เห็นแล้วก็อดสยองพองขนไม่ได้ กับข่าวการนอนในรถจนเสียชีวิต ตั้งแต่เด็กจนโต คาร์มิ ได้ยินข่าวการเสียชีวิตในรถมาโดยตลอด และสถิติในประเทศไทย ปีหนึ่งๆ ก็มีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์แบบนี้นับไม่ถ้วน คุณๆ สงสัยกันมั้ย ทำไมนอนในรถจึงเสียชีวิต? ทั้งๆ ที่เราก็เปิดแอร์ และอากาศก็เย็นฉ่ำสบายอุราขนาดนั้น
วันนี้ คาร์มิ มีความรู้และคำตอบมาฝากทุกคน และเมื่ออ่านจบ!! อยากให้ทุกคนตระหนักเหมือนกันว่า "การนอนในรถ" มันเสียชีวิตได้จริงๆ เรามาช่วยกันปรับความคิดกันใหม่ "ห้ามนอนในรถเด็ดขาด" บอกกันให้ถึงลูกถึงหลาน และจงจำกันให้ดี! "นอนในรถ...ถึงตาย!!"
เรื่องมันมีอยู่ว่า...
การสตาร์ตเครื่องยนต์ในแต่ละครั้ง เครื่องยนต์จะปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซพิษออกมา ขณะที่รถยนต์วิ่ง ระบบแอร์ที่ถูกเปิดอยู่ จะดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาหมุนเวียนอยู่ในรถตลอดเวลา
เช่นเดียวกับตอนที่เราเปิดแอร์เพื่อนอนหลับ ในขณะรถยนต์จอดแน่นิ่งอยู่กับที่ ไม่ได้วิ่งไปไหน ระบบแอร์ก็จะดูดอากาศจากด้านนอกเข้ามาสู่ห้องโดยสารเช่นกัน แต่ครั้งนี้จะเป็นอากาศที่มีก๊าซพิษผสมอยู่ด้วย ซึ่งขณะที่เรากำลังนอนหลับอยู่แบบไม่รู้สึกตัวนั้น ฝันร้ายกำลังคืบคลานมาเยือน เพราะเวลานั้นเรากำลังสูดควันพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปแบบเต็มๆ ก๊าซพิษเข้าสู่ร่างกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆ สะสมอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเรานอนหลับไปนานเท่าไร แสดงว่า...เราจะได้รับก๊าซพิษมากเท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อร่างกายได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในปริมาณมากๆ ก็จะเข้าไปรวมตัวกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง จนทำให้ก๊าซพิษมีปริมาณมากกว่าก๊าซออกซิเจนได้ถึง 200-250 เท่าตัว เป็นเหตุให้ความสามารถในการนำพาออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง เพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายและสมองค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ระบบประสาทเราจะเริ่มทำงานผิดปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ และอาจหยุดเต้นได้ในที่สุด เมื่อร่างกายขาดออกซิเจนนั่นเอง
...
สำหรับอาการเมื่อเราสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าสู่ร่างกาย แรกเริ่มจะทำให้มีอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย อาเจียน เมื่อได้รับปริมาณมาก ก็จะไม่รู้สึกตัว ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด
คาร์มิ อธิบายขนาดนี้แล้ว เห็นภาพรึยังทุกคน หลังจากนี้ช่วยเอาไปเล่าต่อ และแชร์เรื่องเหล่านี้ให้คนรอบข้างได้ฟังด้วย อย่างน้อยจะได้เป็นการป้องกันเบื้องต้น แต่ทีนี้หลายคนบอกว่า...ก็คนมันง่วง จะให้ทำอย่างไร? ขับก็ไม่ได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ แล้วต้องทำอย่างไรดี?
มาค่ะ...คาร์มิ มีคำแนะนำดีๆ ที่คุณต้องนำไปปฏิบัติตามมาฝากกัน กับ 5 วิธีนอนในรถอย่างถูกต้อง เมื่อง่วงหรือจำเป็น (จริงๆ) เท่านั้น!
1. ทำเลที่จอด
เอาเลยค่ะ...อันดับแรก เลือกทำเลที่จอดที่ปลอดภัย ไม่กีดขวางทางจราจร ไม่จอดในที่อันตราย และมีพื้นที่พอจอดอย่างเหมาะสม คือไม่ใช่ทางขึ้นเขาลงเนิน ไม่มีหุบเหว ไม่มีร่องน้ำคูคลอง หรือไม่มีเครื่องจักรทำงาน โดยเฉพาะเวลากลางคืน ที่จอดต้องไม่มืด มีแสงสว่างเพียงพอ จะปั๊มน้ำมัน หรือที่พักริมทางได้ยิ่งดี
2. ห้ามเปิดแอร์
ปิดไปเลยค่ะ ลืมไปเลยความเย็น ลืมไปเลยอุณหภูมิจากแอร์ เพราะมันจะทำให้คุณถึงตายได้ สรุปง่ายๆ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จะเข้าไปแทนที่ก๊าซออกซิเจนในรถ ทำให้เราขาดออกซิเจนในการหายใจ นี่แหละต้นเหตุการเสียชีวิต
3. ลดกระจกลง
คาร์มิห่วงมากๆ กับการที่บอกว่า ห้ามเปิดแอร์ แล้วไม่ได้บอกอีกว่า ต้องเปิดกระจก หรือลดกระจกลงด้วยนะ บางคนใสซื่อ บอกห้ามเปิดแอร์ ก็นอนมันอย่างนั้น มันก็จะดับอนาถนะคุณเอ๊ย อันนี้ก็ขาดอากาศหายใจตายอีกเช่นกัน ดังนั้นเปิดกระจกลงสักเล็กน้อย ถ้าอยู่ในที่ไม่คุ้นเคย แต่หากบริเวณนั้นปลอดภัยสำหรับคุณ ก็เปิดมันให้หมดทุกบาน แถมเปิดประตูอีกด้วย...ก็ย่อมได้
4. ล็อกรถให้ดี
อันนี้สำหรับที่ที่ไม่ปลอดภัย หรือไม่คุ้นเคย คือก่อนที่คุณจะหลับตานอน คุณจะต้องตรวจสอบให้ดี ว่าล็อกรถดีแล้ว ไม่อย่างนั้นอาจถูกชิงทรัพย์ ถูกขโมยทรัพย์สินไปได้ ตื่นมาจนเลยจ้า
5. เปิดพัดลมช่วย
อ้าวๆ ไม่ต้องงง...พัดลมจากแอร์ไง เพียงคุณบิดกุญแจไปเปิดระบบไฟ ก็เปิดพัดลมได้แล้วจ้า อย่างน้อยก็ช่วยให้ได้อากาศจากภายนอกอีกหนึ่งทาง คุณจะได้รู้สึกหายใจได้สะดวกขึ้น ไม่อึดอัดมากเกินไป แต่ย้ำ...อย่าเปิดแอร์นะ !!
ง่ายๆ แบบนี้ แต่ทำให้คุณๆ มี "วันพรุ่งนี้" เสมอ แล้วอย่าเผลอไผลไปหลับบนรถนานๆ เชียวละ คาร์มิ ว่ายังไงมันก็ไม่ดี เอาแค่พอหายง่วง พอขับไหว แล้วก็ไปให้ถึงจุดหมายปลายทางกันเถอะค่ะ หรือยิ่งถ้ารู้ว่าต้องเดินทาง ก็จงเตรียมตัวเองให้พร้อม...
เพราะครอบครัวและคนรักของคุณ ยังรอคอยการกลับมาของคุณเสมอ !!!!
บาย...
...
อ่านเรื่องราว "คาร์มิ" เพิ่มเติม พร้อมกับอัพเดท "ฤกษ์ออกรถ" ได้ ที่นี่