รถที่ขับแล้วชอบในปี 2566 พื้นที่ใช้สอย ประสิทธิภาพด้านอัตราเร่งและการทรงตัว ความประหยัด และราคาต่อความคุ้มค่าที่ต้องควักเงินจ่าย .....
Toyota Yaris Cross HEV
BMW i7 xDrive60
BMW 320d M Sport LCI
Volvo C40 Recharge
Mercedes-Benz C220d
BMW X7 xDrive40d M Sport
Nissan Almera 1.0
BYD Dolphin Extended range
Audi A4 40TFSi S Line
Honda CR-V e-HEV ES
Lexus RX450h+ AWD
Ford Ranger Stormtrak
BYD Seal AWD Performance
...
Toyota Yaris Cross HEV Premium Luxury
ราคา 899,000 บาท ออปชันเยอะสุด เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 1.5 ลิตร แบบแถวเรียงสี่สูบ 2NR-VEX ความจุ 1,496 ซีซี กำลังสูงสุด 91 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร จ่ายเชื้อเพลิงหัวฉีด EFI มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน แรงดันไฟฟ้า 177.6 โวลต์ ความจุ 4.3 แอมป์/ชั่วโมง เครื่องยนต์วางตามขวางด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหน้า ชุดส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ E-CVT เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 111 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ลองขับทางยาวๆ เวลาเร่งแซงไม่ต้องลุ้นมากนัก เพราะแรงบิดมีมากพอให้ใช้งาน แรงบิดรอบต่ำทำให้ออกตัวได้เร็วทันใจ กดก็พุ่งใช้ได้ แม้จะไม่ได้มีเรี่ยวแรงเท่ากับรถรุ่นพี่อย่าง Corolla Cross แต่เร่งติดเท้าเอาเรื่อง ใช้ความเร็วเดินทางสลับกับการขับเร็วเพื่อลองดูการทรงตัว การถ่ายเทน้ำหนักในโค้งและอัตราสิ้นเปลือง เครื่อง 2NR-VEX กับเกียร์ e-CVT ทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 23.5 กิโลเมตรต่อลิตร (Toyota เคลม 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร)
...
...
...
BMW i7 xDrive60
BMW i7 xDrive60 M Sport First Edition เรือธงไฟฟ้า ราคา 7,599,000 บาท จัดมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 552 แรงม้า ที่ 5,000-12,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร ที่ 0-5,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกันขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 101.7 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า มีกำลัง 262 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 365 นิวตันเมตร มอเตอร์ด้านหลัง มีกำลัง 317 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ชาร์จไฟจนเต็ม วิ่งไกล 625 กิโลเมตร เป็นรอง Mercedes Benz EQS เล็กน้อย ซึ่งเบ่งบานระยะทางได้ถึง 700 กิโลเมตร นั่งสบายดูหนังจอใหญ่ยักษ์ เงียบสนิทปราศจากแรงสั่นสะเทือนเพราะไม่มีเครื่องยนต์ ขับจริงวิ่งเรื่อยๆ ประหยัดไฟใช้ได้
BMW 320d M Sport LCI
BMW 320d Sport รุ่นปรับโฉม LCI ประกอบในประเทศ ราคา 2,699,000 บาท เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียงสี่สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ระบบอัดอากาศ เทคโนโลยี BMW Twin Power Turbo เกียร์ออโต้ ZF 8 สปีด ช่วงล่างเน้นอารมณ์สปอร์ต ทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองในโหมด Eco Pro ซึ่งเป็นโหมดประหยัดได้ 15.7 กิโลเมตรต่อลิตรสำหรับการขับใช้งานแบบผสมทั้งในและนอกเมือง และทำอัตราสิ้นเปลืองในโหมดสปอร์ตอยู่ที่ 11.7 กิโลเมตรต่อลิตร แรงม้า 190 ตัว กับแรงบิด 400 นิวตัน-เมตร จากเครื่องดีเซลสี่สูบ รหัส B47D20 2.0 L I4 turbo มีความสะอาดจากอัตราการปล่อย Co2 แค่ 122 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เชื้อเพลิงเต็มถังวิ่งไกลเฉียดๆ 900 กิโลเมตรเลยทีเดียว
Volvo C40 Recharge Twin Motor
C40 Recharge Twin Motor มีราคา 2,790,000 บาท รวมฟีเจอร์ทั้งหมดจากสเปกพื้นฐาน ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า Twin Motor's พร้อมกล้อง 360 องศา อัตราเร่งระดับรถสปอร์ต 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.8 วินาที ท็อปสปีด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 75 kWh ระบบชาร์จไฟ DC - 50 kW (Charging power) รับเต็มเหนี่ยวที่ตู้ชาร์จระดับ 150 kW (Charging power) โดยใช้เวลาชาร์จไฟจาก 37% ไปถึง 92% ในเวลา 28 นาที สำหรับการทำระยะทางเมื่อชาร์จไฟมาเต็ม Volvo เคลมมา 580 กิโลเมตร เมื่อลองขับทดสอบด้วยการใช้คันเร่งอย่างระมัดระวังไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง C40 ขับได้ไกลประมาณ 400 กิโลเมตร และเมื่อใช้คันเร่งอย่างต่อเนื่องเพื่อทำความเร็ว โดยจัดหนักด้วยความเร็วในย่าน 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บางจังหวะเล่นซะเต็มข้อ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อเร่งแซง ระยะทางจะหดลงเหลือประมาณ 290-310 กิโลเมตร เป็น Volvo ไฟฟ้าคันเล็กกะทัดรัดที่แรงเอาเรื่อง
Mercedes-Benz New C-Class W206 รุ่น C220d Avantgarde
ราคา 2,730,000 บาท คุณจะได้ขุมกำลังรหัส OM 654 เป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบแถวเรียงสี่สูบ ความจุ 2.0 ลิตร 1,950 ซีซี อัดอากาศด้วยเทอร์โบเดี่ยวรุ่นแรกในตระกูลเครื่องยนต์ใหม่ของ Mercedes เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติ 9-G Tronic น้ำหนักเครื่องยนต์แค่ 168 กิโลกรัม ถือเป็นเครื่องดีเซลที่มีประสิทธิภาพรุ่นสุดท้าย ก่อนที่รถยนต์ทั้งหมดของแบรนด์ตราดาวจะเปลี่ยนไปขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จุดเด่นของเครื่องยนต์รุ่นนี้ก็คือ มีเสียงการทำงานที่เบา แรงสั่นสะเทือนน้อยลงและมีแรงบิดค่อนข้างกว้าง รอบขึ้นเร็วแม้จะเป็นดีเซลแต่มีเทอร์โบประสิทธิภาพสูงคอยเอาเปรียบเชิงกล เกียร์ 9-G ไหลลื่นและราบเรียบไม่มีอาการกระตุกกระชาก อัตราทดที่ครอบคลุมในเกียร์ 8-9 ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ลงมาเหลือ 2800 รอบแม้ความเร็วจะทะยานไปเกือบ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง C220d Avantgarde ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบ AGILITY CONTROL เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนประกอบหลักของระบบกันสะเทือนที่กำหนดค่าแบบไดนามิก คือ 4 link ที่ด้านหน้าและ Multi Link ที่ด้านหลัง ติดตั้งกับเฟรมย่อย ระบบกันสะเทือนของ New C-Class Avantgarde เป็นพื้นฐานของระบบกันสะเทือนในยานยนต์ระดับสูงของแบรนด์ตราดาว เน้นความสะดวกสบายในการขับเคลื่อนและเสียงการทำงานที่ลดลง การควบคุมทิศทางที่คล่องตัว และความสนุกในการขับเมื่อใช้ความเร็ว ฟิลลิ่งของช่วงล่างออกมาในแบบนุ่มหนึบหนักแน่นตามสไตล์ระบบรองรับของแบรนด์ตราดาว สัมผัสของช่วงล่างออกมาสูสีกับ BMW 320d LCI M Sport แบบกินกันไม่ลงอยู่ที่ความชอบส่วนตัว
BMW X7 xDrive40d M Sport LCI
X7 ใหม่ ประกอบในประเทศไทย ได้รับการออกแบบที่ลงตัวมากขึ้น พร้อมงานการตกแต่งภายในที่มีระดับ แต่ราคาก็สูงขึ้นเช่นกันที่ 6,599,000 บาท ห้องโดยสารของ X7 LCI M Sport คือที่สุดของยานยนต์เอสยูวีตระกูล X พื้นที่ภายในอันกว้างขวางของ X7 นำเสนอความรู้สึกใหม่ของพื้นที่กับเซกเมนต์ที่เน้นความหรูหรา เบาะนั่งสามแถว ช่วยให้คนขับและผู้โดยสารรู้สึกได้ถึงขนาดความกว้าง สภาพแวดล้อมภายในที่ตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับและโดดเด่นพอๆ กับ i7 พื้นผิวแดชบอร์ดกว้าง หุ้มด้วยวัสดุไวนิลอย่างดี โครงสร้างที่สะอาดตาของแดชบอร์ด ช่วยทำให้แผงหน้าปัดและจอกลางที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียวแบบทรงโค้งดูทันสมัย เครื่องเสียงชั้นสูง B&W เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 6 กระบอกสูบ รหัส B57D30 ความจุ 3.0 ลิตร (2,993 ซีซี) ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยระบบ xDRIVE โดยออกแบบให้วางอยู่ในระดับที่ต่ำเพื่อลดค่า CG การลดจุดศูนย์ถ่วงลง รวมถึงการกระจายน้ำหนักที่สมมาตร เพื่อทำให้รถมีการทรงตัวที่ดีขึ้น ระบบอัดอากาศเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ติดตั้งเทอร์โบแปรผันตัวเดียวโดดๆ พร้อมชุดลดอุณหภูมิไอดีอินเตอร์คูลเลอร์ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรงคอมมอนเรลไดเรคอินเจคชั่น หัวฉีดแรงดันสูง Piezo มีแรงดันในระบบ 2,500 บาร์ ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ตัวเลขสมรรถนะของ X7 xDRIVE 40d M Sport เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 243 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เคลมมาจากหน้าโรงงานทำได้ 13 กิโลเมตรต่อลิตร ขับทดสอบจริงออกทางไกล ทั้งในและนอกเมืองทำได้ 8.5-10.2 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าประหยัดใช้ได้เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับขนาดที่ใหญ่โตของตัวถังและน้ำหนักรถที่มากถึง 2.5 ตัน ส่วนอัตราการปล่อย CO2 ทำได้ที่ 197 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เป็นเครื่องดีเซล 6 สูบ ยุคใหม่ที่มีความสะอาดพอใช้
Almera 1.0 รุ่น VL
ราคา 699,000 บาท มีของมาให้ใช้เยอะพอสมควร ภายในของ New Almera ได้รับการออกแบบเพื่อสอดรับกับแดชบอร์ดแบบใหม่และรองรับหน้าจอแสดงผลใหม่ ระบบอินโฟเทนเมนต์ พวงมาลัย และเบาะนั่ง ใหม่หมด เบาะคู่หน้าปรับด้วยมือ มีที่รองต้นขาสั้นไปนิด แต่นั่งแล้วไม่เมื่อย Nissan แจ้งว่าได้เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และเน้นความประณีตในการประกอบ แต่ผ้าบุหลังคาได้เข้ามาทำให้ภายในของมันดูด้อยกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด การลดต้นทุนทำให้วัสดุที่ใช้ต้องถูกหั่นระดับของความหรูหราลงไปพอสมควร แต่รูปแบบของมาตรวัดและจอแสดงผลแบบใหม่ได้เข้ามาช่วยทำให้ภายในดูดีขึ้น เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบตัวจิ๋วจ้อย ความจุ 1.0 ลิตร รหัส HRA0 3 สูบ แบบแถวเรียง DOHC (Double Overhead Camshaft) ปริมาตรความจุ 999 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรงไดเรกอินเจคชั่น กำลังสูงสุด 100 แรงม้า แรงบิด 152 นิวตันเมตร เครื่องยนต์มีแรงม้าและแรงบิดเป็นรองคู่แข่งทั้ง New City 1.0 ลิตร เทอร์โบ และ Mazda 2 รุ่นปรับโฉมที่วางเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร แต่เครื่องยนต์ 3 กระบอกสูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบของ Nissan มีดีตรงที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (16.5 กิโลเมตรต่อลิตร) ระบบส่งกำลังใช้เกียร์ที่ Nissan ถนัดที่สุดนั่นก็คือเกียร์อัตโนมัติแบบสายพานพูเล่ย์ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic เครื่องยนต์ติดตั้งระบบดับและสตาร์ตเครื่องยนต์อัตโนมัติ Auto Start/Stop เป็นรถเล็กที่มีพื้นที่กว้างขวาง ควบคุมได้ง่ายแม้ขับเร็ว
BYD Dolphin Extended range
Dolphin Extended Range ราคา 859,000 บาท ขับเคลื่อนในรูปแบบ FWD (ขับหน้า) มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous ขนาด 150 kW หรือ 203 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเทียม BYD Blade Battery ขนาด 60.4 kWh การชาร์จผ่านไฟ AC, 7 kW จาก 0-100% ใช้เวลา 7 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จผ่านไฟ DC, 60 kW ในรูปแบบ Fast Charging ชาร์จจาก 30-80% ใช้เวลา 30 นาที แบตเต็มเคลมว่าวิ่งได้ไกลถึง 490 กิโลเมตร มากกว่ารุ่น มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchonous Motor วางด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่ BYD Blade (LFP) จ่ายกระแสไฟที่แปลงเป็นพลังงานของมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง ตัวเลขสมรรถนะ อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบตเตอรี่เมื่อชาร์จไฟจนเต็มในวันทดสอบ ทำระยะทางอยู่ที่ประมาณ 450 กิโลเมตร ความคล่องตัวของ Dolphin Extended Range เกิดจากกำลังของมอเตอร์ขับเคลื่อน ส่งผลให้อัตราเร่งดี ตอบสนองเร็ว ปราศจากอาการรอรอบและเหนือชั้นกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร การเร่งแซงที่ฉับไว ช่วงล่างของรุ่น Extended Range นุ่มไปนิด แต่ถ้าเป็นคนทั่วไปจะพอดีและรู้สึกได้ถึงความนุ่มสบาย เหมาะกับการใช้งานในเมืองหรือขับออกทางไกลแบบนั่งกันสบายเนื้อสบายตัวไม่แข็งกระด้าง พวงมาลัยไฟฟ้า ถ้าปลดระบบรักษาช่องทางและดึงกลับ (ADAS) ถือว่าทำออกมาได้สมราคา พวงมาลัยที่ย่านความเร็วสูง มีน้ำหนักที่ให้ความมั่นใจในการขับเร็ว ความแม่นยำสูง ยางจีนเกาะถนนในเกณฑ์มาตรฐาน ใส่หนักๆ อาการไปออกที่ส่วนท้ายซึ่งรับผิดชอบโดยล้อหลัง ภาพรวมของการขับ ปราดเปรียว แรงใช้ได้และไม่ค่อยกินไฟถ้าขับเรื่อยๆ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าไซส์เล็กที่ใช้จากยอดขายที่พุ่งขึ้นมาอยู่ในอันดับที่หนึ่งหลังเปิดตัวในไทยไม่นาน
Audi A4 40TFSi S Line iCon Black
ราคา 2,699,000 บาท ในรูปแบบของการนำเข้า CBU Audi ยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์ภายใต้แบรนด์ของตนเองด้วยคุณภาพการขับซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หายากในปัจจุบัน เครื่องยนต์ของ Audi ยุคใหม่นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของความแรง Audi A4 40 TFSI S-Line วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Audi valvelift system เครื่องยนต์วางตามยาว ขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่อง 4 สูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบผสมผสาน Dual Injection ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง Direct Injection และ Manifold Injection ในแต่ละสูบของเครื่อง 2.0 TFSI ใช้หัวฉีดเชื้อเพลิง 2 หัว ระบบ Dual Injection จะควบรวมการทำงานโดยขึ้นตรงกับโหลดและรอบเครื่องเป็นหลัก โดยมี Direct Injection เป็นหัวฉีดฝั่งแรงดันสูง ใช้เทคโนโลยีล่าสุดของหัวฉีดแบบ Piezo สามารถฉีดจ่ายเชื้อเพลิงได้เร็ว ปลดปล่อยแรงดันสูงสุด 250 บาร์ โดยที่แรงดันในการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงจะแปรผันไปตามโหลดของเครื่องยนต์เป็นหลัก เครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 1984 ซีซี กำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทอร์โบแบบ Twin Scroll อัดอากาศด้วยแรงดัน 0.8 บาร์ น้อยกว่าเทอร์โบของ A4 Avant รุ่น 45 TFSI ที่มีแรงดัน 1.4 บาร์อยู่พอสมควร กลไกของระบบวาล์วแปรผัน Audi valvelift system คอยปรับเปลี่ยนองศาของการเปิดวาล์วได้มากถึง 60 องศา ส่วนวาล์วไอเสียแปรผันได้ 30 องศา ระบบเพลาราวลิ้นของเครื่องยนต์ตัวนี้จะคอยปรับเปลี่ยนองศาของวาล์วไอเสียให้มีความสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์เป็นหลัก โดยปรับระยะของการเปิดวาล์วเพื่อระบายไอเสียออกจากห้องเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ระบบส่งกำลังหรือเกียร์ของ A4 40TFSI เป็นเกียร์ออโต้คลัตช์คู่แบบ 7 สปีด S-Tronic ช่วงล่างหน้าแบบดับเบิ้ลวิชโบนปีกนกคู่ ด้านหลังมัลติลิงก์ เป็นรถสปอร์ตซีดานที่ตอบสนองได้ในแบบที่ควรจะเป็น ที่ความเร็วสูง A4 Facelift 2.0 40TFSI ทรงตัวได้อย่างเฉียบขาด จากช่วงล่างขั้นเทพที่แสดงออกถึงความมาดมั่นและเสถียรภาพของการเข้าโค้ง เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าที่กลบอาการต่างๆ ของรถขับหน้าจนหมดสิ้น จุดนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก
Honda new CR-V e:HEV ES 2WD (5Seats)
ราคา 1,589,000 บาท เครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรง ระบบไฮบริด 2 มอเตอร์ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง ความจุ 1993 ซีซี กำลัง 148 แรงม้า แรงบิด 183 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 335 นิวตันเมตร มีกำลังเพิ่มขึ้น +6.5% จากรุ่นก่อน เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง ฝาสูบ Atkinson แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ระบบฉีดเชื้อเพลิงตรง มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ติดตั้งเคียงข้างกันแทนที่จะอยู่ในแนวเดียวกันกับเพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์ การจัดเรียงใหม่ยังรวมถึงอัตราส่วนการล็อกความเร็วสูงและต่ำใหม่สำหรับเครื่องยนต์ขับตรงบนทางหลวงและในเมือง ช่วยเพิ่มการตอบสนองด้านความรู้สึกในการขับแบบสปอร์ต บวกกับความสบายภายในห้องโดยสาร เบาะคู่หน้าดีมาก ถ้าเทียบฟีลลิ่งของการเข้าโค้ง รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ES e:HEV เป็นรองรถคู่แข่งขับสี่อย่าง Forester รุ่นใหม่ แต่ก็ขับได้สูสีกับ CX-5 ของ Mazda ในด้านการยึดเกาะและถ่ายเทน้ำหนักในโค้ง Honda เคลมอัตราสิ้นเปลืองของรุ่น Hybrid e:HEV เอาไว้ที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อลองขับทดสอบบนเส้นทางกรุงเทพฯ ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางรวม 580 กิโลเมตร ทำอัตราสิ้นเปลืองในย่านความเร็ว 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 17.1 กิโลเมตรต่อลิตร
Lexus RX450h+ premium AWD
ราคาของ RX450h+ Premium AWD อยู่ที่ 5,090,000 บาท เครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ เทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.5 ลิตร กำลัง 275 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนรุ่นไฮบริด RX350h จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์สี่สูบ 2.4 ลิตร ให้กำลัง 246 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ (CVT) แปรผันต่อเนื่อง ถ่ายแรงบิดแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนรุ่นที่แรงสุดอย่าง RX500h F Sport Performance จะปลดล็อกระบบส่งกำลังให้มีศักยภาพในการทำความเร็วมากขึ้น ด้วยเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง เทอร์โบชาร์จ 2.4 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ผนวกเข้าด้วยกันในระบบส่งกำลัง เพื่อสร้างเรี่ยวแรง 367 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ Direct4 ของ Lexus ส่งกำลังนั้นไปยังล้อทั้งสี่ RX500h F Sport Performance เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.8 วินาที และไม่มีขายในประเทศไทย ส่วนรถทดสอบ RX450h+ Premium รุ่นปลั๊กอินไฮบริด ที่จำหน่ายในไทย มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว หนึ่งตัวอยู่บนเพลาขับหลัง พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นระบบส่งกำลังแบบเดียวกับที่ประจำการอยู่ใน Toyota RAV4 Prime และ Lexus NX450h+ แต่เพิ่มกำลังขึ้นมาอีก 2 แรงม้า ทำให้ RX450h+ มีกำลังรวม 304 ม้า ช่วงล่างหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ด้านหลังมัลติลิงค์ พร้อมการเซตอัพช่วงล่างที่เน้นความนุ่มนวลเป็นพิเศษ ผนวกการเก็บเสียงที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นใบปัดน้ำฝนหรือกระจกไฟฟ้าก็ยังทำงานได้อย่างเงียบเชียบ เป็นครอสโอเวอร์คันโตที่เน้นความหรูหราพอๆ กับ RX รุ่นที่แล้ว ทั้งหมดทั้งปวง เพื่อสร้างความพอใจให้กับลูกค้าประจำที่เบื่อการดูแลหลังการขายของแบรนด์เยอรมันบางศูนย์
Ford Ranger Stormtrak
มันคือ Ranger ใหม่ รถกระบะที่ขายดีที่สุดในสหราชอาณาจักร และยุโรป สำหรับประเทศไทย Ranger ทำตัวเลขยอดขายในกลุ่มรถกระบะตามหลัง D-MAX ของ Isuzu และ Hilux REVO ของ Toyota อยู่พอสมควร แต่ก็ถือว่าเป็นรถปิกอัพใช้งานที่ได้รับความนิยมอยู่ในเกณฑ์ดี และขับได้ดีสูสีกับ Raptor 2.0L
Ford Ranger Stormtrak มีดีมากกว่าของแต่งเสริมความหล่อ ภายใต้ตัวถังใหม่คือแชสซีที่ได้รับการอัปเกรด ระยะฐานล้อยาวขึ้น 50 มิลลิเมตร และความกว้างของแทร็กกว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับ Ranger รุ่นก่อน ซึ่งหมายถึงการขับขี่ การควบคุมรถ และพื้นที่ใช้สอยภายในดีขึ้น Ranger Stormtrak วางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 210 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร สำหรับการลากจูงของหนัก หรือเอาตัวรอดบนทางออฟโรดสุดขั้วนั้น เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร ดูเหมาะสม อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงทำได้เฉลี่ยที่ 10.9 กิโลเมตรต่อลิตร เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทั้งหมดนี้มีไว้เพื่อต่อกรกับ Hilux REVO GR Sport โดยธรรมชาติแล้ว Stormtrak มีความสามารถอย่างมากบนถนน โหมดขับเคลื่อนสองและสี่ล้อที่สามารถเลือกได้ตามปกติ พร้อมโหมดขับเคลื่อนทั้งทางเรียบ ทางทราย ผิวถนนที่เสี่ยงต่อการลื่นไถล หรือการขับบนเส้นทางออฟโรด เป็นปิกอัพที่ขับสนุก เหมาะสมกับผิวถนนที่หลากหลายในประเทศไทย ฝนตกน้ำท่วมก็ใช้งานได้อย่างมั่นใจมากกว่ารถเก๋ง กินน้ำมันเฉลี่ย 10.8 กิโลเมตรต่อลิตร ทั้งในและนอกเมือง เมื่อฝนตกก็ปรับมาที่โหมด 4x4 ใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Stormtrak เกาะถนนใช้ได้บนผิวถนนที่เปียกชื้น ลุยน้ำได้ถึง 80 เซนติเมตร ซึ่งรถทั่วไปคงจอดตายกันหมด ราคา 1,264,000 บาท สมรรถนะโดยรวมสูสีกับ Hilux REVO GR Sport แต่ขับมันกว่านิดๆ ละครับ!
BYD Seal AWD Performance
BYD SEAL AWD PERFORMANCE แบตเตอรี่ 82.0 kWh สีตัวถัง ขาว, ดำ, เทา, ฟ้า รุ่นท็อปสุดของแมวทะเล แบตเตอรี่ 82.0 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ประจำการด้วยมอเตอร์สองตัว วางคร่อมเพลาหน้า-หลัง สร้างกำลังได้มากถึง 530 แรงม้า แรงบิดจากมอเตอร์คู่ ไม่ต้องสืบเพราะแรงโคตร ทำได้ 670 นิวตันเมตร นั่นมันเป็นแรงบิดมโหฬารระดับเดียวกับรถสันดาปภายในอย่าง BMW M4 G82 เลยทีเดียว BYD เคลมการทำระยะทางด้วยแบตที่มีไฟเต็มของ Seal AWD Performance เอาไว้ที่ 580 กิโลเมตร เมื่อลองเอามาขับทดสอบใช้งานจริงจัง จากกรุงเทพฯ ไปยังเขาใหญ่ ก็ค่อนข้างกินกระแสไฟ เพราะใช้ความเร็วสูงต่อเนื่องทั้งไปและกลับ ใช้งานจริงจังมีขับเร็ว วิ่งได้ไกล 470 กิโลเมตร หรืออาจน้อยกว่านั้น เมื่อแบตฯ มีไฟเต็ม Seal AWD Performanc จะวิ่งได้ระยะทางประมาณ 460-480 กิโลเมตร หรือน้อยกว่านั้นหากคนขับท้ารบไปตลอดทาง (เร่งแซงสุดติ่งกระดิ่งเหมียวมากๆ) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลมมา 3.8 วินาที ลองจริงทำได้ 4.3 วินาที ราคาของรุ่นท็อปสุด AWD Performance 1,599,000 บาท