มาดูกันว่าการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ ต่ออายุใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ในปี 2566 มีขั้นตอนอย่างไร และมีหลายคนสงสัยว่าต้องจองคิวออนไลน์ก่อนไปทำเท่านั้นหรือไม่ คำตอบคือ ตอนนี้กรมขนส่งทางบกผ่อนคลายมาตรการหลังโควิดอยู่ในช่วงขาลง สามารถวอล์กอินเข้าไปต่อใบอนุญาตขับขี่ได้เลยทุกสำนักงานขนส่งทั่วประเทศ แต่ต้องผ่านการอบรมทฤษฎีออนไลน์ผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com แล้วเท่านั้น เตรียมหลักฐานให้ครบแล้วไปต่ออายุใบขับขี่กันได้เลย
แต่หากใครยังประสงค์จองคิวล่วงหน้า ทางกรมการขนส่งทางบกก็ยังมีบริการจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์อยู่ เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
1. เมื่อกดเข้าแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue แล้วลงทะเบียนด้วยเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่านให้เรียบร้อย
2. เลือกสำนักงานขนส่งที่เราสะดวกเดินทางไป
...
3. เลือกที่ 'งานใบอนุญาต' จากนั้นเลือกใบอนุญาตประเภทรถที่ต้องการต่อ
4. กดที่ 'ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ' แล้วเลือกประเภทยานพาหนะ
5. กรอกข้อมูลใบขับขี่ วันเดือนปีที่หมดอายุ
6. เลือกประเภทงาน เช่น การขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถจาก 5 ปี เป็น 5 ปี สิ้นอายุไม่เกิน 1 ปี
7. ทีนี้ก็เลือกวันและเวลาเพื่อจองคิว
8. สุดท้ายกดยืนยันการจอง และอย่าลืมบันทึกภาพหน้าจอเป็นหลักฐานเพื่อแสดงกับเจ้าหน้าที่
*และหากใครที่จองคิวแล้วเกิดมีธุระกะทันหัน อยากเปลี่ยนวัน หรืออยากเลื่อนให้ไวขึ้น ก็กดจองคิวใหม่ได้เลย ซึ่งคิวเดิมจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ
สำหรับผู้ที่จองคิวและต้องมีอบรมผ่านระบบ DLT-elearning หรือการอบรมออนไลน์ ควรหาเวลาดูคลิปวิดีโอและทำข้อสอบท้ายบทให้เรียบร้อย โดยใบอบรมมีอายุเพียง 90 วันเท่านั้น ซึ่งห้ามลืมบันทึกภาพหน้าจอว่าเราผ่านการอบรมแล้วเพื่อไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย
หลักฐานแสดงต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่ง
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบขับขี่ฉบับเดิมที่หมดอายุ
- ใบรับรองแพทย์
- หลักฐานผ่านการอบรมออนไลน์
- ค่าธรรมเนียม สำหรับรถจักรยานยนต์ 255 บาท และรถยนต์ 505 บาท
หลังจากนี้ผู้ต่ออายุใบขับขี่ต้องทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ถ่ายภาพติดบัตรและชำระค่าธรรมเนียม จึงเป็นอันเรียบร้อย ทั้งนี้เราสามารถต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าก่อนหมดอายุได้ 90 วัน และหมดอายุได้ไม่เกิน 1 ปี
ผู้เขียน : เครื่องยนต์คนขยัน