ยางแตกทำไง หรืออาการยางรถแตกระหว่างขับจะเป็นแบบไหน ขับต่อได้ไหม หรือต้องรีบเปลี่ยนในทันที ปัญหาเหล่านี้ไม่ว่าจะมือเก่า มือใหม่ก็อาจจะกังวลอยู่บ้างเวลาขับรถเดินทางไกล แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่ "ยานยนต์ไทยรัฐออนไลน์" อยากจะแนะนำคือ ต้องหมั่นดูแลตรวจสอบสภาพยางก่อนเดินทางทุกครั้ง 

ยกตัวอย่างเช่น ตรวจสภาพล้อยาง ดอกยาง และลมยางอยู่เสมอ รวมไปถึงการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ หรือการดูแลช่วงล่างของรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้ลดอาการยางแตกระหว่างทางได้

แต่อย่างไรก็ตาม ยางแตก ระหว่างขับรถเป็นหนึ่งในเหตุการณ์เสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ และอาจทำให้คนขับเกิดอาการตกใจ สับสน หรือควบคุมสถานการณ์ได้ยาก

รถยางแตกอาการเป็นอย่างไร

เราสามารถสังเกตได้จากอาการสั่นสะเทือน รถส่ายไปมา หรือบังคับรถได้ยาก หากเกิดเหตุที่ยางหน้าพวงมาลัยจะฝืดขึ้น แต่หากเกิดที่ล้อหลัง ผู้โดยสารด้านหลังจะรับรู้ได้ หรือเปิดกระจกฟังเสียงที่ผิดปกติ เช่น เสียงลมยาง เสียงล้อบดถนน

...

ยางแตกทำไง 5 ขั้นตอนการควบคุมรถอย่างมีสติ

ขั้นที่ 1 ตั้งสติ จับพวงมาลัยให้มั่นคง หากรถเสียหลัก ให้หมุนพวงมาลัยไปในทิศตรงกันข้าม

ขั้นที่ 2 ประคองรถให้อยู่ในเลน สังเกตรถด้านข้างและด้านหลัง รักษาระยะห่างไว้ ระวังไม่ให้รถส่ายไปเฉี่ยวชน

ขั้นที่ 3 ลดความเร็วลง ถอนคันเร่งช้าๆ และแตะเบรกชะลอเบาๆ ไม่เหยียบเบรกเร็วเกินไป ระวัง ห้ามเหยียบคลัตช์ ห้ามดึงเบรกมือ อาจทำให้รถหมุนหรือพลิกคว่ำ

ขั้นที่ 4 เปิดไฟเลี้ยวซ้ายกรณีขับอยู่เลนขวา ขอทางเข้าจอดไหล่ทางหรือพื้นที่ปลอดภัย

ขั้นที่ 5 เปิดไฟฉุกเฉินให้สัญญาณเตือนรถคันหลัง ขณะเปลี่ยนยางอะไหล่ หรือรอรับความช่วยเหลือ

ข้อแนะนำก่อนที่ยางรถจะแตก

- ตรวจสภาพยางรถยนต์เป็นประจำ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่มีร่องรอยชำรุด ยางบวม หรือรั่วซึม

- เช็กลมยางเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง และทุกครั้งก่อนเดินทางไกล

- เลือกใช้ยางที่เหมาะสมกับการใช้งานของรถ มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเองและเพื่อนร่วมทาง

ขอบคุณข้อมูลจากสำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก