ฟอร์ด ประเทศไทย แนะนำ 5 เคล็ดลับขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน ท่ามกลางภาวะน้ำมันแพง น้ำมันขึ้นราคา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฟอร์ด ประเทศไทย เผยแพร่ข้อแนะนำเคล็ดลับการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นการขับรถในเมืองหรือนอกเมือง โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ขับขี่อย่างรอบคอบ
การเร่งเครื่องแรงเกินไป และเบรกกะทันหัน ทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนัก และส่งผลต่อการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมาก ผู้ขับขี่ควรสังเกตสภาพถนนและการจราจรรอบตัว รวมถึงเตรียมความพร้อมในการตอบสนองสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นบนถนนล่วงหน้า เพื่อให้สามารถค่อยๆ เร่งเครื่อง ปล่อยคันเร่งได้เร็ว และเบรกได้อย่างนิ่มนวล ยิ่งขับอย่างนุ่มนวลได้มากเท่าไร เครื่องยนต์จะยิ่งใช้เชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพมากเท่านั้น
ผู้ขับขี่บางคนยังมีความเชื่อผิดๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ว่า ควรเข้าเกียร์ว่างเมื่อลงเนินเพื่อประหยัดน้ำมัน หากคุณต้องการประหยัดน้ำมันให้ได้มากที่สุดและปลอดภัย ควรเปลี่ยนโหมดการขับขี่มาใช้โหมดประหยัด (Eco) แทน ซึ่งจะช่วยปรับอัตราเร่งเครื่องและอัตราทดเกียร์ รวมถึงใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ฟอร์ด แนะนำการใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ที่ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย ซึ่งทั้ง ฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ มีระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop & Go ที่ช่วยควบคุมการเร่งเครื่อง เบรก และเกียร์ เพื่อให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายขึ้นให้กับผู้ใช้รถ
...
2. หมั่นตรวจเช็กสภาพตามกำหนด
เจ้าของรถควรนำรถเข้าตรวจเช็กสภาพให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ โดยพนักงานที่ศูนย์บริการฟอร์ดจะตรวจสภาพรถของคุณอย่างละเอียดทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าของรถจะได้รับบริการต่างๆ ตรงตามระยะเวลา ตั้งแต่การเปลี่ยนอะไหล่ หรือตั้งศูนย์ถ่วงล้อทุกปี หรือทุกๆ 10,000 กม. ซึ่งหากปล่อยให้ล้อรถไม่ขนานกัน นอกจากจะเป็นอันตรายแล้ว ยังอาจทำให้รถทำงานหนักขึ้น และใช้น้ำมันมากขึ้นด้วย
3. รถพร้อมแล้ว ยางก็ต้องพร้อม
ยางรถยนต์ที่นิ่มเกินไปหรือสึกหรอ จะทำให้เกิดแรงเสียดทานขณะรถเคลื่อนตัวมากขึ้น นั่นหมายความว่า นอกจากรถจะทำงานหนักขึ้นแล้ว ยังต้องใช้น้ำมันมากขึ้นด้วย เจ้าของรถจึงควรตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำ และต้องแน่ใจว่ายางรถยนต์มีแรงดันตามที่คู่มือแนะนำ (สามารถดูข้อมูลได้บนป้ายที่กรอบประตู) ทั้งนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ บางรุ่น ติดตั้งระบบตรวจสอบแรงดันลมยางที่จะช่วยเตือนเจ้าของรถหากยางมีแรงดันลดลง
4. อย่าบรรทุกของหนัก
ดร.นีล ลูวิงตัน ผู้ดูแลด้านอากาศพลศาสตร์ของฟอร์ด ออสเตรเลีย กล่าวว่า ทุกสิ่งที่คุณบรรทุกจะทำให้รถของคุณทำงานหนักขึ้น ซึ่งหมายความว่ารถก็จะใช้น้ำมันมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งต้องคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ราวหรือแร็คหลังคาอาจช่วยให้บรรทุกสิ่งของได้ง่ายขึ้นก็จริง
อย่างไรก็ตาม เจ้าของรถที่มีกล่องสัมภาระบนหลังคา หรือที่วางจักรยาน ควรถอดอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ออกเมื่อไม่ได้ใช้ เพราะอุปกรณ์เสริมถือเป็นการเพิ่มภาระให้กับรถ ไม่ต่างจากการบรรทุกน้ำหนักท้ายรถมากเกินไป วิธีนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงการสร้างแรงต้านที่ไม่จำเป็นเมื่อขับขี่ได้
"ถึงแม้การถอดที่วางจักรยาน หรือกล่องสัมภาระ อาจเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้งาน เพียงแค่ขับรถในเมือง การติดแร็คหลังคาจะทำให้รถใช้น้ำมันมากขึ้นกว่าที่จำเป็น เนื่องจากน้ำหนักและแรงต้านที่เพิ่มขึ้น"
5. เคล็ดลับการขับขี่แบบประหยัดในสภาพอากาศร้อน
สภาพอากาศร้อนอบอ้าวของประเทศไทย ทำให้ผู้ขับขี่ต้องเปิดแอร์ โดยการใช้ระบบปรับอากาศของรถจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น และใช้น้ำมันมาก ฟอร์ดแนะนำให้ใช้โหมดอัตโนมัติของระบบปรับอากาศให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ในกรณีที่ต้องจอดรถในสภาพอากาศร้อน พยายามจอดในที่ร่ม เพื่อช่วยให้ห้องโดยสารเย็นได้นานที่สุด แอร์บนรถจะได้ไม่ต้องทำงานหนักเมื่อสตาร์ต แต่ถ้าหาที่ร่มจอดรถไม่ได้ ควรหาซื้อที่บังแดดคุณภาพดี เพื่อช่วยให้ห้องโดยสารไม่ร้อนมากจนเกินไป