ชุดส่งกำลังอัตโนมัติในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม การดูแลรักษาระบบส่งกำลังในรูปแบบเกียร์ออโต้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ตามระยะทางที่ใช้งาน ในความเป็นจริง เกียร์อัตโนมัติอาจเป็นส่วนประกอบเชิงกลที่ซับซ้อนที่สุดในรถยนต์ ระบบเกียร์อัตโนมัติประกอบไปด้วยระบบไฟฟ้ากับระบบกลไก ระบบไฮดรอลิก และตัวประมวลผลคอมพิวเตอร์เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์และถ่ายโอนกำลังของเครื่องยนต์ไปยังล้อขับเคลื่อนเป็นไปอย่างอย่างราบรื่น
...
ระบบเกียร์อัตโนมัติมีชิ้นส่วนที่ซับซ้อนมากมาย น้ำมันเกียร์ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่หล่อลื่นชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ยังให้แรงดันไฮดรอลิกและแรงเสียดทาน เพื่อให้ชิ้นส่วนภายในของระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ น้ำมันเกียร์อัตโนมัติยังช่วยหล่อเย็นระบายความร้อนให้กับระบบเกียร์ออโต้อีกด้วย
การเปลี่ยนเกียร์เป็นงานที่ต้องใช้กำลังมากสำหรับรถยนต์ น้ำมันเกียร์คือสิ่งที่ช่วยให้รถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างง่ายดายไหลลื่น โดยไม่ทำให้ชิ้นส่วนสึกหรอ น้ำมันเกียร์อัตโนมัติถูกสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1940 และมีบทบาทสำคัญในรถยนต์นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา น้ำมันเกียร์อัตโนมัติไม่เหมือนกับน้ำมันเกียร์ธรรมดา น้ำมันเกียร์อัตโนมัติเป็นน้ำมันเกียร์ที่ใช้เฉพาะกับเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น ในกรณีของเกียร์ธรรมดาที่ใช้คลัตช์และคันเกียร์ระหว่างการเปลี่ยนเกียร์ จะใช้น้ำมันเกียร์ธรรมดา
น้ำมันเกียร์อัตโนมัติมีหลายประเภทและมีคุณภาพที่แตกต่างกัน เมื่อต้องเลือกน้ำมันเกียร์ให้ถูกต้องตรงกับรถของคุณ วิธีที่ดีที่สุดคือ ดูจากการอ้างอิงในคู่มือประจำรถ หรือปรึกษาศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ที่มีความเชี่ยวชาญเชื่อถือได้
เกียร์ออโต้ที่อยู่ในรถรุ่นใหม่ๆ ปัจจุบันนี้มีอยู่ 3 แบบ คือ
เกียร์ AT (Automatic Transmission)
เกียร์ CVT (Continuously Variable Transmission)
เกียร์ DCT (Dual-Clutch Transmission)
ซึ่งเกียร์อัตโนมัติทั้งสามรูปแบบ มีระบบการทำงานที่แตกต่างกัน
...
การทำงานที่ต่างกันของระบบและชิ้นส่วนภายใน น้ำมันหล่อลื่นที่สดใหม่ จึงมีความสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้งานเกียร์ออโต้ โดยเฉพาะการหล่อลื่นชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ ภายในเกียร์และระบายความร้อน นอกเหนือจากปัญหาในการใช้งานที่ไม่ถูกต้องแล้ว น้ำมันเกียร์ที่หมดสภาพจะกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาด้านการใช้งาน เช่น เกียร์ไม้เปลี่ยน (เกียร์หวืด) ออกตัวช้า ต้องรอนาน มีเสียงดัง กระตุกกระชาก ควรเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ทุก 40,000 กิโลเมตร เกียร์ CVT ที่ใช้งานหนักย่นระยะลงมาที่สามหมื่นกิโลเมตร โดยเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นระบบส่งกำลังอัตโนมัติให้ถูกต้อง ใช้น้ำมันเกียร์ให้ตรงกับประเภท หรือรูปแบบของเกียร์ที่แตกต่างกันสามแบบ (AT/CVT/DCT)
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งความจริงแล้วยังมีความจำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะน้ำมันเกียร์ก่อนใช้จะมีสีเหลืองหรือสีแดงใส แต่เมื่อใช้ไปสักพักจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม แล้วเมื่อใช้ไปนานๆ เข้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำในที่สุด และยังมีลักษณะข้นเหนียวหนืดกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งเกิดความร้อนในการทำงานของระบบเกียร์ และเศษโลหะที่เข้าไปปะปน จึงทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพลงนั่นเอง
...
หากไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เมื่อถึงระยะ ก็อาจจะทำให้เกียร์พังได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย เพราะแทนที่จะเสียเงินซื้อน้ำมันเกียร์เพียงหลักร้อยหลักพัน กลับต้องเปลี่ยนเกียร์ทั้งลูกเป็นหลักหมื่น ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เมื่อถึงระยะเวลาที่เหมาะสม หรือหากไม่แน่ใจว่าถึงระยะแล้วหรือยัง ก็สามารถนำรถเข้าไปเช็กที่ศูนย์รถยนต์หรืออู่ซ่อมรถได้เช่นกัน
...
ปกติแล้วอายุการใช้งานของน้ำมันเกียร์ออโต้ จะอยู่ที่ประมาณ 30,000-40,000 กิโลเมตร ซึ่งการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์จะช่วยยืดอายุเกียร์ไปได้อีกนาน และช่วยให้ประหยัดเงินไปได้เยอะเลยทีเดียว แม้ว่าการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์จะไม่สามารถถ่ายน้ำมันเก่าออกมาได้ทั้งหมด 100% โดยจะมีน้ำมันเก่าหลงเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย แต่ไม่ได้ส่งผลเสียต่อเกียร์เท่าไรนัก
อย่างไรก็ตาม หากต้องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ให้ได้ทั้งหมด 100% อาจต้องใช้เครื่องมือพิเศษเข้ามาช่วย นั่นคือการถ่ายน้ำมันเกียร์แบบ Flushing ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์โดยสมบูรณ์นั่นเอง โดยจะช่วยยืดเวลาในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ได้ประมาณ 3-4 ปี แต่ประเทศไทยมีสภาพอากาศที่เป็นตัวกัดกร่อนการทำงานของสารหล่อลื่น จากความร้อน ความชื้น และสภาพการใช้งานที่ขาดความระมัดระวังหรือไม่เข้าใจหลักการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติ การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์อัตโนมัติที่ระยะ 3-4 หมื่นกิโลเมตร จึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ โดยเฉพาะรถใหม่ที่วิ่งเยอะเกิน 100,000 กิโลเมตรในระยะเวลาแค่ 3-4 ปี.