Mercedes-Benz Unimog รถออฟโรดยุคหลังสงครามโลกของแบรนด์ตราดาวกลายเป็นที่รู้จักกันในหลายๆ แง่มุมของรถอเนกประสงค์ที่ใช้ขับตะลุยทางวิบาก จากการเป็นรถทหารเยอรมันในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และความสำเร็จของการคว้าชัยชนะในอันดับที่ 1 เมื่อถูกส่งลงไปทำการแข่งขันในรายการแรลลี่สุดหฤโหดปารีส-ดาการ์ แรลลี่ที่มีอุบัติเหตุและมีนักแข่งเสียชีวิตเกือบทุกปี ในกรณีที่ใช้เป็นยานพาหนะของหน่วยงานราชการ รถ Unimog สนับสนุนงานได้อย่างหลากหลาย ถือเป็นรถออฟโรดในยุตแรกๆที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม เป็นรถบรรทุกขนาดเล็กที่ถูกใช้งานทั้งชาวไร่ชาวนา รวมถึงการเป็นยานพาหนะของทหารและหน่วยงานที่ต้องการรถยนต์ที่มีความสมบุกสมบันมากเป็นพิเศษ Mercedes-Benz Unimog ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีในยุคนั้นเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของการใช้งานในรถ 4 × 4 

...

Unimog รุ่นแรกได้รับการพัฒนาในปี 1947 ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พื้นฐานของรถรุ่นนี้ใช้หลักการเดียวกับที่อังกฤษใช้พัฒนารถยนต์ยี่ห้อ Land-Rover สามารถดัดแปลงให้เป็นยานพาหนะทางการเกษตรที่คล้ายกับรถแทรกเตอร์ ติดตั้งเดือยและอุปกรณ์เก็บเกี่ยว ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้เป็นยานพาหนะของครอบครัว ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของเยอรมันในช่วงหลังสงคราม Mercedes-Benz Unimog กลายเป็นรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพเด่นในหลายด้าน

Unimogs เป็นชื่อในภาษาเยอรมัน ใช้เรียกรถยนต์บรรทุกขับเคลื่อน 4 ล้อขนาดกลางแบบเอนกประสงค์ ที่ผลิตโดย Mercedes - Benz, Daimler AG Unimog เป็นตัวย่อในภาษาเยอรมัน “ UNIversal-MOtor-Gerät" หมายถึง เครื่องยนต์ หรืออุปกรณ์ หลังจากค่าย Daimler Benz เข้าครอบครองกิจการโรงงานผลิตรถ Unimog ตั้งแต่ปี 1951 โดยเข้ามาสานต่อและพัฒนารถบรรทุกรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องและทำการผลิตรถ Unimog จนถึงปัจจุบัน 

...

ในอดีต รถ Unimog รุ่นแรกถูกออกแบบและผลิตขึ้นภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองจบสิ้นลงได้ไม่นาน โดยเน้นการผลิตเพื่อใช้งานในภาคการเกษตร ออกแบบให้ใช้งานเป็นตัวต้นกำลังให้แก่อุปกรณ์ที่ต้องใช้แรงขับเคลื่อน เช่น เลื่อยกล ที่ใช้ในอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือประกอบกับเครื่องมือเก็บเกี่ยวผลผลิตในไร่ การใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ 4WD ถาวร (Permanent 4WD) กับล้อขนาดเท่ากันทั้งหมดก็เพื่อจะขับขี่ เจ้า Unimog บนถนนปกติได้ด้วยความเร็วที่สูงกว่ามรถแทรกเตอร์ (Tractor) ทั่วไป Unimogs ยังออกแบบให้มีระยะสูงจากพื้นถนน (Clearance) ที่สูงมาก ส่วนโครงสร้างและแชสซีรถก็ออกแบบให้มีความยืดหยุ่น เพื่อรองรับกับการใช้งานที่สมบุกสมบัน ความสามารถในการบรรทุกไม่แตกต่างจากรถยนต์บรรทุกปกติทั่วไป

...

เนื่องจากสมรรถนะที่ดีเยี่ยมในด้านออฟโรดเหมาะกับการขับขี่บนพื้นที่ทุรกันดาร รถบรรทุกรุ่นนี้จึงถูกนำมาประยุกต์ดัดแแปลงให้เป็นรถบรรทุกที่ใช้งานทางทหาร รถ Unimog มีระยะสูงจากพื้นถนนที่สูงมาก ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถมากกว่ารถฮัมวี ( Humvee) เนื่องจากการเลือกใช้เกียร์แบบ เกียร์พอร์ทัล (Portal Gear) ที่ส่งผลให้ เพลา และ ชุดส่งกำลัง จะอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่ากึ่งกลางล้อ ยูนิม็อกยังมีโครงรถที่หยืดหยุ่นทำให้สามารถเลือกใช้ยางรถยนต์ได้หลายขนาด และมีระยะการเคลื่อนตัวในแนวดิ่งได้มากขึ้นทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ภูมิประเทศที่ไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกันได้เป็นอย่างดี มีการออกแบบให้ห้องคนขับอยู่สูงขึ้นกว่าปกติเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสำรวจพื้นที่บริเวณภายนอกรอบๆตัวรถได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งยังออกแบบให้ใช้งานอุปกรณ์ประจำรถต่างๆ ได้สะดวกขึ้นอีกด้วย รถ Unimog รุ่นใหม่ๆ นั้นออกแบบให้สามารถเปลี่ยนจากการขับขี่ด้านซ้ายมาเป็นด้านขวาได้เมื่อต้องการ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ขับขี่สะดวกต่อการใช้งานอุปกรณ์ต่างขณะปฏิบัติงานอยู่ด้านใดด้านหนึ่งของตัวรถ นั้นเอง เจ้า Unimog ยังออกแบบมาให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อช่วยในการติดตั้งอุปกรณ์ ไฮดรอลิก หรืออุปกรณ์ช่วยในการจัดบรรทุก

...

Unimog ทุกรุ่นยกเว้นรุ่น 404S ใช้เครื่องยนต์ดีเซล กำลังตั้งแต่ระดับ 25 แรงม้า (19 kW) ไปจนถึง 280 แรงม้า (205 kW) ตัวถังมีทั้งแบบฐานล้อสั้นสำหรับการบรรทุกหรือแบบฐานล้อยาว เพื่อการบรรทุกในทุกพื้นที่ (All terrain) รุ่น 404.1 เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาติดต่อยาวนานมากที่สุด ที่พบเห็นได้บ่อยใช้ในภารกิจขนส่งกำลังพล และใช้บรรทุกเครื่องมือสื่อสารของกองทัพเยอรมัน และในประเทศแถบยุโรปตะวันตก.


ขอบคุณข้อมูล Mercedes-Benz Unimog จาก CL Auto Service

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/