การขับรถเดินทางในเวลากลางคืน ในช่วงหลังฝนตก แล้วต้องวิ่งผ่านเส้นทางที่มีไร่อ้อย หรือนาข้าวสองข้างทาง ซึ่งจะต้องวิ่งฝ่าเข้าไปในฝูงแมลงที่พุ่งเข้าหาไฟหน้าของรถ เมื่อขับไปสักพักก็จะมีซากแมลงติดตามกระจกหน้า และกระจังรถ ซึ่งคราบซากแมลงหลากหลายชนิดพันธุ์เหล่านั้น หากปล่อยไว้นาน หรือปล่อยตากแดดข้ามวันข้ามคืน จะยิ่งทำให้คราบแมลงแห้งๆ จำนวนมาก ติดหนึบจนทำให้ล้างออกได้ยาก หากล้างไม่ถูกวิธี หรือเช็ดถูขัดสีตัวถังส่วนที่โดนแมลงพุ่งชนแล้วเช็ดแรงเกินไป ก็อาจทำให้สีรถเกิดริ้วรอย นอกจากนี้ คราบแมลงต่างๆ เป็นสารอินทรีย์ ที่แปรสภาพเป็นกรดอ่อนๆ กัดกร่อนสีรถให้เป็นรอยด่าง
...
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็ต้องรีบต่อสายยาง ใช้น้ำฉีดคราบซากแมลงที่ติดอยู่ตามหน้ารถ กระจกบังลมบานหน้า ไฟหน้า กระจังหน้า และกรอบกระจกมองข้าง เมื่อรีบทำความสะอาด โดยใช้น้ำฉีดทันทีที่ถึงบ้าน ไม่ปล่อยข้ามวันข้ามคืน คราบแมลงก็จะกำจัดออกไปง่ายๆ ด้วยน้ำแรงๆ จากสายยาง ตามด้วยฟองน้ำชุบแชมพูล้างรถ เช็ดเบาๆ ในจุดที่มีคราบแมลงติดแน่นอยู่ โดยเฉพาะบริเวณป้ายทะเบียน ไฟหน้าและกันชนหน้า รวมถึงกรอบกระจกมองข้าง เช็ดด้วยฟองน้ำชุบแชมพูล้างรถจนคราบออกหมดแล้วก็ฉีดน้ำล้างอีกที หลังจากนั้นก็ทำการเช็ดแห้งเฉพาะส่วนที่ที่ทำการล้าง หรือมีเวลาและแรงเหลืออยู่ก็ล้างทั้งคันไปเลย
หากปล่อยทิ้งไว้แล้วจอดรถตากแดดแรงๆ คราบแมลงร้ายก็จะติดแน่นและเอาออกยากขึ้น แม้จะฉีดน้ำก็ไม่ยอมออก เพราะแห้งกรังจนติดแน่นกับสีรถ
อุปกรณ์ทำความสะอาดคราบซากแมลงร้ายที่ติดหน้ารถแล้วเอาออกยาก
Baby Oils
สำลี
ผ้าสะอาด หรือผ้าล้างรถไมโครไฟเบอร์
กระดาษทิชชูเปียก
ฉีดน้ำตรงที่มีคราบแมลงติดอยู่ เพื่อทำให้คราบแมลงละลายออกไปบ้าง แล้วใช้กระดาษทิชชูเปียก ชุบ Baby Oils ค่อยๆ เช็ดตรงที่มีคราบแมลงฝังติดแน่นอยู่ ต้องใจเย็น เพราะดันปล่อยให้แห้งข้ามวันข้ามคืนจนเอาออกยาก ไม่ควรเช็ดวนไปมา เพราะคราบแน่นติดหนึบอาจทำให้สีรถเกิดริ้วรอย ค่อยๆ เช็ดแบบใจเย็นและใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเอาออกหมด คราวหน้า กลับมาถึงบ้านก็ควรจะล้างซะเลย จะเอาออกได้ง่ายกว่าทิ้งไว้ข้ามวันแล้วจอดตากแดดจนกลายเป็นคราบแมลงตากแห้งที่เอาออกโคตรยากละครับ แต่ถ้าขยันเคลือบสีบ่อยๆ คราบแมลงก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เอาออกได้อย่างสบายๆ เพราะมีน้ำยาเคลือบอยู่ละครับ.
...