Audi S3 Sportback Quattro ค่าตัว 3,550,000 บาท แพงกว่า BMW 330e M Sport 601,000 บาท แพงกว่า Mercedes-Benz C350e AMG Dynamic 200,000 บาท แต่ถูกกว่า Lexus IS300h F Sport 340,000 บาท เนื่องจากคู่ต่อสู้เหล่านั้นไม่มีรถ Hatchback ที่เข้ามาขายในไทย ทำให้ Audi S3 และ RS3 กลายเป็นรถยนต์ที่มีความเป็นเอกเทศ เป็นรถเล็กจากยุโรปที่สวยงามขับได้ดีและทรงพลัง น่าเสียดายที่คนไทยส่วนใหญ่ยังคงยึดติดกับรถยนต์ Luxury ตัวถังซีดานสี่ประตู ส่วนท้ายที่สวยงามของ Audi S3 Sportback Quattro กับฟีลลิ่งดุดันเวลากระแทกคันเร่ง อาจทำให้ลูกค้าของ BMW และ Mercedes-Benz หันกลับมามองได้บ้างไม่มากก็น้อย 

...

...

ระบบรองรับและชุดล้อ+ยางสปอร์ตที่แข็งแกร่ง ยาง Bridgestone Potenza S005 ไซส์ 235/35 R19 91Y สำหรับคนที่ชอบประสิทธิภาพการยึดเกาะและการส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่แล้วถ่ายลงผิวถนน ลองเปลี่ยนจากรถบ้านเป็นรถสปอร์ตผ่าน Audi S Model ที่มีโหมดขับเคลื่อนให้เลือก 5 รูปแบบ สมรรถนะที่สูงขึ้นของ S3 Sportback คือการปรับแต่งตามความต้องการของนักขับ Audi A3 นั้น เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา สำหรับรถรุ่นใหม่ล่าสุด รหัส S มีระบบส่งกำลังที่พร้อมสำหรับการทำความเร็วและช่วงล่างที่ให้อารมณ์รถซิ่ง (กระเด้งบ้างเมื่อผิวถนนไม่เรียบ) แผนก Audi Sport ใส่ใจในรายละเอียดที่แม่นยำของชุดส่งกำลัง งานประกอบภายนอกภายใน การใช้งานในชีวิตประจำวัน เทคโนโลยีที่ผสานรวมอย่างลื่นไหลพร้อมระบบความปลอดภัย (ที่โดนหั่นฟังก์ชันบางอย่างเพื่อทำราคา) ทำให้ S3 Sportback มีความโดดเด่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์แฮตช์แบคไซส์กะทัดรัด ประสิทธิภาพและความสามารถในการจัดการในโค้ง ทำให้ S3 โมเดลใหม่เป็นรถเล็กที่น่าหลงใหลอย่างแท้จริง

...

...

S3 รุ่นใหม่ นำเข้าโดย Audi Thailand มีเฉพาะตัวถัง Sportback 5 ประตู ส่วนซีดาน 4 ประตูนั้นถูกสงวนเอาไว้ให้ A4 ซีดานได้สำแดงฤทธิ์เดชแต่เพียงรุ่นเดียว S3 มีดีไซน์ที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการออกแบบที่เชื่อมโยงกับแข็งแกร่งได้อย่างน่าประทับใจ ส่วนหน้าของรถถูกครอบด้วยกระจัง Singleframe กระจังหน้าลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนขนาดใหญ่ ช่องดักอากาศสำหรับนำกระแสลมเข้าไประบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ ไฟหน้า LED พร้อมระบบยกหรือลดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟหรี่กลางวัน LED Day Time Running Light ประกอบด้วยพิกเซลอาร์เรย์ในส่วนของหลอด LED 15 ชิ้น มีสิบชิ้นประกอบกันเป็นเส้นแนวตั้งสองเส้น เส้นด้านข้างตัวถังที่เด่นชัด ลากยาวตั้งแต่ขอบของไฟหน้าไปจนถึงไฟท้าย ส่วนล่างของบอดี้โค้งเข้าหาด้านใน โป่งซุ้มล้อที่ลงตัว เป็นองค์ประกอบใหม่ของการออกแบบที่ Audi Sport ให้ความสำคัญกับการดีไซน์ซุ้มล้อ กระจกมองข้างสีดำสไตล์ Black Edition การเป็นหนึ่งในสมาชิกของ S3 Series ทำให้มันเตี้ยกว่า A3 รุ่นมาตรฐาน เนื่องจากความเตี้ยนั้น มีอยู่ในรถ Audi รุ่นสมรรถนะสูงที่มีอายุย้อนกลับไปหลายทศวรรษ การลดความสูงเพื่อปรับให้เกิดความกระชับและลดอาการโคลงตัว ด้านหลังมีดิฟฟิวเซอร์ที่ติดเอาไว้เท่ๆ จุดที่ทำให้ S3 ดูจริงจังมากกว่าเดิมก็คือ ปลายท่อไอเสียทรงกลมสี่ท่อ (ฝั่งละสองท่อ) เป็นเครื่องหมายการค้าของ Audi Sport ระบบท่อระบายไอเสียของ S3 ส่งเสียงคำรามและเสียงระเบิดปะทุได้อย่างเร้าใจ 

เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงสี่กระบอกสูบ ความจุ 2.0 ลิตร 1,984 ซีซี. พร้อมระบบเชื้อเพลิง TFSI กำลังสูงสุด 290 แรงม้า แปลกใจว่าสเปกนอกของ S3 ใหม่นั้นมีกำลังมากถึง 310 แรงม้า แต่พอเข้าไทย แรงม้าถูกหั่นออกไปเหลือแค่ 290 ตัว เนื่องจากต้องทำตัวเลขไม่ให้ม้าล้นจนโดนภาษีหนักกว่าเดิม แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร เป็นแรงฉุดลากที่เหมาะสมกับการเร่งความเร็วในรอบกลางๆ ไปจนถึงรอบสูงสุด เครื่องยนต์ให้ประสิทธิภาพในด้านอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ไม่แรงมากจนทำให้ควบคุมลำบากและอาจเกิดอันตรายจากความแรงที่ล้นเกินไป S3 มีย่านของกำลังพอดิบพอดีกับขนาดและน้ำหนักคล้ายกับ Mercedes-AMG GLA35 4Matic ความพอดีทำให้เกิดความสนุกและไม่ต้องใช้ฝีไม้ลายมือในการปราบพยศมากนัก อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5 วินาที สำหรับการไต่ขึ้นสู่ความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่มีถนนที่กว้างและโล่งมากพอที่จะบรรลุสู่ความเร็วสูงสุด ตัวเลขการปล่อย CO2 178 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร ถือว่าสะอาดกว่าเครื่องยนต์ดีเซล 2 ลิตร อย่างเห็นได้ชัด 

2.0 TFSI ของ Audi S3 ยังมาพร้อมคุณสมบัติไฮเทค เช่น Audi valvelift system (AVS) ปรับการยกของวาล์วไอดีตามต้องการ (สั่งงานโดยซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่) เพื่อให้แน่ใจว่ามีการฉีดเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ที่เหมาะสม มาตรการจัดการกับระบบระบายความร้อน สร้างสมดุลของการส่งกำลังที่มีศักยภาพ ผสมผสานระหว่างความสนุกและประสิทธิภาพ ระบบเกียร์ S tronic 7 สปีด เกียร์อัตโนมัติสองบุคลิกที่ให้อารมณ์หลากหลายในการทำงาน ให้มาครบทั้งเกียร์ D เกียร์ S (Sport) และเกียร์ M (Manual) การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว พร้อมเสียงพรึบที่ท่อระบายท้ายทำให้รู้สึกสนุก ฟังก์ชันการบังคับเลี้ยวไฟฟ้าแบบอิสระที่คำนึงถึงความแม่นยำขณะเปลี่ยนทิศทาง พวงมาลัยไฟฟ้าอัตราทดแปรผัน ให้สัมผัสที่ดีในทุกย่านความเร็วโดยเฉพาะการขับในย่านความเร็วต่ำกับน้ำหนักที่เบาสบายข้อมือ 

เครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร TFSI ดึงความแข็งแกร่งออกจากเส้นขนาน การควบคุมในจังหวะพุ่งออกตัวมีความเรียบง่ายและสม่ำเสมอ ท่อระบายท้ายเมื่อวาว์ลเปิดออกจนสุดในโหมด Dynamic ให้ซุ่มเสียงที่เร้าใจ การยึดเกาะที่สมบูรณ์แบบบนเส้นทางภูเขา การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วให้อารมณ์เกียร์คลัตช์คู่อย่างโจ่งแจ้งทั้งแรงกระชากและเสียงการทำงานของกลไกภายในเกียร์ ที่ชอบก็คือเสียงท่อไอเสียในรอบสูง ในตำแหน่งเกียร์สาม ที่ดังกระหึ่มไปตลอดทั้งหุบเขา ทำให้การเดินทางท่ามกลางธรรมชาติเป็นความสุขสมหวังในช่วงปลายปี ยาง Potenza S005 235/35R19 91Y ในรถทดสอบให้รู้สึกถึงกริ้บที่มั่นคงตลอดเส้นทาง แรงยึดเกาะของยางสปอร์ตระดับหัวแถวของแบรนด์ญี่ปุ่นให้การยึดเกาะในโค้งดีเลยทีเดียว ระบบกันสะเทือนก็ไม่ได้รู้สึกแข็งเกินไปบนถนนที่ราบเรียบ คุณสามารถใช้ความรู้สึกในการบังคับเลี้ยวผ่านล้อหน้าได้มากขึ้น ช่วงล่างด้านหน้ากับยางแก้มเตี้ยพยายามสื่อสารกับข้อมือของคนขับ โดยเฉพาะบนถนนที่ขรุขระในบางจังหวะที่ต้องเจอ การตอบสนองที่รวดเร็วของช่วงล่างทำให้ต้องลดความเร็วจนเหมือนคลานเมื่อขับผ่านถนนลูกรัง เมื่อสภาพถนนเปลี่ยน Quattro ก็เข้ามารักษาความเป็นกลางของรถ ด้วยแรงบิดที่ถ่ายไปยังล้อทั้งสี่อย่างสมดุล

S3 สร้างสมดุลระหว่างการขับที่หนักแน่น แชสซีให้ความรู้สึกมั่นคงทั้งทางตรงและในโค้ง ล้อ 19 นิ้วกับยาง Potenza S005 ให้การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมเมื่อรวมกับระบบขับเคลื่อนทุกล้อ Quattro พวงมาลัยไฟฟ้า Progressive Steering ของ Audi Sport ทำให้ทุกอย่างดูง่ายและเร็ว เพิ่มความเร็วในการบังคับเลี้ยวด้วยน้ำหนักท่ีมั่นคง ขึ้นอยู่กับว่าจะหมุนพวงมาลัยมากน้อยแค่ไหน S3 ให้ความรู้สึกที่แม่นยำและเพิ่มความมั่นใจให้กับคนขับโดยเฉพาะการขับบนถนนที่คดเคี้ยว ในย่านความเร็วต่ำ Progressive Steering ทำให้การจอดรถง่ายขึ้นเพราะไม่จำเป็นต้องหมุนพวงมาลัยมากนัก ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อคล้ายกับ Golf R เนื่องจากไม่สามารถส่งกำลังไปยังล้อหลังได้มากนัก อาการของมันจึงค่อนข้างเป็นกลางในโค้ง ความรู้สึกในการบังคับเลี้ยวหรือความรู้สึกตื่นเต้นแบบเดียวกับที่ผมเคยสัมผัสในรถยนต์อย่าง Toyota GR Yaris หรือ Honda Civic Type R แต่สะดวกสบายและหรูหรามากกว่าใน S3 Sportback

S3 มีมุมมองทัศนวิสัยที่ดีรอบด้าน เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ที่นุ่มนวลและเร็ว พวงมาลัยแบบโปรเกรสซีฟที่มั่นคง ทำให้การขับขี่ในสถานการณ์ที่มีการจราจรหนาแน่นในแต่ละวันมีความสนุกสนาน ความสามารถในการขับของ Sportback นั้นอาจไม่เท่ากับของแรง 5 สูบอย่าง RS3 Sportback ที่แพงและควบคุมได้ยากกว่า จริงๆ แล้วมีสองแง่มุมในเรื่องของการขับ หนึ่ง เครื่องยนต์ 2.0 TFSI 290 แรงม้า สุภาพและไม่ส่งเสียงดังยกเว้นคุณจะเปิดวาร์ปกับโหมด Dynamic วาว์ลในท่อระบายก็จะเปิดออกจนสุด การไปเต็มคันเร่งในโหมดสูงสุด คุณจะมีความสุขเมื่อได้ยินเสียงพรึบดังสนั่นเมื่อมันเปลี่ยนเกียร์ บางจังหวะท่อแบบสปอร์ตทำให้เกิดเสียงกระหึ่มคล้ายเครื่องยนต์ห้าสูบของ RS3 TTRS และ RS Q3 สิ่งที่แปลกประหลาดอีกประการหนึ่งคือ S3 Sportback ไม่มีตรา Quattro ที่ภายนอกแม้แต่จุดเดียว มีเพียงจุดเดียวเท่านั้นบนแผงแดชบอร์ดเหนือช่องเก็บของหน้ารถ 

s tronic 7 speed transmission มีการตอบสนองของชุดส่งกำลัง 3 ระดับ
D- ออโต้เต็มระบบ
S -สปอร์ต เกียร์ทำงานเร็วขึ้นในลักษณะลากรอบ
M -เกียร์แมนนวล สำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง การใช้เกียร์ S หรือ M ให้เหมาะสมกับเส้นทาง หรือสไตล์การขับ หรือคาอยู่ที่เกียร์ D ในเกียร์ที่มีคลัตช์ถึงสองชุด มีซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานที่ฉลาดและปรับเปลี่ยนอัตราทดได้อย่างว่องไว

กดคันเร่งที่ปลายโค้งเพื่อส่งความเร็วให้เพิ่มขึ้น S3 แฮตช์แบคพุ่งออกจากโค้งด้วยความมาดมั่นและเร็วจี๋ ในฐานะที่แบรนด์ Audi เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านประสิทธิภาพของระบบส่งกำลังและระบบรองรับ รถเล็กรุ่นนี้คือทุกสิ่งที่คุณคาดหวังจาก Audi Sport อันทรงพลัง แรงฉุดลาก 400 นิวตันเมตรนั้นไร้ที่ติในทุกสภาวะ ยกเว้นตอนที่ฝนตกหนักแล้วต้องลดความเร็วลงมา การส่งกำลังของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จที่แข็งแกร่ง การยึดเกาะถนน เป็นรถที่เร็วตั้งแต่ต้นยันปลาย เอาใจผู้ที่อยากขับเร็วด้วยเครื่องยนต์ที่จูนมาดี บางคนชอบรถที่พอดี ไม่มากเกินไปจนควบคุมยาก ไม่ต้องการรถที่มีความเสี่ยงอย่าง RS3 หรือ TT RS ที่แรงกว่ามาก อาการอันเดอร์สเตียร์ของ S3 เกิดขึ้นทันทีหากคุณเค้นมันมากเกินไปในโค้ง แต่แชสซีของรถรุ่นนี้คืองานสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพ S3 Sportback ให้ความรู้สึกที่เป็นกลางขณะมุดเข้าออกโค้ง ให้ความรู้สึกน่าหลงใหลในการบังคับเลี้ยว กำลังของมันไม่ได้แรงจนล้น ซึ่งนั่นอาจหมายถึงอันตรายในการที่จะไปให้เร็วกว่าเดิม 

ซาวด์แทร็กแบบห้าสูบที่คลุมเครือส่งผ่านลำโพงในห้องโดยสาร!  อะไรคือประเด็นที่ทำให้ S3 สี่สูบมีเสียงเหมือนรถเครื่อง 5 สูบอย่าง RS3? Audi พยายามทำให้ผู้ซื้อ S3 ที่มีศักยภาพทางการเงินสูงรู้สึกพึงพอใจ แม้จะใช้เครื่องสี่สูบแต่การจำลองเสียงท่อให้ดังเหมือนเครื่อง 5 สูบ จะมีให้แค่เฉพาะในโหมด Dynamic เท่านั้น การตั้งค่าระบบกันสะเทือนแบบ S-tuned ผลลัพธ์ก็คืออาการกระด้างในย่านความเร็วต่ำ มันจะเนียนขึ้น นั่งได้สบายขึ้นบนถนนที่เปิดโล่ง แต่พอกลับมาวิ่งช้าลง ก็จะพบกับอาการกระเด้งกระดอนเหมือนเดิม เมื่อผิวถนนไม่มีความสม่ำเสมอมันเป็นรถที่สะเทือนเอาเรื่อง ช่วงล่างที่ถูกเซตให้รับมือกับแรงม้าเฉียดๆ 300 ตัว กับยาง Series-35 นั้นไม่สามารถปรับให้ฟีลลิ่งของระบบรองรับออกมาในแนวนุ่มนวลได้ แต่ถ้าความเร็วทะยานผ่าน 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คุณจะรู้สึกว่า S3 นั้นเนียนขึ้นมาก  

งานตกแต่งภายใน เบาะนั่งแบบสปอร์ต พัฒนาขึ้นใหม่ หุ้มด้วยหนัง Fine Nappa แดชบอร์ดเอียงเข้าหาคนขับโดยเฉพาะ รวมแนวคิดการทำงานในระบบ MMI Multi-Media Interface แบบใหม่เข้ากับจอภาพสั่งงานด้วยระบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว อย่างลงตัว หน้าจอสัมผัสแผงสีดำ เป็นจอมอนิเตอร์กลางแบบใหม่ที่ทันสมัย ออกแบบให้มีความเหมาะสมกับสัดส่วนของแผงแดชบอร์ด ระบบสั่งงาน สามารถจดจำตัวอักษรที่ป้อนด้วยนิ้วมือ หรือส่งเสียงตอบโต้ในระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ฉลาดใช้ได้ ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์มระบบอินโฟเทนเมนต์แบบโมดูลาร์รุ่นที่สาม (MIB 3) มีพลังในการประมวลผลที่มากกว่ารุ่นก่อนถึงสิบเท่า! ฟีเจอร์การเชื่อมต่อทั้งหมดมีความเร็ว LTE ขั้นสูง

น่าเสียดายที่ MMI Navigation Plus กับชุดเครื่องเสียง B&O กำลังขับ 680 วัตต์ ถูกถอดออกไปเพื่อทำราคาเนื่องจากเป็นรถนำเข้าจากเยอรมนี Audi Virtual Cockpit จอภาพมาตรวัดขนาด 10.1 นิ้ว จอภาพมาตรวัดระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ ให้ข้อมูลด้วยการแสดงผลอย่างคมชัดใน binnacle ของ S3 Audi Virtual Cockpit Plus ติดตั้งจอแสดงผลกลางครอบคลุมความกว้างขนาด 12.3 นิ้ว เป็นจอแสดงผล binnacle การเชื่อมต่อระหว่าง Audi S3 ใหม่กับสมาร์ทโฟนผ่านแอป myAudi รวมถึงผ่าน Apple CarPlay, Android Auto และ Audi Phone Box ซึ่งเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของ S3 เชื่อมโยงอุปกรณ์เข้ากับเสาอากาศของรถอย่างสะดวก มีช่องชาร์จมือถือด้วย USB Type C มาให้อีกสี่ตำแหน่ง

ตำแหน่งการขับดีเยี่ยม เบาะไฟฟ้าปรับได้อย่างครอบคลุมทุกสรีระ ท่านั่งที่ต่ำเตี้ยให้ความรู้สึกเหมือนกำลังควบคุมรถแข่ง One Mack Race หนังและวัสดุพวกฟองน้ำภายในเบาะนั่งให้การรองรับที่สมดุล สำหรับการเดินทางไกลหรือสร้างความกระชับเมื่อขับแบบเร่งรีบ แผงหน้าปัดดิจิทัลความละเอียดสูงซึ่งใหญ่กว่ารุ่น A3 ปกติเล็กน้อย สามารถแสดงผล Google Maps, ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อ หรือแสดงผลมาตรวัดความเร็วและมาตรวัดรอบแบบคลาสสิกที่อ่านค่าได้ง่าย หน้าจอสัมผัสกลางมีการทำงานที่ลื่นไหล ให้การตอบสนองรวดเร็วแบบเดียวกับ A6 และ Q7 ที่ใหญ่และแพงกว่า การเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สายอย่างรวดเร็ว การคลิกแบบสัมผัสหลังจากกดไอคอนให้ความรู้สึกดี ด้านล่างหน้าจอสัมผัสเป็นพ็อดควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสารแบบเรียบง่าย มาพร้อมปุ่มแต่ไม่มีแป้นหมุนแบบนูน

Audi S3 Sportback มีคันเกียร์ท่ีสั้นกุด อาจดูทันสมัย แต่ขาดการให้ความรู้สึกของเกียร์ในขณะที่เลื่อนไปยังตำแหน่งต่างๆ พื้นที่เก็บของเป็นช่องเล็กช่องน้อยมากมาย ที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง (ไม่มีฝาเลื่อนเปิด-ปิด) ที่เท้าแขนขนาดกะทัดรัดแบบพับปรับระดับได้ ประตูที่มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับขวดน้ำพื้นที่รอบคันเกียร์เล็กๆ นั้นเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เป็นพลาสติกสีดำเงาขนาดใหญ่ S3 ไม่มีคันเกียร์แต่ใช้ก้านสวิตช์ทรงเหลี่ยมเล็กๆ แทนที่คันเกียร์ เบาะหลังมีพื้นที่เพียงพอ เนื่องจากขนาดที่กะทัดรัดของตัวถัง Hatchback พื้นที่วางขาด้านหลังสำหรับผู้ใหญ่ที่มีความสูงปกติออกแบบให้นั่งโดยสารทางไกลได้ เบาะนั่งแบบสปอร์ตใน S3 กินพื้นที่การมองเห็นด้านหน้า มีจุด ISOFIX สองจุดและจุดเชื่อมต่อด้านบนสามจุด S3 Sportback มีพื้นที่เก็บสัมภาระ 325 ลิตรพร้อมที่นั่งทั้ง 5 ตำแหน่ง ลดลง 60 ลิตรเมื่อเทียบกับ A3 Sportback เนื่องจากกลไกของระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออยู่ใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระ คุณต้องพับเบาะหลังให้เรียบเพื่อวางถุงกอล์ฟ หรือกระเป๋าเสื้อผ้าใบโต

S3 Sportback มีส่วนผสมของ Audi Quattro S2 อยู่พอสมควร มากพอที่จะทำให้คุณรู้สึกสปอร์ตพร้อมไปกับความสนุกเมื่อเข้าโค้ง แม้จะเป็นรถคันเล็ก แต่งานตกแต่งภายในก็ไม่ได้สูญเสียกลิ่นอายของความหรูหราที่ Audi ประดังเข้ามาให้ ขาดแค่เนวิเกเตอร์ดิจิทัลกับเครื่องเสียง B&O เท่านั้นที่โดนตัดออกไป เบาะนั่งแบบสปอร์ต หุ้มหนัง Nappa นั่งสบายเดินทางไกลแบบไม่เมื่อย ตลอดระยะทางทดสอบไกลเกือบ 1800 กิโลเมตร แผนก Audi Sport ไม่เพียงแต่นำเสนอรถ Sportback ขนาดเล็กเท่านั้น แต่ยังสร้างรถที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น A3 ในระดับเริ่มต้น หรือรถเล็กสมรรถนะสูงอย่าง S3 และ RS3 ความคิดเห็นส่วนตัว S3 ปี 2023 เป็นจุดกึ่งกลางที่สมดุลคล้ายกับ MINI Cooper S กับ AMG GLA35 4Matic สำหรับนักขับที่ไม่ได้ต้องการรถที่แรงมากจนเกินไป Audi S3 Sportback Quattro เป็น Audi คือคำตอบที่ไม่ได้ดีที่สุด แต่ขับแล้วคุณจะรู้สึกรักมันอย่างหัวปักหัวปำก็แล้วกัน.


Audi S3 Sportback quattro ราคา 3,550,000 บาท

Technical data

S3 Sportback quattro
แบบเครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง
พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
แบบฉีดตรง (direct injection), เทอร์โบชาร์จ
จำนวนวาล์ว 4 วาว์ลต่อสูบ-16 วาว์ล
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,984 ซีซี.
แรงม้าสูงสุด 213 กิโลวัตต์ 290 แรงม้า ที่ 5,300-6,700 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 2,000-5,000 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนสี่ล้อ (quattro)
อัตราเร่ง 0-100 กม. / ชม. 4.8 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 250 กม. / ชม.
ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Start/stop system)
พวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้า Progressive Steering
เบรกหน้า ดิสก์เบรก
เบรกหลัง ดิสก์เบรก
พื้นที่เก็บสัมภาระ 325-1145 ลิตร 
ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร
ล้อ 19 นิ้ว ขนาด 8J x 19 ยาง Potenza S005 ขนาด 235/35 R19
ยางอะไหล่

ระบบความปลอดภัย S3 Sportback quattro
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
ระบบเบรกมือไฟฟ้า
ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic brake distribution)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system)
ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with stabilization function)
เซนเซอร์หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด
กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
ชุดปฐมพยาบาล
อุปกรณ์มาตรฐาน
ช่วงล่างแบบ S Sports
คาลิปเปอร์เบรกสีแดงหน้า-หลัง
ระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select)

อุปกรณ์มาตรฐาน S3 Sportback quattro
ไฟหน้าแบบ LED
ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
ตกแต่งห้องโดยสารภายในด้วยลาย Dark aluminium spectrum o
ความสะดวกสบาย
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมระบบปรับดันหลัง และฟังก์ชันบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่
เบาะนั่งหุ้มหนัง
เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports พร้อมสัญลักษณ์ S
เบาะผู้โดยสารด้านหลังพับได้
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน แบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อม Paddle shift
ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise control)
กุญแจแบบ Comfort key พร้อมระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ
ระบบข้อมูลและความบันเทิง
ระบบเครื่องเสียง Audi sound system
ระบบ MMI Radio plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส (MMI touch) ขนาด 10.1 นิ้ว
ระบบ Audi smartphone interface
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
ช่องเชื่อมต่อ USB
ไฟเรืองแสงในห้องโดยสารสีขาว (White ambient lighting)