มีคำถามจากคนรักรถมาอีกแล้ว แม้จะเป็นเรื่องที่พบเจอกันบ่อยมากกับสัญญาณเตือนเมื่อน้ำมันใกล้จะหมด เป็นรูปถังน้ำมันกะพริบ บางคนเห็นทีใจสั่นไหวอยากพุ่งหาปั๊มน้ำมันใจแทบขาด กลัวรถจะดับคามือ หรือบางคนชะล่าใจไปอีก ไม่แคร์สิ่งใด ขับไปด้วยใจตั้งมั่นไม่หวั่นแม้รถติดสนั่นเมือง เอาล่ะ มาตอบข้อสงสัยกันก่อนเลยว่า หากเจอไฟเตือนเชื้อเพลิงใกล้หมด รถยนต์จะสามารถวิ่งได้อีกไกลแค่ไหน
ไฟเตือนน้ํามันใกล้หมด วิ่งได้อีกกี่กิโล
คำตอบคือ โดยเฉลี่ยรถยนต์ทั่วไป (สามารถเช็กสเปกรถยนต์แต่ละรุ่นได้เอง) เมื่อมีไฟเตือนสีเหลืองกะพริบจะสามารถขับต่อไปได้อีก 40-50 กิโลเมตร อันนี้คือแบบหมดเกลี้ยงถังเลยนะ แต่เจ้าระยะทางนี้มันก็ขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย เช่น รถติด ฝนตก น้ำท่วม ทางโค้งเยอะ ต้องใช้เกียร์ ใช้รอบสูง ก็มีส่วนชะลอความเร็วในการขับแบบปกติไปอีก
เทคนิคประคองตัว
หากคาดคะเนแล้วว่า หนทางข้างหน้ายังไม่มีปั๊มน้ำมันเป็นแน่ ควรพยายามใช้พลังงานน้ำมันรถให้น้อยที่สุด เช่น ปิดแอร์ ขับในความเร็วคงที่ราว 60-80 กม./ชม.
ขับรถจนน้ำมันหมดมีผลกับเครื่องยนต์
...
ยื้อน้ำมันจนหยดสุดท้าย จนรถตายคามือ หากเป็นเหตุสุดวิสัยก็พอเข้าใจได้ แต่หากทำเป็นประจำจะมีปัญหากับเครื่องยนต์ โดยเฉพาะตัวปั๊มติ๊ก ทำหน้าที่ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่เครื่องยนต์ ลักษณะเป็นมอเตอร์ เมื่อทำงานหมุนตลอดเวลาทำให้มีความร้อนสะสม ต้องระบายความร้อนผ่านน้ำมันที่อยู่โดยรอบ
ดังนั้นหากเราเติมน้ำมันทีละน้อย (หนึ่งร้อยพอขับไปก่อน) หรือปล่อยให้น้ำมันใกล้หมดบ่อยๆ ปริมาณน้ำมันลดลงต่ำกว่าระดับมอเตอร์ปั๊มติ๊ก เมื่อมอเตอร์ไม่สามารถระบายความร้อนไปสู่น้ำมัน ปั๊มก็ร้อนจนไหม้นั่นเอง
เหลือน้ำมันเท่าไรควรหาปั๊มน้ำมัน
อย่างที่บอกว่า ถ้าเรารู้จักกับปั๊มติ๊กเป็นอย่างดี ควรถนอมเขาให้อยู่กับรถเราไปนานๆ ดังนั้นเมื่อน้ำมันรถเหลือเพียง 1 ใน 4 ของถัง ควรมองหาปั๊มพุ่งเข้าไปเติมซะให้สบายใจเราและสบายเครื่องยนต์ด้วย
นิสัยผลาญน้ำมันโดยไม่รู้ตัว
ทิ้งทวนด้วยพฤติกรรมขับรถที่อาจทำให้น้ำมันรถหมดไวโดยไม่รู้ตัว เช่น จอดแช่นานเกิน 30 นาทีโดยไม่ดับเครื่อง เปิดแอร์ ชาร์จแบตโทรศัพท์ ฟังวิทยุ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ามันกินน้ำมันไปมากกว่าเอารถวิ่งออกถนนซะอีก หรือเป็นคนช่างขน ขนทุกอย่างขึ้นรถแล้วไม่ขนลงด้วย การบรรทุกของหนักก็ทำให้เปลืองน้ำมันนะ ลมยางก็สำคัญอีก ลมยางอ่อน ยางเสียดสีกับพื้นถนนมาก น้ำมันในถังก็เผาเพิ่มด้วย สุดท้ายคนใจร้อนชอบขับรถเร็วเกิน 90 กม./ชม. อัตราเร่งขนาดนี้มีผลกับน้ำมันอย่างแน่นอน
ผู้เขียน : เครื่องยนต์คนขยัน
...