กรรมติดจรวด โจรคู่หู 2 โจ๋ยานนาวา ยืม จยย.คนรู้จัก เอามาเปลี่ยนป้ายทะเบียน ขี่ออกล่าเหยื่อ พยายามกระชากสร้อยแต่ไม่สำเร็จ เลยขี่หนี ถูก จยย.รับจ้างพลเมืองดีไล่ตามติด ตัดสินใจขี่ขึ้นสะพานยูเทิร์น รถไปชนราวสะพาน ตกลงไปกระแทกกระดูกหัก อาการสาหัส... 

เวลา 08.00 น. วันที่ 6 ส.ค. ร.ต.อ.กนกพล ไกรราม รอง สว.(สอบสวน) สน.บางมด รับแจ้งมีเหตุรถจักรยานยนต์ชนขอบสะพานกลับรถ มีผู้ตกลงมาได้รับบาดเจ็บ บริเวณสะพานกลับรถหน้าหมู่บ้านชิชา ถนนพระราม 2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.สมหมาย เดี่ยวรัตนกุล สวป.สน.บางมด ร.ต.อ.นัทธพงศ์ แก้วอยู่ รอง สว.สส. ทีมแพทย์กู้ชีพ รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นสะพานกลับรถหน้าหมู่บ้าน ซึ่งใช้เป็นจุดกลับรถจากฝั่งพระราม 2 ขาออก มุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า ความสูงจากพื้นถนนประมาณ 10 เมตร จากการตรวจสอบด้านบนบริเวณกลางสะพาน พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีม สีขาว-แดง ทะเบียน 5 กพ 5598 กรุงเทพมหานคร แต่ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม 4 กม 8781 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่ 1 คัน ส่วนผู้ขับขี่และซ้อนท้าย ร่างกระแทกขอบสะพานตกลงไปอยู่บนถนนตรงช่องทางด่วนด้านล่าง ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 คน

...

ทราบชื่อคนขับคือ นายวีรพงษ์ เนธิบุตร อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 262 ตรอกนอกเขต แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. สภาพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงลายดอกขาสั้น นอนหายใจรวยริน มีบาดแผลกระดูกหักผิดรูปที่บริเวณสะโพก ถูกนำตัวส่ง รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ส่วนคนซ้อนท้าย ชื่อ นายบริสุทธิ์ สุขเพีย อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 806/3 ซอยพัฒนาการ 1 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ มีบาดแผลศีรษะกระแทกพื้นจนหมดสติ แพทย์ช่วยกันปั๊มหัวใจจนสัญญาณชีพกลับมา ก่อนนำส่งรักษาอาการที่ห้องไอซียู รพ.บางมด

จากการสอบถาม นายอภิชาติ แซ่อุ้น อายุ 57 ปี พลเมืองดีที่ขี่รถไล่หลังผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 รายมา เล่าว่า ตนมีอาชีพขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ที่วินวัดไทร ถนนเอกชัย ก่อนเกิดเหตุขี่รถมาทำธุระที่ตลาดร่วมมิตร ถนนวุฒากาศ ปากซอย 13 ท้องที่ สน.ตลาดพลู พบเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน ขี่รถเข้าไปพยายามกระชากสร้อยคอทองคำของผู้เสียหายชายรายหนึ่ง อายุประมาณ 60 ปี ที่เดินอยู่หน้าตลาดดังกล่าว แต่กระชากไม่สำเร็จ เพราะมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์อยู่เยอะ ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายจึงเร่งเครื่องหลบหนีจากถนนวุฒากาศเข้าสู่ถนนจอมทอง ถนนสุขสวัสดิ์ และเข้าสู่ถนนพระราม 2 ขาออก ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร โดยมีตนขับขี่ไล่ตามมาแบบติดๆ กระทั่ง นายวีรพงษ์ ผู้ขับขี่ตัดสินใจเร่งเครื่องพา นายบริสุทธิ์ ขึ้นสะพานกลับรถบริเวณหน้าหมู่บ้านชิชาด้วยความเร็วสูง ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนขอบสะพาน ร่างของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ร่วงตกลงมากระแทกพื้นถนนจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนตนรีบโทรศัพท์แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้าน ร.ต.อ.นัทธพงศ์ กล่าวว่า คดีนี้ผู้เสียหายยังไม่สูญเสียทรัพย์สิน จึงไม่ได้เดินทางไปแจ้งความเอาไว้กับพนักงานสอบสวน สน.ตลาดพลู ท้องที่ที่เกิดเหตุ แต่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวเพื่อให้มาเป็นเจ้าทุกข์คดีพยายามชิงทรัพย์ ขณะนี้สายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.บางมด อยู่ระหว่างเฝ้าดูอาการของผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่โรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบประวัติทั้งคู่ยังไม่พบว่าเคยต้องคดีหรือกระทำผิดกฎหมาย ส่วนรถจักรยานยนต์ของกลางที่พลิกคว่ำอยู่บนสะพานกลับรถนั้น ตามข้อมูลพบว่าเป็นรถของคนรู้จักกันที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยืมเอามาก่อเหตุและวางแผนเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนก่อนลงมือ เบื้องต้นจะอายัดตัวทั้ง 2 รายไว้ดำเนินคดีใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถปลอม ก่อนติดตามตัวเจ้าของรถมาให้ปากคำต่อไป.