• รู้หรือไม่ สิ่งสกปรกที่มากับสายฝนมีผลกับสีรถยนต์
  • รถที่เปียกฝน ห้ามจอดตากแดด
  • เทคนิคจัดเต็มวิธีการเคลือบสีรถด้วยตัวเอง

เรื่องตลกร้ายในช่วงหน้าร้อนสำหรับคนมีรถ คือ “เราล้างรถเมื่อไหร่ ฝนจะตกเมื่อนั้น…” แดดออกอยู่ดีๆ ฝนเทลงมากันซะอย่างนั้น ทำเอาหลายคนรู้สึกเซ็ง เพราะยังไม่ทันได้อวดความเงางามของตัวรถเลย ฝนก็ตกลงมาเสียแล้ว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือ หากเราไม่รีบหาทางจัดการ สิ่งสกปรกที่ติดมากับน้ำฝนจะเข้าไปฝังลึกอยู่กับสีรถของท่าน ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ



ไทยรัฐออนไลน์จึงได้รวบรวมวิธีการดูแลรักษาสีรถอย่างง่ายที่นักขับควรรู้ มาดูกันว่าอะไรที่ควรทำ และอะไรที่ควรเลี่ยง

1. รีบล้างรถหลังลุยฝน การล้างรถทันทีจะช่วยป้องกันคราบที่อาจเข้าไปฝังกับสีรถ แต่ถ้าหากใครไม่มีเวลาก็ควรฉีดน้ำเปล่าเพื่อล้างสิ่งสกปรกออกสักหน่อย

...


2. รถที่เปียกฝน ห้ามจอดตากแดด เพราะจะทำให้คราบน้ำแห้งเร็วและติดแน่นกว่าเดิม
3. ห้ามใช้ผ้าแห้งเช็ดรถ ควรฉีดน้ำล้างก่อนแล้วจึงใช้ผ้าเช็ดตาม มิเช่นนั้นจะทำให้ตัวรถของท่านเกิดรอยขนแมวได้
4. เลี่ยงการล้างรถในช่วงเย็น เพราะอาจมีน้ำที่ค้างอยู่ตามซอกรถ ส่งผลให้เกิดสนิมตามมา
5. ไม่ควรจอดรถไว้ใต้ต้นไม้ เนื่องจากฤดูฝนเป็นช่วงที่ลมค่อนข้างแรง อาจจะมีเศษใบไม้ กิ่งไม้ หล่นลงมาโดนตัวรถ ทำให้สีด่างและหลุดลอกได้
6. หาเวลาเคลือบสีรถ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก เพราะนอกจากจะทำให้สีรถเงางามขึ้นแล้ว ยังช่วยลดการเกิดคราบสกปรกที่จะมาเกาะบนตัวรถอีกด้วย

เราจะจากลากันโดยไม่มี How to ในการเคลือบสีรถด้วยตัวเองมาฝากก็ดูจะใจร้ายเกินไป เพราะมันไม่ได้ยากขนาดคนรักรถอย่างเราทำเองไม่ได้ แค่ต้องมีกำลังใจและมีแรง(ใจ)ขัดสักหน่อย มาเริ่มกันด้วยอุปกรณ์ที่ต้องมี คือ ฟองน้ำสำหรับลงแว็กซ์ (ต้องเป็นฟองน้ำที่มีความละเอียดสูง เพื่อป้องกันสร้างรอยขีดข่วนขณะเคลือบ) แว็กซ์ที่สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป และผ้าไมโครไฟเบอร์

ส่วนขั้นตอนเคลือบสีรถมีดังนี้
1. ล้างรถให้สะอาดเอี่ยม เช็ดให้แห้ง
2. ลงแว็กซ์แล้วใช้ฟองน้ำถูเป็นวงกลมก้นหอยจนทั่วทั้งคัน ทำไปจ้ะ วนไปเรื่อยจนครบทุกส่วนของสีผิวรถ
3. ปล่อยทิ้งไว้ 10-15 นาที (ห้ามทิ้งรถยนต์ที่เคลือบแว็กซ์ไว้กลางแดด เพราะความร้อนจะทำให้เนื้อแว็กซ์เซตตัวเร็ว เคลือบรถไปก็ไม่ได้คุณภาพ) รอจนขึ้นฝ้า ถือว่าใช้ได้ แนะนำอีกนิด ไม่ควรทิ้งไว้นานจนเกินงาม หากแว็กซ์ติดผิวสีแน่นจนเกินไป เวลาเช็ดออกต้องใช้แรงมาก อาจส่งผลกับสีรถไปอีก
4. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดแว็กซ์ออก เช็ดแบบวนๆ เหมือนตอนลงแว็กซ์เลย เช็ดวนไปเรื่อยจนเงางาม
5. เช็กความเรียบร้อย หากมีฝุ่นผงของแว็กซ์ติดอยู่ก็เช็ดด้วยผ้าอีกครั้ง เป็นอันจบ

ขั้นตอนง่ายมาก ได้เรียกเหงื่อออกกำลังกาย แถมได้เช็กสภาพรถทั่วทั้งคันด้วยว่ามีรอยขีดข่วนที่แอบไปเฉี่ยวไปเกี่ยวอะไรที่ไหนมาด้วย แถมการเคลือบสีรถยังมีคุณสมบัตินอกเหนือจากรถเงางามแล้ว ยังช่วยปกป้องสีรถจากอึน้องนก ฝุ่นละออง และคราบฝังลึก.

ผู้เขียน : เครื่องยนต์คนขยัน
ภาพ : Phantira Thongcherd

...