MINI Cooper Electric รุ่นใหม่ ความน่ารักเก๋ไก๋ ทันสมัย และวินเทจ ด้วยองค์ประกอบทางประวัติศาสตร์ ผสมผสานกับระบบขับเคลื่อนพลังงานสะอาดที่วิ่งได้ไกลกว่าเดิม มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวโดดๆ ขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น และระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้นถึง 400 กิโลเมตร Cooper SE 218 แรงม้า แรงบันดาลใจจากอดีตที่ขับได้ดีรุ่นหนึ่งของ MINI พร้อมราคา 1,699,000 บาท จากฐานการผลิต MINI ไฟฟ้าในประเทศจีน! 

...

ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ Oliver Heilmer และทีมงานได้จุดประกายความฝันของลูกค้าให้กลายเป็นความจริง ด้วย MINI ไฟฟ้าที่ขับได้ไกลกว่าเดิม วิวัฒนาการของรูปลักษณ์ที่เน้นกะทัดรัดและคล่องตัว ทรงของรถยังรักษาสไตล์ wheel-at-each-corner™ เอาไว้อย่างเหนียวแน่น ตัวถัง พื้นที่กระจก และผืนหลังคาแบบทูโทน มีองค์ประกอบที่แตกต่างแต่สอดคล้องและเชื่อมโยงกันอย่างกลมกลืน J01 คล้ายกับ F56 แต่ทันสมัยมากกว่า ด้วยรูปลักษณ์ของ MINI แบบใหม่ ดูคล้ายกับสัญลักษณ์ของรถอังกฤษในอดีต กระจังทรงแปดเหลี่ยม ไฟหน้าทรงกลม พร้อมกับสัญลักษณ์ภายในไฟหน้า LED แบบใหม่ที่แตกต่างกันถึงสามแบบ ไฟท้าย Union Jack หลอด LED เมื่อรถเชื่อมต่อกับกุญแจ (หรือสมาร์ทโฟน) ขณะที่เจ้าของรถกำลังเดินเข้าใกล้ระบบก็จะปลดล็อกให้ทันที พร้อมกับไฟต้อนรับที่จัดเตรียมไว้สำหรับเจ้าของรถที่ชอบแสงสีมากเป็นพิเศษ 

...

...

แก่นแท้ของความเป็น MINI ในตำนาน ทรงของ J01 ที่กะทัดรัด ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศอยู่ที่ 0.28 (cd 0.28) ช่วงหน้ารถสั้น เพื่อปรับมุมเลี้ยวให้มีความคล่องตัว พื้นผิวตัวถังราบเรียบ New Cooper SE 2024 ใช้องค์ประกอบการดีไซน์จากรุ่นคลาสสิกในตำนานผสานกับความล้ำสมัยในสไตล์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง มือจับประตูออกแบบใหม่ให้ราบเรียบไปกับตัวรถ ตัวถังปราศจากซุ้มล้อและไฟเลี้ยวด้านข้าง กระจังหน้าใหม่รูปทรงแปดเหลี่ยม สีใหม่ Vibrant Silver หล่อเล็ก New MINI Cooper SE 2024 รถทดสอบในสัปดาห์ที่ฝนตกหนักต่อเนื่อง ติดตั้งไฟหน้าทรงกลมและไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ พร้อมลูกเล่นของโหมดขับเคลื่อนที่ปรับรูปแบบได้ถึง 6 โหมด รวมถึงการเพิ่มแอนิเมชันสั่งงานด้วยเสียงเป็นรูปน้องหมาน่ารักบนหน้าจอ โคตรชัดแบบ OLED

...

New Cooper SE ไม่ใช่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ดึงดูดความสนใจด้วยตัวเลขที่บ่งชี้สมรรถนะด้านอัตราเร่งและการทำระยะทางแต่เพียงอย่างเดียว วิศวกรของ MINI ได้ปรับองค์ประกอบของการใช้งาน ซึ่งถ่ายโอนมาจากรถฮอตแฮตช์เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเดิมๆ ให้เข้ามาอยู่ในโฟกัสที่คมชัดยิ่งขึ้น ด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า พวงมาลัยเบาและคม ตอบสนองเร็วกว่า นอกจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว พื้นฐานของรถยังดูดีเหมือนเดิม MINI New Cooper SE 2024 วางตำแหน่งของแบตเตอรี่ไว้ที่พื้นรถ เป็นตำแหน่งยอดนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยปรับให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ล้อถูกดันออกไปสุดขอบมุมตัวถังทั้งสี่ด้าน ระยะโอเวอร์แฮงก์จึงสั้นกุด เหลือส่วนที่ยื่นออกมาทั้งด้านหน้าและด้านหลังแค่นิดเดียวเท่านั้น 

ตัวถังเรียบสนิท รอยต่อขอบประตูฝาท้ายและขอบฝากระโปรง โชว์ให้เห็นถึงงานประกอบที่เป็นมาตรฐานของ MINI ไม่ว่าจะประกอบในโรงงานที่อังกฤษ ประเทศไทย หรือจีน รายละเอียดที่ไม่จำเป็นถูกตัดออกไปเพื่อทำให้รถรุ่นใหม่เวอร์ชันไฟฟ้าดูเรียบร้อยและทันสมัย รูปแบบพื้นฐานจะดูเรียบง่าย เสน่ห์ด้านเอกลักษณ์ของรุ่นก่อนยังคงอยู่ครบโดยเฉพาะฟีลลิ่งโกคาร์ต การก้าวขึ้นมาเป็น Cooper SE ในชุดแต่งแบบ Sport ช่วยฟื้นคืนรูปลักษณ์ของ MINI ยอดนิยมในอดีต แต่งเติมสไตล์การขับแบบ JCW และอุปกรณ์ Aero สิ่งที่หายไปก็คือ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบกับท่อไอเสียคู่กลาง! ถูกแทนที่ด้วยมอเตอร์ตัวเขื่องที่ไม่มีอาการแร็ก! 

ภายใน กระจกบังลมบานหน้าเกือบจะตั้งตรงเป็นสไตล์ที่คุ้นเคยของ MINI จอภาพมอนิเตอร์กลางทรงกลมขนาดใหญ่พอๆ กับชามกวยจั๊บ ทำให้ภายในของมันให้ความรู้สึกใหญ่กว่าที่เป็นจริง โปร่งสบายมากขึ้นจากงานตกแต่งแบบใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดูเป็นมิตรมากขึ้น โอบล้อมคนขับและผู้โดยสารน้อยลง การติดตั้งระบบ HMI ไว้ตรงกลางมีทั้งข้อดีและไม่ดี ดีตรงที่หน้าจอ OLED แบบวงกลมใหม่มีความคมชัดสุดๆ ตอบสนองเร็ว แต่ฟังก์ชันบางอย่างบังคับให้ต้องละสายตาจากถนนเพื่อเจาะลึกเข้าไปในเมนูย่อยของ UI คุณภาพงานประกอบในจีนถือว่าเป็นเลิศ ห้องโดยสารสไตล์มินิมอลที่ยังคงความคลาสสิกและเรียบง่ายของ MINI โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก MINI Classic ปี 1959 เน้นองค์ประกอบที่สำคัญ จอกลางแบบใหม่ หน้าจอ OLED ความละเอียดสูงทรงกลม เป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จอสุดชัดถูกเปิดตัวในรถคันจิ๋ว แทนที่จะเป็นรถสปอร์ตซุปเปอร์คาร์ ทำหน้าที่เป็นทั้งแผงหน้าปัดและศูนย์กลางของระบบอินโฟเทนเมนต์ รวมถึงระบบช่วยเหลือที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด เข้าถึงข้อมูลสำคัญในการขับขี่จากหน้าจอแสดงผล Head-up Display ด้านหลังพวงมาลัย ช่วยให้มองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนและครอบคลุม

แผงควบคุมดีไซน์ใหม่ Toggle Bar รวมฟังก์ชันสำคัญสำหรับการขับขี่เอาไว้ในจุดเดียว ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงเบรกมือ เกียร์รถ สวิตช์สตาร์ต หรือดับเครื่องยนต์ สวิตช์เลือกรูปแบบ Experience Mode รวมถึงตัวปรับความดังของเสียงลำโพงได้จากปลายนิ้ว ผสมผสานงานดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เข้ากับฟังก์ชันด้านการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้สอยบริเวณระหว่างที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า ให้มีช่องวางแก้วและช่องเก็บของที่ใหญ่ขึ้น

พวงมาลัยแบบสามก้าน ก้านที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเป็นสายผ้าถักสไตล์ใหม่ หน้าปัดคอนโซลทรงโค้งหุ้มด้วยผ้าสองสีที่ได้รับการถักทอจากโพลีเอสเตอร์ที่มาจากวัสดุรีไซเคิล ผ่านกระบวนการถักทอที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้พื้นผิวผ้าที่เหมาะกับทุกสถานการณ์การใช้งานและดูแลรักษาได้ง่าย ชาร์จสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดายผ่านจุดชาร์จไร้สายบริเวณด้านหน้าคอนโซลที่มีพื้นที่กว้างขวาง

ชุดแต่ง Favoured Trim ของ New MINI Cooper SE

ล้อ 18 นิ้ว ลาย Slide spoke สีทูโทน กระจังหน้ารูปทรงแปดเหลี่ยมตกแต่งด้วยสี Vibrant Silver แผงคอนโซลรถหุ้มด้วยผ้าถักลวดลาย Houndstooth สองสี ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลหุ้มด้วยพื้นผิวผ้าทอและลวดลายสายคาด

ชุดแต่ง Favoured Trim มาพร้อมเบาะนั่งแบบสปอร์ต Vescin สี Nightshade Blue วัตถุดิบจากวัสดุรีไซเคิล โดยเบาะหนังแบบ Vescin สามารถส่งมอบทั้งรูปลักษณ์ ผิวสัมผัส และการใช้งานระดับพรีเมียมได้อย่างครบครัน วัสดุที่ใช้ถักทอผ้าแบบเรียบสองมิติ ซึ่งใช้ในแดชบอร์ด คอนโซล แผงด้านในประตูรถ และฝาช่องเก็บของ ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ซึ่งรีไซเคิลกว่า 90% ล้ออะลูมิเนียมในเจเนอเรชันใหม่ของ MINI ผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิลสูงสุดถึง 70%

หน้าจอแสดงผล MINI Interaction Unit ผ่านจอ OLED ความละเอียดสูง ปฏิวัติประสบการณ์การใช้งานของผู้ขับขี่ MINI โฉมใหม่ หน้าจอแสดงผล OLED ทรงกลม ใช้ระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9 พัฒนาโดยวิศวกรของ BMW Group มีซอฟต์แวร์ Android Open Source Project (AOSP) บรรจุอยู่ภายใน เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการยานยนต์ จอภาพ OLED ส่งมอบมุมมองจอภาพที่มีความละเอียดคมชัดสูง ฟังก์ชันการสั่งงานที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน หน้าจอแสดงผล MINI Interaction Unit จะอยู่ที่บริเวณกึ่งกลางคอนโซลด้านหน้ารถ ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้อยู่ใกล้กับตำแหน่งที่นั่งของคนขับมากขึ้น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 240 มิลลิเมตร เพื่อให้ผู้ขับใช้งานหน้าจอด้วยการเอื้อมมือไปแตะสั่งงานได้อย่างสะดวก MINI Interaction Unit ยังทำงานบนระบบปฏิบัติการ MINI Operation System 9 ที่ตอบสนองการสั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัสและการสั่งงานด้วยเสียงได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพสูงกว่าเดิม หน้าจอจะแสดงผลข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการขับขี่อย่างครบครัน เช่น อัตราความเร็วในการขับขี่ ระดับพลังงานแบตเตอรี่ เป็นต้น ซึ่งผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึงฟังก์ชันด้านการนำทาง มีเดีย โทรศัพท์ และการดูข้อมูลสภาพอากาศได้อย่างง่ายดาย ไม่ต่างกับการใช้งานสมาร์ทโฟน

โหมดการใช้งาน MINI Experience ใหม่ล่าสุด

New MINI Cooper SE 2024 โหมดการใช้งาน MINI Experience มีให้เลือก 7 รูปแบบ

แต่ละโหมดมาพร้อมดีไซน์เสียง Jingle เสียงสร้างบรรยากาศขณะขับขี่ และแสงสีที่ช่วยสร้างบรรยากาศภายในรถที่แตกต่างกัน ได้แก่

Core Mode: โหมดหลักซึ่งเน้นการแสดงผลหน้าจอเมนูหลัก มาพร้อมกับไอคอนวิดเจ็ตสไตล์ MINI ในเฉดสี Laguna แสงไฟภายในห้องโดยสารและการแสดงภาพจะปรับเปลี่ยนสีสันให้เข้ากับโทนสีนี้โดยอัตโนมัติ

Go-Kart Mode: โหมดที่ปลุกจิตวิญญาณแห่งความเป็นมอเตอร์สปอร์ต เน้นความเร้าใจด้วยสมรรถนะ
ขั้นสุด หน้าจอ MINI Interaction Unit แสดงผลมาตรวัดความเร็วในสไตล์สปอร์ตเต็มรูปแบบ พร้อมข้อมูลเฉพาะสำหรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต การตอบสนองของคันเร่งได้รับการออกแบบให้เหมาะกับอารมณ์การขับขี่ของสายสปอร์ต โดยมาพร้อมกับเสียงเอฟเฟกต์การขับรถในแบบ ‘Go Kart’ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยระดับเสียงและโทนเสียงที่ปรับเปลี่ยนตามรอบเครื่องยนต์ ให้ความรู้สึกราวกับกำลังบังคับรถโกคาร์ต พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างทรงพลัง

Green Mode: โหมดที่ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะเน้นเฉพาะสิ่งที่จำเป็น ให้ความสำคัญกับการมอบระยะทางการขับรถที่สูงที่สุด จากระบบการจัดการพลังงานส่วนเกินกลับไปที่แบตเตอรี่เมื่อผู้ขับขี่ทำการเบรกหรือชะลอความเร็ว นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอเทคนิคการขับอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงแสดงผลมาตรวัดพลังงานที่เข้าใจได้ง่ายบนหน้าจอ

Balance Mode: โหมดที่มีความพิถีพิถันที่สุด ทั้งในแง่ของแสงสี แอนิเมชัน และรูปแบบการแสดงผลที่สื่อถึงความสงบ โดยเสียงของรถในโหมด Balance ได้รับการออกแบบโดยอิงจากเสียงธรรมชาติต่างๆ ของป่าในเวลากลางวันและกลางคืน

Timeless Mode: สัมผัสกลิ่นอายแห่งตำนาน MINI สู่ยุคดิจิทัล ด้วยฟอนต์แบบ Serif และมาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่ เสียงการขับขี่ในโหมดนี้บันทึกไล่เรียงจาก มินิ คลาสสิก ไปจนถึง มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ จีพี ผสมผสานกับเสียงของ MINI ‘Core’ สร้างสุนทรียภาพด้านเสียงที่เดินทางผ่านกาลเวลา

Vivid Mode: โหมดที่เน้นเรื่องการนำเสนอคอนเทนต์เป็นหลัก ด้วยเทคโนโลยี “Color Grabber” ที่ดึงสีสันจากหน้าปกอัลบั้มของเพลงที่กำลังเล่นอยู่ มาปรับใช้ในการแสดงผลแสงสีผ่านดีไซน์ของหน้าจอ พร้อมการฉายภาพและไฟบรรยากาศในห้องโดยสารให้รับกับสีสันบนหน้าจอ

Personal Mode: โหมดที่เปิดให้เจ้าของรถสามารถปรับแต่งภาพพื้นหลังบนหน้าจอแสดงผลของ MINI Interaction Unit ของตัวเองได้ ผ่านการใช้งานแอปพลิเคชัน MINI App โดยโหมดนี้ยังใช้งานเทคโนโลยี Color Grabber เพื่อวิเคราะห์ภาพที่ผู้ขับขี่เลือกใช้ เพื่อปรับแต่งไฟภายในห้องโดยสารและการแสดงผลบนหน้าจอแดชบอร์ดให้เข้ากัน

New MINI Cooper SE 2024 พร้อมผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ รองรับการสั่งการด้วยเสียงอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกของ MINI โดยสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการพูดว่า “Hey MINI” หรือการกดปุ่ม push-to-talk ที่พวงมาลัย ซึ่งหน้าจอแสดงผล OLED ทรงกลมจะแสดงผลโต้ตอบผ่านแอนิเมชันกราฟิก ตัวอักษร และอวาตาร์ โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ตัวเลือกในแบบ “MINI” หรือทำการอัปเกรดแพ็กเกจ MINI Connected เพื่อปลดล็อกน้องหมา “Spike” สุดน่ารักมาเป็นตัวแทนของ MINI Intelligent Personal Assistant

ระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9 ซึ่งได้รับการออกแบบให้ดูเรียบง่าย แต่มีความน่าตื่นเต้นตามสไตล์ MINI Classic ทั้งยังใช้งานได้อย่างง่ายดาย โดยมีพื้นฐานมาจากระบบปฏิบัติการ Android Open Source Project (AOSP) ทั้งนี้ ระบบปฏิบัติการดังกล่าวยังทำงานร่วมกับระบบนำทาง MINI Navigation ที่ใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพื่อคำนวณข้อมูลเส้นทางได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วที่สุด รวมทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยี 5G อีกด้วย นอกจากนี้ ระบบนำทาง MINI Navigation ยังมาพร้อมแพ็กเกจเสริมที่รองรับการแสดงผลภาพแผนที่ในรูปแบบภาพ 3 มิติที่สมจริง สำหรับสถานการณ์การเข้าโค้งที่มีความซับซ้อน

MINI Operating System 9 ยังมาพร้อมกับแอปสโตร์ชื่อ MINI Connected Store ช่วยให้เจ้าของเข้าถึงและดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากผู้ให้บริการได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงหรือการใช้งานต่างๆ ทั้งแอปพลิเคชันเพลง วิดีโอสตรีมมิง หรือเกม นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน AirConsole ยังจะทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมผ่านหน้าจอ OLED โดยใช้สมาร์ทโฟนของตัวเองเป็นจอยเกมได้อีกด้วย

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (Driving Assistant) ใน MINI โฉมใหม่ มีฟังก์ชันช่วยเหลือการจอดรถแบบอัตโนมัติ Parking Assistant กล้องแสดงภาพด้านท้ายรถ ออปชันเสริม Driving Assistant Plus ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายและปลอดภัย ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ล้ำสมัยต่างๆ เช่น Adaptive Cruise Control

MINI Cooper SE ใหม่ มี MINI Digital Key Plus ที่จะทำให้เจ้าของรถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของตัวเองให้เป็นกุญแจรถ ปลดล็อก/ล็อกรถได้โดยไม่ต้องพกกุญแจและไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกมา โดยแสงไฟต้อนรับด้านหน้าและด้านหลังรถมินิจะเปิดทำงานทันทีเมื่อเจ้าของรถเข้ามาใกล้ในระยะ 3 เมตร และประตูจะปลดล็อกให้ในระยะ 1.5 เมตร

ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
MINI New Cooper SE ติดตั้งมอเตอร์พลังงานไฟฟ้าเดี่ยวที่เพลาขับหน้า (ขับเคลื่อนล้อหน้า) กำลังรวมสูงสุด 160 กิโลวัตต์/218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.7 วินาที แบตเตอรี่มีความจุพลังงานสุทธิ 54.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง รองรับชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุดที่ 95 กิโลวัตต์ ชาร์จจาก 10-80% ใน 30 นาที แบตเตอรี่เต็มวิ่งไกล 402 กิโลเมตร

แบตเตอรี่แบบติดตั้งบนพื้นขนาด 54.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้พลังงานเพียงพอสำหรับระยะทาง WLTP ที่ 402 กิโลเมตร Mini Cooper SE สามารถชาร์จ DC เร็วได้ถึง 95 กิโลวัตต์ และชาร์จด้วยไฟ AC ได้สูงสุด 11 kW แบตเตอรี่วางอยู่ใต้พื้นห้องโดยสาร ความจุที่มากขึ้นทำให้มันวิ่งไกลขึ้นกว่าเดิมมาก แต่เรื่องของสมรรถนะดังกล่าวก็หมายถึงน้ำหนักของชุดแบตฯ ที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ Cooper SE มีน้ำหนัก 1,615 กิโลกรัม หนักกว่า MINI Electric รุ่นเก่าถึง 289 กิโลกรัม Cooper SE ที่ผลิตในจีนใช้ซัพพลายเออร์ยางหลากหลายแบรนด์ สำหรับรถชุดแรกที่เข้าไทยใส่ยาง Michelin e-Primacy ไซส์ 225/40R18 

MINI Cooper SE 2024 หรือคูเปอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ใช้แพลตฟอร์ม Spotlight EV พัฒนาร่วมกันระหว่าง BMW Group และ Great Wall Motor โดยผลิตรถชุดแรกในโรงงาน MINI ที่ประเทศจีน แม้จะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม EV ใหม่ล่าสุด แต่ Cooper SE ก็มีน้ำหนักมากกว่า Cooper SE รุ่นแรกถึง 240 กิโลกรัม ถือว่าเป็นหนึ่งในอัตราส่วนขนาดต่อน้ำหนักที่ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ความหนักจากแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น ทำให้มันวิ่งไกลขึ้นอีกเท่าตัว มีพลังมากกว่าเดิม New Cooper SE 2024 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวติดตั้งที่ด้านหน้า แต่กำลัง 215 แรงม้า มากกว่าเดิม 34 แรงม้า มีแรงบิดอยู่ที่ 330 นิวตันเมตร เป็นแรงบิดของมอเตอร์ที่ปราศจากอาการรอรอบ 

MINI Cooper SE ปี 2024 ส่งกำลังไปยังล้อหน้า ผ่านมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 218 แรงม้า แรงฉุดลาก 300 นิวตันเมตร ทำให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ที่ 6.7 วินาที Cooper electric รุ่นท็อป มีแบตเตอรี่ 54.2 kWh เคลมมาว่าวิ่งไกล 402 กิโลเมตร ด้วย WLTP เมื่อลองขับจริงจนแบตเตอรี่ใกล้หมดโดยไม่ขับแบบหยอดๆ ย่องๆ ใช้งานปกติเน้นไปที่การทำความเร็ว ทำได้ประมาณ 310 กิโลเมตร 

การทดสอบความสามารถของ MINI Cooper SE ปี 2024 ผมใช้การขับในเมืองและบนทางยกระดับในตอนกลางคืน รวมถึงเดินทางไปจังหวัดอยุธยา เป็นการขับที่ค่อนข้างใช้ความเร็วเพื่อจับอาการด้านการตอบสนอง ความคล่องตัว และการยึดเกาะ โหมด "Go-Kart" Cooper SE ให้ความรู้สึกที่เร็วกว่า Cooper S เครื่องสันดาปอย่างชัดเจน อาการทอร์คสเตียร์มีไม่มาก จากการปรับแต่งซอฟต์แวร์ของโหมดขับเคลื่อนที่ลงตัวและรุดหน้าสุดๆ ระบบกันสะเทือน การบังคับเลี้ยว พวงมาลัยไฟฟ้า ระบบเบรก ทุกอย่างของ New Cooper SE ให้การตอบสนองที่กระชับขึ้น MINI เพิ่มเสียงไฟฟ้า (ที่ค่อนข้างน่าเบื่อ) โดยบอกว่าเสียงที่ปรุงแต่งแปลกๆ จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับ ส่วนตัวผมคิดว่ามีแค่เสียงยางและเสียงลมจะดีซะกว่าการจำลองเสียงแปลกแบบหลอกเด็ก มันไม่ใช่รถโกคาร์ตที่มีเครื่องยนต์ แต่น่าแปลกใจที่ New Cooper SE พลังไฟฟ้า ถูกเซตมาเพื่อรักษาเอกลักษณ์และฟีลลิ่งแบบรถโกคาร์ตเอาไว้ มันกระชับ ดีดดิ้นเล็กน้อยพองาม ในบางจังหวะที่ใส่มาล้นเกินไปนิด New Cooper SE พุ่งทะยานไปตามฝ่าเท้าพร้อมกับการรับประทานไฟสาหัสสากรรจ์เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เมื่อขับเร็วจี๋มุดไปมุดมาด้วยความสนุก ตัวเลขระยะทางจะหดหายไปอย่างรวดเร็วหากเข็มวัดความเร็วทะยานผ่าน 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเสถียรของระบบรองรับท่ีลดทอนความแข็งของสปริงและโช้คเมื่อเทียบกับช่วงล่างของรุ่นสันดาปภายใน คุณจะรู้สึกเหมือนรถกำลังวิ่งอยู่แค่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะขับเร็วถึง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากความนิ่งของช่วงล่างและยางที่สดใหม่ 

MINI Cooper Electric 2024 นำเสนอไดนามิกในการขับขี่ที่เน้นความสนุกสนานบันเทิงใจ เป็นรถขับเล่นในวันหยุดที่ไม่มีมลภาวะ และรักษาความรู้สึกเดิมๆ สไตล์คลาสสิกเอาไว้ ในขณะที่ไดนามิกของมันมีการปรับจูนให้เข้ากับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ตำแหน่งเบาะนั่งสูงกว่ารุ่นสันดาปนิดหน่อย ทำให้ทัศนวิสัยมีความสมดุล พร้อมกับความรู้สึกแบบสปอร์ตจากการควบคุมที่โคตรจะคล่อง โดยเฉพาะในเขตเมือง ขนาดที่เล็กให้การบังคับเลี้ยวที่เฉียบคม ทำให้ง่ายต่อการควบคุมและเสียบเข้าไปในช่องว่างของการจราจรที่หนาแน่นได้ดี 

แชสซีที่มีความสมดุล ทำให้ MINI ใหม่คล่องตัวและเร็วกว่าเดิม พวงมาลัยไฟฟ้าเมื่อขับเร็วขึ้นก็จะมีน้ำหนักที่ดึงมือช่วยทำให้มั่นใจ แร็กกับมอเตอร์ผ่อนแรงหมุนในระบบบังคับเลี้ยวมีความแม่นยำ ไม่แข็งขืนจนเกินไป ให้การตอบสนองแบบสปอร์ต คล้ายกับพวงมาลัยของรุ่นสันดาปภายใน ย่านความเร็วต่ำในเมืองให้ความสบายในการควบคุม แม้ว่ารถจะมีน้ำหนักเกือบ 1,600 กิโลกรัม แต่เวลาเลี้ยวเร็วๆ ก็ปกปิดหลบซ่อนน้ำหนักไว้ได้ดี โดยคงความต้านทานการหมุนได้ดีและการยึดเกาะแบบกลไก ความคล่องตัวทำให้ Cooper SE รักษาสมดุลเมื่อเข้าโค้ง เพิ่มความมั่นใจในการผลักดันรถให้เร็วขึ้นอีก

โดยภาพรวม MINI Cooper SE คลุกเคล้าแก่นแท้ของ MINI แบบคลาสสิก เข้ากับประสิทธิภาพพลังงานไฟฟ้าสมัยใหม่ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่แม้จะปรับให้เหมาะกับอนาคตแห่งพลังงานไฟฟ้า แต่ก็ไม่ได้ห่างไกลจากความคล่องตัวและความสนุกสนานของรุ่นก่อนๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเบนซิน แต่มันคือ MINI Cooper ล้วนๆ เหรอ? อาจจะไม่ใช่ แต่นั่นคือการต่อสู้เพื่อนำ DNA และมรดกของ MINI มาสู่รถยนต์ไฟฟ้า แต่มันก็เป็นความพยายามที่ดีและสนุกมาก!

MINI New Cooper SE โดดเด่นในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่สองของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มันขับได้ดีอย่างท่ีคิดเอาไว้แต่แรก บางอย่างก็ดีกว่าที่คิด แต่บางอย่าง โดยเฉพาะการสั่งงานที่หน้าจอภาพ ควรปรับตั้งให้เรียบร้อยก่อนการเคลื่อนตัวจะดีกว่าขับไปปรับไป ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เมื่อต้องละสายตาไปมองจอภาพนานๆ สำหรับอนาคตของตลาด EV ในไทยที่รุดหน้าไปเรื่อยๆ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของยานยนต์พลังงานสะอาด หากคุณอยากสัมผัส Cooper ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตฯ ที่ไปได้ไกลกว่า 300 กิโลเมตรในรถคันเล็กน่ารัก ด้วยเงิน 1,699,000 ถือว่าถูกมากกับการครอบครองรถยนต์ที่ครั้งหนึ่งเคยมีราคาทะลุ 2 ล้านบาท! 

Max. output 160 kW/ 218 hp
Max. torque 330 Nm

Max. speed 170 km/h
Acceleration 0-100 km/h 6.7 sec.
Electric range (WLTP) 402 KM
Battery capacity 54.2 kWh
DC Charging95 kW Charging time (10-80%) 30 Minutes
AC Charging11 kW Charging time (0-100%) 05:15 Hours
MINI experience modes ALL-ELECTRIC MINI COOPER SE

Driving assistant
Parking assistant
Acoustic protection for pedestrians
WHEEL/TYRE 18'' Slide Spoke 2-tone 7.5 J x 18 / tyres 225/40 R18
Vescin | Nightshade Blue
LED headlights with extended contents
John Cooper Works sport seats
MINI Round Center Display OLED
Front airbags for driver and front
Head airbags for all seats
Anti-lock Braking System and Cornering Brake Control (ABS and CBC)
Crash sensor Dynamic Brake Control (DBC)
Side airbags for all seats
PC iBrake (Post-Crash Collision Warning)
Dynamic Stability Control (DSC)
MINI Connected services
Wireless charging tray
MINI head-up display
Sport steering wheel
Steering-wheel heating
Headliner anthracite
Interior and exterior mirror package
High-beam assistant
Roof & mirror caps in Black or White
Favoured Trim
Digital Key Plus
Comfort access
Park Distance Control (PDC)
Rear view camera