เคลียร์ให้จบ นายโก๊ะ เต็ก ชวน สื่อสารเป็นภาษาจีนกับนายสุรชัยว่า เจ้านายต้องการค่าคุ้มครอง 20 ล้านบาท พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์เสริมว่า จ่ายๆไปจะได้จบ แต่นายสุรชัยพยายามต่อรองจนเหลือ 2 ล้านบาท สั่งให้นายจีรวัฒน์ขับรถกลับไปเอาเงินไปให้นายโอภาส ศรียา 1 ในกลุ่มคนร้ายที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนวิภาวดีรังสิต 1 ล้านบาท จึงยอมปล่อยตัวนายสุรชัยออกมา ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผู้เสียหายให้นายจีรวัฒน์ไปโอนเงินให้คนร้ายอีก 1 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารชื่อนายโอภาส ศรียา
หลังจากนั้นนายสุรชัยตัดสินใจเข้าพบ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เพื่อขอความช่วยเหลือ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนหาข้อมูลทางลับ เนื่องจากกลุ่มผู้กระทำผิดเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่และมีนายตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง จนได้ข้อมูลว่ากระทำผิดจริง จึงให้ผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ท้องที่เกิดเหตุ จนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญา อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 10 คน ขณะนี้จับกุมได้แล้ว 8 คน เหลือผู้ต้องหาอีก 2 คน คือนายอุทิศ ก่อแก้ว และนายฐิติกร ชื่นอุรา ที่ยังหลบหนี อยู่ระหว่างตามจับกุม
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. เผยว่า ตำรวจ 191 และตำรวจท่องเที่ยวจับกุมแก๊งเรียกค่าไถ่ที่เข้าไปควบคุมตัวเจ้าของบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งและเป็นเจ้าของสายการบินน้องใหม่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ค. อ้างว่าควบคุมตัวคดีความมั่นคง ก่อนนำตัวไปต่อรองกับนายทหารยศพลตรีเรียกเงิน 20 ล้านบาท ขณะที่ญาติผู้เสียหายบอกว่า จ่ายเงินให้แก๊งเรียกค่าไถ่ 2 งวด งวดละ 1 ล้านบาท งวดแรกจ่ายหลังจากตกลงแล้ว และอีก 1 สัปดาห์ต่อมาโอนเงินเข้าบัญชีให้แก๊งเรียกค่าไถ่อีก จากนั้นรวบรวมเอกสารเข้าร้องทุกข์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นที่มาของการจับกุมครั้งนี้