การขับรถที่ถูกต้องตามหลักความปลอดภัย สิ่งหนึ่งที่พึงระวังก็คือ หลีกเลี่ยงการใช้เบรกแบบกะทันหัน เพื่อลดอุบัติเหตุรถคันหลังเบรกไม่ทันแล้วพุ่งชนท้าย การเบรกแบบฉุกเฉินเป็นสาเหตุที่นำพาไปสู่อุบัติเหตุสองทางคือ หยุดไม่ทันแล้วชนท้ายคันข้างหน้า เนื่องจากไม่ได้ทิ้งระยะเบรกที่เหมาะสมกับการใช้ความเร็ว ขาดสมาธิ หรือไม่ได้จดจ่ออยู่กับการควบคุมรถ หรือหยุดทัน แต่โดนรถคันหลังชนท้าย

...

อุบัติเหตุชนท้ายจากการเบรกไม่ทัน เกิดขึ้นบ่อยครั้งเมื่อคนขับขาดความระมัดระวัง อาจหยิบสิ่งของ ปรับตั้งหรือเลือกฟังก์ชันที่หน้าจอภาพ หรือมองโทรศัพท์ พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่ารถข้างหน้าเบรกแต่ตัวเองไม่ทันระวัง ทำให้เบรกไม่ทัน อุบัติเหตุจากการเบรกช้าเกินไปเกิดขึ้นได้ทุกที่โดยเฉพาะในเขตเมือง จากการขับทิ้งระยะที่ไม่มากพอ ขาดสมาธิมุ่งไปที่โทรศัพท์มากกว่าการขับรถ ใจลอยไม่จดจ่ออยู่กับการขับ ใช้ความเร็วสูงเกินไป การขับด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด โดยเฉพาะในเขตเมือง จะช่วยทำให้ไม่ต้องใช้เบรกหนัก หรือกดเบรกเต็มเหนี่ยว ถนนในเมือง หรือบนทางหลวงชนบทที่มักมีชาวบ้านสัญจรไปมาด้วยจักรยาน มอเตอร์ไซค์ ที่พร้อมจะเปลี่ยนช่องทางอย่างขาดความระมัดระวัง 

รู้จักใช้วิธีการยกคันเร่งเมื่อสังเกตเห็นรถคันหน้าแตะเบรก เพื่อลดความเร็วให้มีความนิ่มนวล ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักไปที่แป้นเบรก คนนั่งข้างๆ จะได้ไม่หวาดระแวงว่าคุณจะเบรกไม่อยู่ ดีกว่ากดเบรกหนักแล้วปล่อย แล้วก็กดอีกครั้ง การขับเข้าใกล้ท้ายรถคันข้างหน้ามากเกินไป จะทำให้ระยะเบรกหดสั้นลง เบรกหนักขณะที่ผิวถนนเปียกชื้น ระยะเบรกจะเพิ่มมากขึ้นจนคุณตกใจว่าทำไมเบรกไม่อยู่ การขับโดยใช้เบรกแบบค่อยเป็นค่อยไปจะสร้างนิสัยการขับขี่ที่ปลอดภัย ไม่ใช่พุ่งเข้าไปจนใกล้แล้วใช้เบรกหนักๆ เสียวทั้งคนขับและคนนั่ง ระยะห่างที่ถูกต้องทำให้การใช้เบรกเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยแทบจะไม่ต้องพึ่งพาระบบช่วยเบรกแต่อย่างใดทั้งสิ้น การขับเร็วก็ต้องเผื่อระยะเบรกมากขึ้นเป็นสองเท่า ถ้าไปเร็วแล้วระยะเบรกเหลือไม่พอ รับรองว่าเดี๋ยวก็ต้องชนเพราะเบรกไม่ทัน 

เมื่อมีระยะเบรกไม่พอ การเบรกหนักจนระบบช่วยเบรกพร้อมใจกันทำงานไม่ว่าจะเป็น ABS/EBD/BA ทุกระบบทำงานหมด อาจไม่ได้ช่วยทำให้คุณรอดพ้นจากการชน เมื่อทิ้งระยะห่างจนอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย หากรถคันข้างหน้ากดเบรกจนรถปัดหมุนคว้างกลางถนน หรือชนกันอย่างจังอยู่ข้างหน้า ก็ยังพอทำให้คุณมีระยะเบรกพร้อมกับการหักพวงมาลัยเพื่อหลบ ไม่ใช่ขับจี้จนติดพอรถคันหน้าเขาเบรกหนักๆ ก็ซัดตูมเข้าไปเต็มเหนี่ยว ควรมองกระจกหลังบ่อยครั้ง ถ้าเห็นว่ามีรถมาจี้ใกล้ท้ายรถคุณมากเกินไป หรือยกไฟไล่เมื่อคุณวิ่งอยู่ในช่องทางด้านขวา ก็ควรจะเปิดทางให้รถที่ใช้ความเร็วสูงกว่าแซงผ่านไป ไม่ขับแบบกั๊ก ประกบไปกับรถเลนซ้ายแบบไม่สนใจไยดีต่อสภาพแวดล้อมรอบตัว รู้จักเปลี่ยนช่องทางหลบเข้าซ้ายเมื่อมีรถที่เร็วกว่าขับเข้ามาใกล้ การขับแบบระมัดระวังและให้ทางรถที่เร็วกว่า จะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้ไม่มากก็น้อย เขาขับเร็วกว่าแล้วเราจะไปขวางทางเขาทำไมกันล่ะครับ

...

เมื่อต้องขับเข้าโค้งแล้วมาเร็วก็ควรลดความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพของโค้ง โดยแตะเบรกก่อนถึงหัวโค้งหรือก่อนที่จะต้องหักพวงมาลัยเข้าสู่โค้ง ไม่เบรกกะทันหันหรือเบรกอย่างรุนแรงในโค้ง ไม่เปลี่ยนเกียร์ขณะอยู่ในโค้ง ไม่หมุนพวงมาลัยอย่างรุนแรงเมื่อขับเข้าสู่กลางทางโค้ง การลดความเร็วจัดท่าทางของรถให้ถูกต้องก่อนที่จะเริ่มต้นหมุนพวงมาลัยไปตามทางโค้ง ช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ควบคุมทิศทางในโค้งได้ดี คุณสามารถป้องกันและแก้ใขได้ไม่ยาก ด้วยทักษะและจิตสำนึกที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรกก่อนที่จะขับเร็ว ขณะขับเข้าโค้ง ให้รักษาความเร็วตั้งแต่เริ่มเข้าโค้งจนถึงหัวโค้งหรือจุดกึ่งกลางทางโค้ง พอเริ่มจะเข้าสู่ปลายโค้ง ก็กดคันเร่ง เพื่อรักษาความเร็วขณะขับออกจากโค้ง หากเป็นโค้งซ้ายทีขวาทีสลับยาวต่อเนื่องตลอด การขับด้วยความเร็วที่ไม่สูงมากจนเกินไปและรู้จักรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าไม่ขับจี้ท้ายแบบใจเย็นพอทางตรงแล้วค่อยแซงจะเป็นการขับที่ปลอดภัยมากกว่าขับกดดันคันที่ช้าด้วยการจี้ท้ายติด

ระยะของการหยุดรถไม่มีค่าคงที่หรือตายตัว แม้จะขับรถคันเดียวกันและมีผู้ขับคนเดียวกัน ความผันแปรก็เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบต่างๆ บนถนน ทั้งยาง อุณหภูมิ สภาพถนน ประสิทธิภาพของระบบเบรกในรถของคุณ รวมทั้งระยะคิด (การตัดสินใจกดเบรก) และระยะเบรก ไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะเกิดมาจากอะไร ย่อมส่งผลกระทบกับระยะหยุดของรถทั้งสิ้น เพราะระยะหยุดก็คือ ระยะคิด ระยะเบรก อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วนั่นเอง. 

...