หัวเชื้อน้ำมันเครื่อง หรือ Oil Additives กลายเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับรถยนต์ที่อยู่ในความสนใจของคนใช้รถรวมถึงคนชอบแต่งรถแต่งเครื่อง หัวเชื้อน้ำมันเครื่องบางยี่ห้อที่หาที่มาที่ไปไม่ได้เป็นสินค้าที่ซื้อได้ง่ายๆ มีขายอยู่เกือบจะทุกที่ เช่น ตามอู่ซ่อมเครื่องยนต์ คาร์แคร์ ร้านขายล้อแม็กและยางก็ยังมีให้เห็นว่าขาย รวมถึงในโลกออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊กขายสินค้า หรือตามเพจดังที่เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์

...

การโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าที่เกี่ยวกับสารหล่อลื่นพิเศษนี้ จะจาระไนอ้างสรรพคุณการใช้งานกันอย่างสุดเดชว่าดีอย่างนั้นลื่นอย่างนี้ บางเจ้าบางยี่ห้อก็ใช้รถแข่งทีมแข่งดังๆ ลองใช้เพื่ออ้างอิงให้ลูกค้าเห็นผลทันตาว่าแม้แต่ทีมแข่งดังๆ ที่ชนะการแข่งขันก็ยังใช้หัวเชื้อยี่ห้อนี้ รวมถึงการอ้างถึงความประหยัดเชื้อเพลิง ยืดอายุการทำงานของเครื่องยนต์ เคลือบและปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ ทำได้วิ่งได้ดีขึ้น (อาจจริงบ้างหากน้ำมันเครื่องที่คุณใช้เติมนั้นหมดสภาพไปนานแล้ว แต่หัวเชื้อน้ำมันเครื่องที่ใช้เติมจะต้องมีส่วนผสมที่ถูกต้องตามหลักการของสารหล่อลื่นเครื่องยนต์) ที่ฟังแล้วงงๆ ก็คือเพิ่มแรงม้าให้กับเครื่องยนต์ซึ่งเป็นการมโนคิดเอาเองทั้งนั้น มันจะมีจริงหรือที่พอเติมหัวเชื้อแล้วแรงม้าเพิ่มมานับสิบตัว แค่ลื่นขึ้นนิดหน่อยแรงม้าคงไม่โผล่มามากขนาดนั้นหรอกครับ การจะแต่งเครื่องยนต์เพื่ออัพหรือเพิ่มแรงม้าเป็นงานที่ค่อนข้างวุ่นวายและมีค่าใช้จ่ายไม่ถูก แค่เติมหัวเชื้อแล้วแรงม้ามาเป็นกระบุง หัวเชื้อน้ำมันเครื่องที่ว่านั้นจะต้องมีบริษัทผลิตรถสปอร์ตยอมควักเป็นร้อยๆ ล้านซื้อสูตรหรือลิขสิทธิ์เอาไปใช้งานอย่างแน่นอน

...

น้ำมันเครื่องมาตรฐานมีแบรนด์มียี่ห้อที่คุณคุ้นเคยและใช้กันมายาวนานในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์แบ่งออกตามเกรดการทำงานได้ 3 แบบ คือ

1.น้ำมันเครื่องธรรมดา (Conventional Oil)

2.น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi-synthetic Oil)

3.น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic Oil)

ทั้งสามแบบของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์นั้น มีราคาที่แตกต่างกันไป ของดีมีอายุการใช้งานนานก็แพงหน่อย ของธรรมดาก็มีอายุการใช้งานที่สั้นลดหลั่นกันลงมาอยู่ที่ความต้องการและเงินในกระเป๋าของคุณเอง

ส่วนตัว ผมขับรถเก่าอายุ 20 ปี ไม่เติมหัวเชื้อเร่งโน่นนี่นั่น เพราะคิดว่าไร้ประโยชน์ เนื่องจากขับไม่เร็ว ไม่ได้เอารถไปลงแข่งกับใคร และชอบใช้น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดาโดยเปลี่ยนที่ระยะ 5,000 กิโลเมตรมาตลอดอายุการใช้งานที่นาน 20 ปีแล้ว เครื่องยนต์ก็ยังไม่เห็นเป็นอะไร เนื่องจากชอบขับไปเรื่อยๆ โดยดูแลระบบหล่อลื่นและระบบระบายความร้อนให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเกรดปกติที่ระยะ 5,000 กิโลเมตร พร้อมกับการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องไปด้วยในครั้งเดียวกัน เครื่องยนต์ก็ยังอยู่ในสภาพปกติยังใช้ได้อีกนาน

ส่วนน้ำมันเครื่องยนต์สังเคราะห์แท้ที่มีราคาแพงและมีอายุยาวนานถึง 10,000 กิโลเมตร ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี เพียงแต่ผมมีเงินในกระเป๋าไม่มากพอก็เท่านั้นเอง 

...

หากหัวเชื้อน้ำมันเครื่องยนต์มีส่วนผสมที่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมยานยนต์ มีสารหล่อลื่นคุณภาพสูงจริง เป็นสารเติมแต่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพน้ำมันเครื่องเดิมๆ ให้ดีขึ้นจริง (ซึ่งพิสูจน์ได้ยากหรือลองพิสูจน์ทดสอบบนไดร์โนเทสต์แล้วแรงม้าเพิ่มมาจิ้ดเดียวแทบไม่คุ้ม) แรงม้าที่ได้รับอาจเพิ่มขึ้นมานิดนึงแต่การมโนไปเองว่าแรงขึ้นทันตาเห็นนั้นทำให้คนที่ยังชอบใช้สารเติมแต่งหรือหัวเชื้อน้ำมันเครื่องก็ยังคงใช้กันต่อไป 

...

ถ้าน้ำมันเครื่องยนต์ที่คุณเลือกใช้เป็นแบบเกรดสูงสุดอยู่แล้ว เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ยี่ห้อดังที่มีการรับประกันการใช้งาน เป็นน้ำมันเครื่องแบบ Fully Synthetic Oil ที่มีอายุถึง 10,000 กิโลเมตร การเติมหัวเชื้อน้ำมันเครื่องตามลงไปก็แทบจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น

หากดวงซวยไม่ได้มีความรู้เรื่องรถมากนัก ชอบไปตามกระแส แล้วไปเจอหัวเชื้อน้ำมันเครื่องที่ผสมขายกันเองหลังบ้านโดยไม่ได้ผ่านกรรมวิธีการผลิตด้วยส่วนผสมที่ถูกต้องและไม่ส่งผลกระทบกับเครื่องยนต์ เมื่อเติมและใช้งานไปนานวันเข้าเครื่องยนต์ก็พังเพราะสารที่นำมาใชัในการผสมเป็นหัวเชื้อนั้นคุณไม่สามารถรู้หรือตรวจสอบได้เลยว่าเขาเอาอะไรมาทำมาผสมแล้วขายให้กับคุณ!!! 


สรุป ขับไม่เร็ว ไม่แข่ง ไม่ซิ่ง ไม่ใช้รอบสูงต่อเนื่อง แค่ใช้น้ำมันเครื่องเกรดดีมียี่ห้อมีส่วนผสมที่ถูกต้องและได้รับการรับรอง รวมถึงตรงตามที่เครื่องยนต์ของคุณระบุในคู่มือประจำรถ แค่เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ตามระยะทางที่ระบุในคู่มือ  พร้อมเปลี่ยนไส้กรองทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง รวมถึงเลือกใช้น้ำมันเครื่องของดีมียี่ห้อที่น่าเชื่อถือ แค่นี้เครื่องยนต์ของคุณก็จะทำงานได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่มีความจำเป็นจะต้องเติมหัวชงหัวเชื้ออะไรทั้งนั้น อย่าลืมดูระบบระบายความร้อนให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานด้วยนะครับ.