เกียร์อัตโนมัติที่เริ่มเสื่อมสภาพ หรือเริ่มมีอาการไม่ปกตินั้น มีสัญญาณเตือนจากอาการต่างๆ ที่ปรากฏขณะขับใช้งาน หากเป็นคนใช้รถที่รู้จักเอาใจใส่หมั่นดูแลรถยนต์ของตนเองโดยเฉพาะระบบส่งกำลัง อายุการใช้งานของเกียร์ลูกนั้นก็จะอยู่กับคุณไปจนรถพังแล้วเกียร์ก็ยังใช้งานได้อยู่ บางค่ายบอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตลอดอายุการใช้งาน แต่เอาเข้าจริงๆ เกียร์จะพังที่ระยะใช้งานเกิน 100,000 กิโลเมตรเกือบทุกคัน ถ้าไม่มีการเปลี่ยนถ่ายของเหลวหล่อลื่นในเกียร์ รวมถึงตัวกรองน้ำมันเกียร์ ถ้าไม่อยากพังก็ควรจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ระยะ 30,000-40,000 กิโลเมตร รวมถึงขับแบบถนอมเกียร์ ไม่เปลี่ยนเกียร์เล่นบ่อยๆ ไม่ขับแบบลากเกียร์ซึ่งจะเป็นการบั่นทอนอายุการใช้งานของเกียร์ออโต้ให้หดสั้นลง

เข้าเกียร์แล้วยังเฉย! ส่อง 3 อาการเกียร์ออโต้ใกล้พัง

แต่ถึงจะดูแลอย่างไร ความสึกหรอจากการใช้งานก็เกิดขึ้นอยู่ดี ลางบอกเหตุว่าเกียร์ออโต้ในรถคุณกำลังจะเสียนั้น มาในสองรูปแบบ ทั้งจากการมองเห็น เช่น น้ำมันเกียร์รั่วไหลนองพื้น หรือยัดเกียร์ D เพื่อเดินหน้า หรือเกียร์ R เพื่อถอยหลัง แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น รถยังคงนิ่งไม่ยอมขยับ หรือต้องรอกันนานมากกว่ารถจะเคลื่อนตัว เกียร์อัตโนมัติสมัยใหม่มีความทนทานเป็นรองเกียร์ธรรมดาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เสมอไป อยู่ที่วิธีการขับและการบำรุงรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน เนื่องจากเกียร์ออโต้สมัยใหม่ในปัจจุบัน มีชิ้นส่วนมากกว่า มีระบบไฟฟ้าเข้าไปเกี่ยวข้อง แถมยังมีความสลับซับซ้อนมากกว่าหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็นเกียร์สายพานพูเล่ย์ CVT หรือเกียร์ออโต้แบบเฟืองต่างขนาดทอร์คคอนเวอร์เตอร์ อาการก่อนการลาจากของเกียร์ออโต้ก็มีหลากหลายให้ได้สัมผัส เช่น

...

เข้าเกียร์แล้วยังเฉย! ส่อง 3 อาการเกียร์ออโต้ใกล้พัง

1- กระตุกกระชากเวลาเกียร์เปลี่ยน

2- การตอบสนองต่อการทดกำลังเชื่องช้าอืดอาดไม่ทันใจหรือไม่ได้อย่างใจเหมือนตอนใหม่ๆ

3- จู่ๆ เกียร์ก็ไม่เปลี่ยนเอาดื้อๆ หรือแม้แต่จะขับถอยหลัง พอใส่เกียร์ R รถก็ยังนิ่งสนิทไม่ขยับ

อาการเริ่มแรกส่วนมากจะเกิดกับเกียร์ถอยหลัง หรือเกียร์ R เวลาเครื่องเย็นเข้าเกียร์ถอยหลัง หรือเกียร์ R บางทีก็ช้ามาก หรือเข้าแล้วเกิดอาการกระตุกกระชาก ไม่นิ่มนวล หลังจากนั้นวิ่งไปสักระยะ พอเครื่องร้อนขึ้น อาการจะกลับมาเป็นปกติแบบเป็นๆ หายๆ

หลังจากเกิดอาการยัดเกียร์ถอยแล้วรถไม่ถอย สักระยะก็จะมีอาการนี้ตามมา ช่วงจังหวะในการเปลี่ยนเกียร์จะมีอาการลื่นของผ้าคลัตช์ และการเปลี่ยนเกียร์จะไม่นิ่มนวล

เข้าเกียร์แล้วไม่วิ่ง ออกตัวไม่ได้ ต้องรอเครื่องร้อนๆ หรือบางทีต้องเลื่อนคันเกียร์เพื่อออกตัวที่เกียร์ 2 ก่อน วิ่งไปสักพักค่อยเปลี่ยนกลับมาที่ตำแหน่ง D ได้

อาการต่อมาเวลาเข้าเกียร์ถอยหลังจากที่เกิดการกระชากในตอนแรก ตอนนี้จะมีอาการเกียร์ถอยหลังไม่เข้า คือรถไม่ถอยหลังในตอนเครื่องเย็น พอ warm เครื่องร้อน ขึ้นเกียร์ถอยหลังถึงจะเริ่มทำงานปกติ

เวลาเหยียบคันเร่ง รอบเครื่องยนต์พุ่งกวาดขึ้น แต่ไมล์ความเร็วไม่ขึ้นตาม รถเร่งความเร็วได้แบบห่วยแตก เร่งไม่ไป อืดเป็นเรือบรรทุกข้าว หรือความเร็วขึ้นช้ามากๆ ซึ่งอันตรายมากหากอยู่ในจังหวะที่ต้องการเร่งแซง

น้ำมันเกียร์ พร่องผิดปกติ (กินน้ำมันเกียร์ หรือน้ำมันเกียร์รั่ว)

เข้าเกียร์แล้วยังเฉย! ส่อง 3 อาการเกียร์ออโต้ใกล้พัง

ใส่เกียร์ D หรือ R แล้วรถเคลื่อนตัวช้ากว่าปกติ หรือต้องรอสักพักกว่าจะไป (อาการระยะสุดท้ายก่อนกลับบ้านเก่า) อาการเกียร์จะกลับบ้าน เข้า N ไป D เข้า N ไป R จะช้ารอนานกว่าจะเคลื่อนตัวหรือไม่เคลื่อนตัวเลยจอดนิ่งอยู่กับที่ แม้จะเร่งเครื่องก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น รถไม่ยอมวิ่ง เวลาเปลี่ยนเกียร์ก็จะเกิดอาการกระชาก วิ่งๆ อยู่เกียร์หลุด หรือเร่งไม่ไป กดเท่าไรก็ยังคลานเป็นเต่า ไม่ว่าจะตอนเครื่องเย็นเพิ่งสตาร์ตแล้ววิ่ง หรือวิ่งมานานจนเครื่องร้อน เกียร์ก็ดื้อไม่เปลี่ยนซะงั้น บางทีวิ่งๆ อยู่เกียร์เข้า limp home mode (วิ่งเกียร์เดียว นั่นก็คือเกียร์ 3)

เข้าเกียร์แล้วยังเฉย! ส่อง 3 อาการเกียร์ออโต้ใกล้พัง

...

น้ำมันเกียร์ที่สดใหม่ และเปลี่ยนตามระยะ 30,000-40,000 กิโลเมตร ขับแบบถนอมไม่กระโชกโฮกฮาก รอจนหยุดแล้วค่อยใส่เกียร์ถอย ลุยน้ำมาก็ควรให้ช่างตรวจสอบน้ำมันเกียร์ว่ามีน้ำเจือปนหรือไม่ ไม่เปลี่ยนเกียร์เล่นโดยไม่มีความจำเป็นเพราะขับทางราบ เหล่านี้ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติให้ยืนยาวออกไปได้พอสมควร

เข้าเกียร์แล้วยังเฉย! ส่อง 3 อาการเกียร์ออโต้ใกล้พัง

อากาศร้อนจัดส่งผลกับการทำงานของเกียร์เช่นเดียวกัน ห้องเครื่องก็ร้อน เกียร์ก็ร้อน อากาศร้อนตอนรถติดหรือขับเคลื่อนบนเส้นทางภูเขา ยิ่งสภาพอากาศรอบๆ ตัวร้อนเท่าไร การถ่ายเทระบายความร้อนก็จะมีประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง อากาศในประเทศที่ออกแบบและผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ร้อนโหดๆ ร้อนจริงจังระดับ 38-40 องศา แค่สองอาทิตย์ หรืออย่างมากก็แค่เดือนสองเดือน แล้วก็หนาวกันสุดขั้วแถมยังมีหิมะตก ยิ่งทำให้เย็นหนักเข้าไปอีกหลายเท่า แต่การสึกหรอของเกียร์นอกจากจะอยู่ที่การขับใช้งานแล้ว สภาพอากาศก็เข้ามามีส่วนอย่างมาก ประเทศไทยมีที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ฤดูหนาวแทบไม่มีแล้ว เกียร์ที่ทำงานท่ามกลางสภาพอากาศโหดๆ แบบนี้ หากขาดการดูแลใส่ใจ หรือขับแบบผิดวิธี เกียร์ก็อาจสึกหรอเสียหาย

...