• หลายเทคนิคประหยัดน้ำมันเราทราบกันแล้ว แต่ลองทำกันจริงบ้างไหม
  • การปิดแอร์ขับรถแค่ครึ่งชั่วโมง ช่วยลดการเผาผลาญน้ำมันได้เยอะจริงๆ นะ
  • ความเชื่อเก่าๆ ที่ต้องวอร์มเครื่องก่อนออกรถ ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำในยุคน้ำมันแพงหูฉี่อีกต่อไป 

เป็นเหมือนกันไหมครับตอนนี้ ขับรถเข้าปั๊มน้ำมันแล้วใจตุ๊มๆ ต่อมๆ บิลราคาน้ำมันจะเท่าไหร่น้า ในขณะที่ราคาน้ำมันตอนนี้เบนซิน (แก๊สโซฮอล์ E20 ขึ้นไป) ทะลุเพดาน 30 บาทต่อลิตรไปเรียบร้อยแล้ว เราจึงลองเค้นหาวิธีที่ช่วยประหยัดน้ำมัน แม้จะช่วยลดระยะเวลาความถี่ในการเติมน้ำมันแต่ละครั้งออกไปได้สักวันหรือสองวัน แต่หากลองเฉลี่ยทั้งปี อาจจะช่วยได้หลายพันบาทอยู่นะครับ

ลบความเชื่ออุ่นเครื่องยนต์ก่อนออกจากบ้าน

รุ่นพ่อรุ่นแม่สอนไว้ว่า เมื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ในครั้งแรกของวัน ต้องวอร์มเครื่องยนต์ก่อนค่อยออกเดินทาง แต่คุณทราบหรือไม่ การติดเครื่องจอดอยู่เฉยๆ ระยะเวลาเพียง 2 นาที สามารถเผาผลาญน้ำมันไปประมาณ 40 มิลลิลิตร ดังนั้นหากต้องออกเดินทาง ก็แค่สตาร์ต ขับออกแบบช้าๆ ประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วค่อยๆ เร่งเครื่องทีละน้อย

...

ปิดแอร์ช่วยได้นะ

จินตนาการว่าตอนเช้า คุณขับรถออกจากในหมู่บ้านหรือในซอยที่พัก อย่าเพิ่งเปิดเครื่องปรับอากาศภายในรถ ลดกระจกซึมซับบรรยากาศรอบข้างสักครึ่งชั่วโมง เชื่อไหมว่ามันสามารถประหยัดเชื้อเพลิงไปได้ 10-15% เลยทีเดียว

ขับช้า ปลอดภัยแถมประหยัดน้ำมัน

รถยนต์แต่ละคันมีอัตราการเผาไหม้เชื้อเพลิงในช่วงความเร็วที่แตกต่างกัน แต่กะคร่าวๆ จะอยู่ที่ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด โดยอาจจะช่วยประหยัดได้มากถึง 25%

เกียร์ N เพื่อนฉันเอง

หากเจอการจราจรติดขัด ซึ่งคนในเมืองก็พอจะทราบพิษสงกันดี และเป็นที่ถกเถียงว่า การที่รถเกียร์ออโต้จอดรอไฟจราจรควรเข้าเกียร์ D แล้วเหยียบเบรกค้าง หรือเข้าเกียร์ N จะดีกว่า ขอตอบทั้งในมุมความปลอดภัยและความประหยัดน้ำมัน เข้าเกียร์ N เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด เพราะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับการเข้าเกียร์ D แล้วเหยียบเบรก

เหยียบเบรกเก่ง ไม่ดีนะ

ทุกครั้งที่เราเหยียบเบรกกะทันหัน เราจะสูญเสียอัตราเร่งที่เรามีก่อนหน้านี้ และการแตะคันเร่งเพื่อเร่งเครื่องยนต์ ยิ่งทำให้เครื่องยนต์ซดน้ำมันหนักขึ้น ดังนั้นหากเห็นสถานการณ์ข้างหน้ารถติด ค่อยๆ ชะลอความเร็ว เหยียบเบรกช้าๆ จนรถจอดสนิท และถ้าต้องการให้รถเคลื่อนแบบช้าๆ เช่น ในขณะรถติด ก็แค่ปล่อยเบรกให้รถไหลไปโดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง และถ้าออกรถ ก็ไม่ควรออกรถแบบกระชาก พยายามเลี้ยงคันเร่งไม่ให้รอบเครื่องยนต์เกิน 2,000 - 2,500 รอบต่อนาที

ดูแลยางและสลับยางบ้าง

อย่าลืมตรวจสอบความดันลมยางทุกๆ สัปดาห์ ในขณะที่ยางมีอุณหภูมิเย็น (รถยนต์ต้องจอดสนิทอย่างต่ำ 3 ชั่วโมง) เติมลมยางให้พอดีกับความดันลมยางตามคู่มือรถแนะนำ และควรสลับยางรถยนต์บ้าง จะช่วยลดการสึกหรอและยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ เชื่อไหมว่าการสลับยางจะช่วยประหยัดน้ำมันขึ้น 10%

รถไม่ใช่บ้าน เอาของออกเสียบ้าง

คุณผู้หญิงบ้าหอบฟาง เอาทุกสิ่งทุกอย่างใส่รถไว้กันเหนียว ส่วนคุณผู้ชายบ้าอุปกรณ์ ขนเครื่องกีฬาครบทุกประเภทเผื่อไว้ในรถ บอกตรงๆ เลยนะครับ คุณกำลังสิ้นเปลืองน้ำมันในทุกๆ การเร่งเครื่อง เนื่องจากการใช้กำลังจากเครื่องยนต์เท่าเดิมลากตัวถังที่หนักขึ้น ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงไปมากถึง 20% จากรถปกติที่ไม่บรรทุกของหนักๆ

...

ข้ออื่นๆ ก็น่าจะพอทราบกันแล้ว ตรวจเช็กสภาพรถ น้ำมันเครื่อง ไส้กรอง เติมน้ำยาแอร์ ควรทำทุกๆ เดือนหรืออย่างต่ำก็ 6 เดือนครั้งนะครับ นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันในระยะยาวแล้ว ยังดูแลเครื่องยนต์แต่เนิ่นๆ ด้วย

ผู้เขียน : เครื่องยนต์คนขยัน