Crossover และ SUV กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทำตัวเลขยอดขายแซงหน้ารถซีดาน หรือแฮตช์แบ็กแบบทิ้งห่าง กระแสความร้อนแรงจากความต้องการรถยนต์แนวอเนกประสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เกือบทุกแบรนด์หันเหแนวทางการสร้างรถ โดยให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษกับการพัฒนารถแนวอเนกประสงค์ หลังจากออกขายมานาน Mazda CX-3 ที่มีกระแสตอบรับดีมาโดยตลอด ทำให้ผู้บริหารของ Mazda Sales Thailand ต้องเร่งทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยครอสโอเวอร์สายพันธุ์ Skyactiv เป็นการสานต่อความสำเร็จด้านยอดขาย และความตั้งใจในการสร้างรถที่สามารถแข่งขันกับรถครอสโอเวอร์ของคู่แข่ง ด้วยรถที่มีประสิทธิภาพดีอย่าง Mazda CX-3 รุ่นปรับโฉม ยานครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัดรุ่นแรก และรุ่นเดียวของ Mazda ที่แชร์ชิ้นส่วนร่วมกับ Mazda 2
...
นานมาแล้วที่เทคโนโลยี Skyactiv กลายเป็นหัวใจหลักในการนำเสนอของ Mazda เป็นเทคโนโลยีจาก Mazda ซึ่งครอบคลุมระบบส่งกำลัง ช่วงล่าง และเสถียรภาพการทรงตัวเป็นจุดขายในการนำเสนอ จากโครงสร้างตัวถัง แชสซี เปลือกตัวถัง เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ระบบความปลอดภัย ปรัชญางานออกแบบ KODO Design Soul of Motion รถจากแบรนด์ Zoom Zoom ทุกคัน นอกจากความสนุกหลังพวงมาลัยแล้ว ยังมีรูปลักษณ์ที่สอดคล้องกันทุกโมเดล ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า กระจังหน้า ทรงของตัวถังด้านข้างที่พลิ้วไหวไหลลื่น งานตกแต่งภายในที่สวยงาม หลอมรวมขึ้นจนเป็นรถยนต์ที่มีความน่าใช้งาน แตกต่างไปจากรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นทั่วๆ ไป
...
...
Mazda CX-3 จัดอยู่ในกลุ่ม Crossover ไซส์เล็กกะทัดรัดด้วยการแชร์แพลตฟอร์มร่วมกับ Mazda 2 ขนาดที่เล็กกว่า Mazda CX-30 ออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวในเขตเมือง แต่ก็มีความสามารถในการวิ่งระยะไกลได้ดี การเปลี่ยนแปลงของ Mazda CX-3 กระจังหน้า Signature Wing สะท้อนสไตล์ และแนวทางของการดีไซน์จากรุ่นสู่รุ่น เห็นว่ากระจังหน้าแบบนี้ถูกนำมาใช้กับรถยนต์ทุกโมเดล ในรุ่นปรับโฉม 2023 Sport Luxe มีการปรับเปลี่ยนกระจังจากโครเมี่ยมไปเป็นสีดำเงา นอกจากเปลือกตัวถังที่สวยงามแล้ว ภายในห้องโดยสารของ CX-3 ยังมีการเพิ่มเติมความน่าใช้งานด้วยการออกแบบคอนโซล เบาะ และปรับวัสดุหุ้มเบาะ และรูปแบบของพลาสติกที่ใช้สำหรับงานตกแต่งภายในให้หรูหรามากกว่าเดิม ยกระดับคุณภาพของงานประกอบจนเกือบจะเทียบชั้นกับรถยุโรปราคาแพง การปรับปรุงห้องโดยสารด้วยการนำเอาห้องโดยสารของ Mazda 2 มาปรับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเพิ่มความลงตัวสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
รุ่นและราคา Mazda CX-3 2023
2.0 Base 770,000 บาท
2.0 Base + 830,000 บาท
2.0 Comfort 900,000 บาท
2.0 Sport Luxe 970,000 บาท
การปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกของ Mazda CX-3 Sport Luxe ราคา 970,000 บาท
เสา A และหลังคาสีดำเงา
กระจังหน้าสีดำเงา
คิ้วซุ้มล้อสีดำเงา
หลังคาซันรูฟ
ล้ออัลลอยลายใหม่ ขอบ 18 นิ้ว
สีตัวถัง 7 สี
สีใหม่ เทา แอโรเกรย์
สีแดง โซลเรด คริสตัล
สีเทา แมชชีน เกรย์
สีเทา โพลิเมทัล เกรย์
สีดำ เจ็ท แบล็ก
สีบรอนซ์ แพลตตินัม ควอร์ต
...
มิติตัวรถของ Mazda CX-3 มีความกว้าง 1,766 มิลลิเมตร ยาว 4,275 มิลลิเมตร และสูงแบบครอสโอเวอร์ที่ 1,535 มิลลิเมตร ตัวเลขดังกล่าวจะเห็นได้ว่า CX-3 ถูกปรับยืดให้มีสัดส่วนของตัวถังกว้างและสูงกว่า Mazda 2 อยู่พอสมควร ระยะห่างฐานล้อหน้า-หลัง 2,570 มิลลิเมตร น้อยกว่า CX-5 ผู้พี่อยู่ถึง 130 มิลลิเมตร ระยะห่างระหว่างใต้ท้องรถถึงพื้น 155 มิลลิเมตร ช่วยให้การลุยเล็กๆ พอหอมปากหอมคอเหนือกว่ารถเก๋งเล็กทั่วไป โอเวอร์แฮงก์ที่สั้นกระชับยังทำให้การควบคุมมีความคล่องตัวไม่แตกต่างไปจาก Mazda 2 พื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มเข้ามามากกว่ารถเล็กในค่ายด้วยปริมาตรความจุ 350 ลิตร บนรูปแบบการใส่สัมภาระที่ยังไม่มีการพับเบาะหลัง และเมื่อพับเบาะผู้โดยสารตอนหลังลงราบกับพื้น จะมีพื้นที่ในการขนของมากถึง 1,260 ลิตร มากพอที่จะยัดจักรยาน และกระเป๋าเดินทางได้อย่างสบายๆ ล้ออัลลอยลายใหม่ ขอบ 18 นิ้ว สีเงินสลับสีดำ ห่อรัดด้วยยางนุ่มเงียบ Toyo Proxes R52A ไซส์ 215/50R18
เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV - G 2.0 ลิตร กำลัง 156 แรงม้า กับแรงบิด 204 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า FWD เทคโนโลยีโครงสร้างของตัวรถจากนวัตกรรม SKYACTIV Body โครงสร้าง แข็งแกร่งน้ำหนักเบา มีการตัดโครงสร้างส่วนเกินออกเพื่อลดน้ำหนัก โดยโครงสร้างหลักแต่ละส่วนจะทำหน้าที่รับแรงในจุดที่มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะจุดที่จะต้องกระจายแรงหากเกิดอุบัติเหตุ โครงสร้างท่อนหน้าและหลังได้รับการออกแบบให้ยุบตัวได้เพื่อคงรูปของห้องโดยสารเอาไว้ให้มากที่สุดเมื่อเกิดการชนปะทะ SKYACTIV Body ใน CX-3 ใช้โครงรถแบบวงแหวนเพื่อคงรูปของห้องโดยสารเมื่อมีแรงเข้ามากระทำ โดยโครงตัวถังแบบวงแหวนจะช่วยซับแรงกระแทก แล้วกระจายแรงไปยังส่วนอื่น CX-3 มีโครงสร้างแบบโมโนค็อก 60% ของโครงรถใช้โลหะเหล็กแบบ High-strength Steels รับแรงได้สูงถึง 440 MPa เสาหน้า หรือเสา A โครงหลังคากับเฟรมที่ยึดติดกับเสากลางถูกออกแบบให้รองรับกับแรงกระแทก 1,180 MPa ขณะเดียวกัน คานหน้าของ CX-3 ก็ยังรับแรงได้มากถึง 1,800 MPa
ห้องโดยสารของ Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe ราคา 970,000 บาท เน้นความเรียบง่ายสวยงาม แต่ใช้งานได้จริง และมีอุปกรณ์เสริมเพิ่มเข้ามาอีกเพียบ ไล่เรียงตั้งแต่เบาะแบบสปอร์ตที่โอบกระชับปรับเปลี่ยนวัสดุหุ้มใหม่ทั้งหนังกลับไมโครไฟเบอร์ เบาะคนขับปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำสองตำแหน่ง เบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับมือ สัดส่วนของผู้ขับบริเวณด้านข้างของตัวเบาะที่บีบกระชับล็อกตัวไม่ให้หลุดออกจากเบาะเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็ว เบาะหนังแท้สีดำเดินขอบด้วยสีเทา ความน่าใช้งานของอุปกรณ์ภายใน เกิดจากความตั้งใจในการคัดเลือกวัสดุเข้ามาตกแต่ง คอนโซลเรียบง่าย ช่องแอร์ทรงกลมที่สวยงามล้อมกรอบช่องแอร์ด้วยพลาสติกสีน้ำตาล จอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว และจอภาพสะท้อนแจ้งตัวเลขความเร็ว Hand Up Display มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ และความเร็วยังคงรูปแบบเดิมที่ดูดีอยู่แล้ว
การแชร์ชิ้นส่วนภายในร่วมกับ Mazda 2 เพื่อลดต้นทุน แดชบอร์ด คอนโซล ช่องแอร์ งานพลาสติกและหนัง ยังสื่อให้เห็นถึงความตั้งใจในการออกแบบ ใส่ใจในรายละเอียดแบบลงลึก เบาะโดยสารตัดเย็บอย่างประณีต เบาะหนังของรุ่นท็อปยังมีการแยกใช้วัสดุหนังสองแบบเพื่อเพิ่มเติมความหรูหราให้กับห้องโดยสาร พวงมาลัยแบบสามก้าน พร้อมสวิตช์ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ หุ้มด้วยหนังแท้พร้อมรอบวงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ขนาดของพวงมาลัยนั้นไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป Sport Luxe รุ่นสูงสุดของ Mazda CX-3 SkyActiv-G 2.0. มีพวงมาลัยแบบสปอร์ตติดตั้งแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีอุปกรณ์ช่วยขับที่มีความครบและใช้งานได้จริง พวงมาลัยยังมีสวิตช์รับ หรือวางโทรศัพท์ไร้สาย ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control ซุ้มเกียร์ล้อมกรอบด้วยงานพลาสติกสีเงิน ส่วนคันเกียร์หุ้มด้วยหนังแท้ พร้อมหัวเกียร์แบบครึ่งหนังครึ่งโลหะสีเงิน เกียร์ของ Mazda CX-3 เป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ สามารถตบคันเกียร์ไปที่ด้านขวาสำหรับการชิฟเกียร์ด้วยตัวเองผ่านการโยกคันเกียร์ หรือกดเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่แป้น Paddle Shift ถัดจากงานซุ้มเกียร์ที่ลงตัว เป็นที่อยู่ของสวิตช์ควบคุมจอภาพแสดงผล ซึ่งใช้ควบคุมปรับตั้งค่าต่างๆ ของตัวรถ รวมถึงปุ่มควบคุมระดับเสียงของลำโพง Bose ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพงคุณภาพสูง 7 ตำแหน่ง สวิตช์ควบคุมอุณหภูมิแบบสามปุ่มหมุน ออกแบบให้ใช้งานง่าย ด้วยรูปแบบกับผิวสัมผัสที่ดี สวิตช์ปรับอุณหภูมิทรงกลมสามวง เข้ากับแผงคอนโซลจากงานดีไซน์ที่ลงตัว
เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ปริมาตรความจุ 1,998 ซีซี แบบแถวเรียงสี่กระบอกสูบ 16 วาล์ว พร้อมกลไกวาล์วแปรผัน ใช้อัตราส่วนกำลังอัดสูงมากถึง 14.0:1 ขับเคลื่อนล้อหน้า มีกำลังในรูปแรงม้าสูงสุดที่ 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที กับแรงบิด 204 นิวตันเมตร ที่ 2,800 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยในและนอกเมืองแบบผสมทำได้ที่ 12.1 กิโลเมตรต่อลิตร ค่าการปล่อย Co2 ที่ 137 กรัม ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร มาตรฐานมลพิษ EURO -5 เกียร์อัตโนมัติ Skyactiv Drive 6 สปีด ช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม ดิสเบรกสี่ล้อ จานดิสเบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน รุ่นปรับโฉมของ CX-3 ฝาครอบเครื่องยนต์ถูกเอาออกไปเรียบร้อย
ลองขับทางไกลจากกรุงเทพมหานครไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านหมูสี ทรอสคาน่า ไปจนถึงชายขอบของอำเภอวังน้ำเขียว ระบบส่งกำลังหรือเกียร์ถือเป็นหัวใจหลักในการถ่ายเทแรงบิดลงไปยังเพลาขับเคลื่อน เกียร์ที่ใช้ใน Mazda CX-3 จากเทคโนโลยี SKYACTIV Drive ของ Mazda ด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด มีการนำเอาจุดเด่นของเกียร์อัตโนมัติแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์มาปรับปรุง เพื่อทำให้เกียร์มีการตัดต่อที่นุ่มนวล กระชับและไหลลื่นว่องไวเทียบเคียงกับเกียร์อัตโนมัติแบบทวินคลัตช์ และความนวลในการเปลี่ยนเกียร์คล้ายกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ชุดเกียร์ออโต้ 6 สปีด ทำงานเชื่อมต่อกับระบบประหยัดพลังงาน i-ELOOP ระบบจะดับเครื่องยนต์เมื่อจอดรอสัญญาณไฟ และสั่งให้เครื่องยนต์สตาร์ตอย่างรวดเร็วอีกครั้งใน 0.35 วินาที ในเครื่อง SKYACTIV-G ระบบ i-ELOOP หรือ Auto-start/stop แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปที่มีและใช้ระบบนี้ ตัวคาปาซิเตอร์ถูกติดตั้งอยู่ในเครื่องเป็นอุปกรณ์เสริมการทำงานของแบตเตอรี่ในการเก็บกระแสไฟฟ้าและป้อนกระแสไฟฟ้าให้กับระบบไฟทั้งหมดของตัวรถเมื่อ i-ELOOP ทำงาน การกักเก็บกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นในขั้นตอนของการเบรก ชะลอความเร็วโดยชุดไดชาร์จจะผลิตกระแสไฟป้อนกลับคืนสู่ระบบเฉพาะสภาพการขับขี่แบบในเมือง ส่วนสภาพการขับขี่ปกติ ไดชาร์จจะลดการทำงานลงเพื่อลดภารกรรมให้กับเครื่องยนต์ i-ELOOP ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง
นอกจาก Mazda CX-30 ซึ่งมีความแจ่มจรัสด้านการจากปากต่อปากของลูกค้าแล้ว CX-3 คืออีกหนึ่งช่องทางสำหรับวัยรุ่นที่ชอบรถสวยมีสไตล์ Mazda เป็นแบรนด์ที่มีความคาดหวังสูง ความคาดหวังของคนใน Mazda ส่งผลไปถึงการสร้างรถยนต์ให้ออกมาเหนือกว่าคู่แข่งโดยเฉพาะไดนามิกที่ชัดเจน การหยิบเงินจำนวน 9.7 แสนบาท ออกจากกระเป๋าของลูกค้าที่ยอมควัก เพื่อแลกกับครอสโอเวอร์คันเล็กรุ่นท็อปอย่าง CX-3 2.0 Sport Luxe เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ Mazda ทำออกมาได้ดี ในตลาดโลก เป้าหมายใหญ่ที่ Mazda เล็งเอาไว้ นอกจากการต่อสู้กับรถอเนกประสงค์ไซส์เล็กของเพื่อนร่วมสัญญชาติแล้ว การขับขี่ใช้งานของมันยังขึ้นไปเทียบชั้นกับรถครอสโอเวอร์ราคาแพงจากฝั่งยุโรปอีกด้วย
รุ่นท็อป 2.0 Sport Luxe มีอุปกรณ์ที่จัดมาให้เพียบพร้อมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น ระบบควบคุมไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ High Beam Control (HBC) ระบบตรวจจับรถในจุดบอด Blind Spot Monitoring System (BSMS) ระบบแจ้งเตือนให้อยู่ในช่องจราจร Lane Departure Warning (LDW) ระบบตรวจจับรถขณะออกจากช่องจอด Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ระบบเตือนการชนด้านหน้า และชะลอความเร็ว Smart City Brake Support (SCBS) ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย) กล้องมองภาพรอบคันขณะถอยจอด เซนเซอร์กะระยะถอยหลัง 4 จุด
ตำแหน่งท่านั่งของ CX-3 อยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม เป็นการจัดวางตำแหน่งที่ลงตัว ทั้งมุมมองรอบคัน การใช้งานปุ่ม สวิตช์ คันเกียร์ การจับพวงมาลัย เบาะคนขับที่ปรับด้วยไฟฟ้าเข้ามาแทนที่เบาะแบบเดิมที่ปรับด้วยมือ แม้จะมีความกว้างของตัวถังไม่มากแค่ 1,799 มิลลิเมตร แต่พื้นที่ใช้สอยโซนหน้าและพื้นที่เบาะหลังมีมาให้อย่างพอเพียง เบาะหุ้มด้วยหนังสองรูปแบบนั่งได้อย่างสบาย จอภาพมอนิเตอร์กลาง 7 นิ้ว เล็กไปนิด แต่ก็พอที่จะใช้งานได้ ส่วนกล้องมองรอบคันของรุ่น Sport Luxe ยังมีความคมชัดเป็นรองกล้องของรถคู่แข่งที่ผลิตในประเทศจีน ด้วยท่านั่งที่ดีที่สุดในกลุ่มครอสโอเวอร์เล็ก ส่งผลให้การมองและการควบคุมทิศทางมีความง่ายและสะดวกสบาย เป็นอีกจุดที่ทำได้ดี
ระบบรองรับ หรือช่วงล่างอันเป็นหัวใจของรถ Mazda SKYACTIV Chassis มีการปรับการจัดวางรูปทรงทรงเรขาคณิต ลดน้ำหนักใต้สปริง ออกแบบให้ช่วงล่างยุบ หรือเต้นช้าลง ส่งผลไปถึงการควบคุมกับการนั่งที่สบายตัว แขนยึดทั้งหมดของช่วงล่างไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท หรือทอร์ชั่นบีมในส่วนของช่วงล่างหลัง แขนยึดทั้งหมดจะรักษาการตั้งฉากของหน้ายางกับผิวถนนให้มากที่สุดไม่ว่าล้อจะเต้นขึ้นลง ชุดบังคับเลี้ยวของ Mazda ในปัจจุบันคืองานวิศวกรรมที่ก้าวไกลในการบังคับควบคุมที่ให้ความรู้สึกแท้จริงของการสื่อสารระหว่างตัวรถและคนขับ พวงมาลัยไฟฟ้าแบบมีมอเตอร์ที่ปลายของแรคพวงมาลัย มอเตอร์จะแปรผันไปตามความเร็วของตัวรถ เมื่อขับเร็วขึ้นมอเตอร์จะทำงานน้อยลงจนน้ำหนักของพวงมาลัยในย่านความเร็วสูงส่งถ่ายความมั่นคงให้กับผู้ขับขี่ พวงมาลัย EPSA-Electric Power Steering Assist ของ Mazda ผ่านนวัตกรรม SKYACTIV Chassis ทำให้ Mazda CX-3 มีความฉลาดกว่าพวงมาลัยไฟฟ้าแบบอื่น ซึ่งให้น้ำหนักที่เบาหวิวตั้งแต่เริ่มออกตัวไปจนถึงความเร็วสูง จนออกอาการไร้สัมผัสที่ดีในการตอบสนอง โดยเฉพาะการขับเร็ว ระบบรักษาเสถียรภาพ G vectoring control ทำให้การเข้าโค้งมีอาการโคลงตัวลดลง
พวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันน้ำหนักไปตามความเร็วของ CX-3 คือแรคพวงมาลัยแบบเดียวกับ Mazda 2 มันมีให้คุณทั้งความแม่นยำเที่ยงตรง (ซึ่งรถทั่วไปควรจะมี) กระชับและว่องไว หักพวงมาลัยไปทางไหนก็ไปทางนั้นทันที ในย่านความเร็วต่ำซอฟต์แวร์ควบคุมปรับการทำงานให้น้ำหนักของชุดบังคับเลี้ยวไฟฟ้าเบาสบายมือ ขับเร็วขึ้นน้ำหนักพวงมาลัยแปรผันหน่วงเพิ่มขึ้นเพื่อความมั่นคงในย่านความเร็วสูง ส่งความเร็วไปถึง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พวงมาลัยและช่วงล่างกับยางสอดประสานทำหน้าที่ได้ดี ทำให้พอขับเร็วแล้วไม่เสียวสันหลัง พวงมาลัยไฟฟ้าของ Mazda ที่ปรับแต่งมาดี ทำให้การควบคุมเมื่อขับเร็วช่วยสร้างความมั่นใจได้ดี พวงมาลัยนิ่งไม่ไวจนเหวอ ความมั่นคงของระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทหน้ากับทอร์ชันบีมหลังเชื่อมโยงกับการทำงานของชุดบังคับเลี้ยวได้ดี เมื่อจับมาเข้าคู่กับยาง TOYO รุ่น PROXES ไซส์ 215/50/18 ถือว่าเป็นรถเล็กที่เกาะถนนดีอยู่ในอันดับต้นๆ ของกลุ่มครอสโอเวอร์ไซส์เล็กเลยทีเดียว สำหรับการเก็บเสียง กระแสลมที่ปะทะกับตัวถังทำให้มีเสียงลมลอดเข้ามาให้ได้ยิน เมื่อความเร็วทะยานผ่าน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ยาง Toyo นั้นมีเสียงการทำงานต่ำ เลยได้ยินแค่เสียงลมในย่านความเร็วสูงเท่านั้น
ทั้งไปและกลับจากเขาใหญ่แถบชายขอบวังน้ำเขียว Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe ทำอัตราสิ้นเปลือง (ขับค่อนข้างเร็ว) ที่ 12.1 กิโลเมตรต่อลิตร อุปกรณ์ต่างๆ ใช้งานได้ดี โดยเฉพาะสีตัวถังใหม่ที่มีให้เลือกถึง 6 สี อุปกรณ์ตกแต่งภายนอกทำให้ Sport Luxe สวยงามน่าใช้ เป็นแมว 9 ชีวิตที่ยังคงยืนหยัดต่อสู้กับรถยนต์รุ่นใหม่ของคู่แข่งอย่าง Yaris Cross / WR-V/ MG ZS / Kicks โดยมีการยึดเกาะ และความสนุกหลังพวงมาลัยที่ติดตัวมาตั้งแต่ออกขายเมื่อ 9 ปีก่อน.
ระบบความปลอดภัย
ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM
ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงเบนออกนอกช่องทาง LDWS
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะขับถอยหลัง SCBS-R
ระบบเตือนเมื่อคนขับเกิดอาการเมื่อยล้าจากการขับทางไกล DAA
ระบบยก หรือลดไฟสูงอัตโนมัติ HBC
ระบบเตือนการชนด้านหน้า และช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance SCBS
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Stop&Go MRCC with Stop&Go