ย้อนเวลากลับไปสู่อดีตที่แสนหอมหวานของ Mitsubishi ในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ ปี 1973 (พ.ศ. 2516) โลกยานยนต์ ได้เห็น “รถยนต์ที่ตอบสนองทุกการใช้งาน” ที่รองรับการขับขี่ทั้งแบบออนโรดและออฟโรดเป็นครั้งแรก ถึงแม้จะยังเป็นรถรุ่นต้นแบบและยังเป็นแบบหลังคาเปิด แต่ก็ครบครันทุกคุณสมบัติในการใช้งาน ทั้งเบาะนั่งที่สะดวกสบาย รูปลักษณ์การออกแบบที่ทันสมัยกว่าเดิม มีโรลบาร์เสริมความปลอดภัย Mitsubishi Motor เรียกรถยนต์รุ่นดังกล่าวว่า Pajero ถ้าเทียบกับปัจจุบัน Pajero คันต้นแบบที่นำมาจัดแสดงเมื่อกว่า 40 ปีก่อน อาจถูกเรียกว่าเป็นรถบ้านหรืออาร์วี (Recreational Vehicle) ถือเป็นการปูทางสู่การเป็นรถยนต์ในตำนานยุคใหม่และถ่ายทอดดีเอ็นเอสานต่อมาถึง Mitsubishi Pajero Sport ในปัจจุบัน

...

Pajero คันต้นแบบ เป็นจุดเริ่มต้นของรถยนต์ยุคใหม่ที่รองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย โดยได้รับการออกแบบให้มีความสะดวกสบายและสมรรถนะการขับขี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน มีศักยภาพและความทนทานพร้อมสำหรับการบุกตะลุยไปบนเส้นทางขรุขระไม่แพ้รถออฟโรดขนานแท้ที่มักขาดความสะดวกสบายจากความแข็งกระด้างของช่วงล่าง

Mitsubishi Motor ไม่ได้ขึ้นสายการผลิต Pajero คันต้นแบบ เนื่องจากต้องการปรับปรุงรถยนต์รุ่นนี้ให้มีความปลอดภัยมากกว่าเดิม ต่อมาจึงมีการเปิดตัวรถต้นแบบรุ่นที่สองในปี พ.ศ. 2521 หลังจากนั้น Mitsubishi Motor เริ่มมองเห็นตลาดที่เปิดกว้างสำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ประเภทนี้ Pajero จึงได้รับการเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ

Mitsubishi Pajero รุ่นแรก ถูกเปิดตัวในปี พ.ศ. 2525 มีความแตกต่างจากรถคันต้นแบบอย่างเห็นได้ชัด จากการออกแบบที่ทันสมัย (ในเวลานั้น) เน้นประสิทธิภาพของความแข็งแกร่งทนทาน โดยใช้เวลาพัฒนาผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่เหมาะสม ทำให้ Mitsubishi Motor เปิดตัวรถรุ่น Pajero ที่มาพร้อมตัวถังแบบวากอนและรองรับการบรรทุกได้มากขึ้น Mitsubishi Pajero รุ่นแรกมีตัวถังให้เลือก 2 แบบ คือรุ่น 3 ประตูและรุ่น 5 ประตู สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการรถยนต์ในขณะนั้นด้วยพื้นที่ใช้สอยและความสามารถในการลุยทางทุรกันดาร

...

Mitsubishi Pajero สร้างชื่อเสียงตั้งแต่เริ่มต้นทำตลาด ลูกค้าที่ซื้อไปใช้งานชอบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สมรรถนะของการขับขี่ ระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร Mitsubishi Pajero เจนเนอเรชั่นแรกใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ช่วงล่างด้านหน้าแบบปีกนกคู่ดับเบิลวิชโบนพร้อมทอร์ชั่นบาร์ พวงมาลัยไฟฟ้าและเบาะที่นั่งกันสะเทือนซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ผู้ขับขี่หลายคนชื่นชอบเนื่องจากทำให้ Mitsubishi Pajero มีความสะดวกสบายขณะขับขี่บนทางขรุขระและถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ

หลังจากเปิดตัวไม่นาน Pajero กลายเป็นรถยนต์ยอดนิยมของผู้ขับทุกกลุ่ม ตั้งแต่ผู้ที่ต้องการรถยกสูงสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันที่มีสมรรถนะ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ความกว้างขวางและการบรรทุกหนักที่ยอดเยี่ยมไปจนถึงหน่วยงานราชการที่ต้องการสมรรถนะบนทางออฟโรด Mitsubishi Pajero ประสบความสำเร็จอย่างสูงจนกระทั่งถูกนำพิสูจน์คุณภาพในรายการแข่งขันสุดหฤโหดอย่างการแข่งขันแรลลี่ครอสคันทรีระดับโลกในปี พ.ศ. 2526

...

Pajero ร่วมแข่งขันได้เพียง 3 ปีก็สามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2528 และยังสามารถรักษาตำแหน่งแชมป์อย่างต่อเนื่องอีก 11 ครั้ง จึงส่งผลให้ Mitsubishi Pajero กลายเป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์ที่ประสบความสำเร็จสูงติดอันดับโลก

...

การพัฒนารถแข่งภายในศูนย์การออกแบบและเทคโนโลยีของ Mitsubishi Motor และการเข้าร่วมการแข่งขันบนทะเลทราย บุกป่าฝ่าดงที่ว่ากันว่าทุรกันดารที่สุดในโลกรวมระยะทางหลายแสนกิโลเมตรถูกถ่ายทอดลงในรถยนต์ที่ขึ้นสู่สายการผลิตมาจนถึงทุกวันนี้ ความสำเร็จในการแข่งขันแรลลี่ที่หฤโหดที่สุดในโลก พิสูจน์สมรรถนะทั้งบนถนนในเมืองและป่าเขาทำให้ Mitsubishi Pajero ได้รับการยกย่องว่าเป็นรถยนต์ออฟโรดอเนกประสงค์แห่งทศวรรษที่ 1990 อย่างแท้จริง

ถึงแม้จะได้รับความนิยมสูง Mitsubishi Motor ยังคงเดินหน้าปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เกิดเซ็กเมนท์ PPV-SUV ขึ้นมาใหม่ (แค่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่มีรถกระบะดัดแปลงที่มีชื่อเรียกกันว่า PPV) ซึ่งเป็นยานยนต์ที่มีคุณสมบัติเสมือนกับ Pajero รุ่นแรก ทั้งด้านความแข็งแกร่งทนทาน สมรรถนะ และความปลอดภัย แต่ยกระดับความหรูหรามากยิ่งขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2539 Mitsubishi Pajero Sport ก็ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับดีเอ็นเอของ Pajero รุ่นดั้งเดิม 

Mitsubishi Pajero Sport เจนเนอเรชั่นแรก ใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบคานแข็งทอร์ชั่นบีม ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนเป็นคอยล์สปริงในรุ่นต่อมาเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความคล่องตัว

Mitsubishi Pajero Sport รุ่นที่ 2 เปิดตัวในปี พ.ศ. 2551 และมีห้องโดยสารที่ดีขึ้น รวมถึงศักยภาพการขับบนถนนแบบไฮเวย์และเส้นทางทุรกันดารหรือทางออฟโรด 

Mitsubishi Pajero Sport เจนเนอเรชั่นที่ 3 (รุ่นปัจจุบัน) เปิดตัวออกสู่ตลาดรถกระบะดัดแปลง PPV-SUV ของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2558 โดยปรับให้มีความล้ำสมัยพร้อมยัดสารพัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพื่อแข่งขันกับเจ้าตลาดอย่าง Toyota Fortuner เริ่มจากการออกแบบที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง Mitsubishi Pajero Sport ยกระดับงานดีไซน์ใหม่ โดยพยายามถ่ายทอดเอกลักษณ์การออกแบบที่เรียกว่า Dynamic Shield มีตัวถังที่ใหญ่ แข็งแกร่ง และบึกบึน งานออกแบบยังสะท้อนแนวคิดของรูปลักษณ์ที่สอดคล้องกับการใช้งาน 

ภายในห้องโดยสารของ Pajero Sport ให้มาครบเพื่อการใช้งานที่มีความอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น คอนโซลกลางเสริมด้วยวัสดุนุ่มบริเวณด้านข้าง มาตรวัดแบบ High Contrast พร้อมการแสดงผลแบบอนิเมชั่นสามมิติ ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร เทคโนโลยีนาโนอิ ช่องชาร์จไฟฟ้า 220V AC ช่องเก็บสมาร์ทโฟนสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เบรกมือไฟฟ้า ช่องแอร์ของระบบปรับอากาศดีไซน์ใหม่สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ระบบกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ต รวมไปถึงพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่กว้างขวาง อุปกรณ์ใหม่ยังรวมถึงระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติดูอัลโซนแยกปรับซ้าย-ขวา พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง สูง-ต่ำและเข้า-ออก เบาะนั่งคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางถือว่าให้มาครบ รวมกับหน้าจอบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติและระบบปรับอากาศด้านหลัง

Mitsubishi Motor ให้ความสำคัญกับการออกแบบตามหลักกายศาสตร์เพื่อรองรับการใช้งานด้วยแนวคิด T-Shaped High Console จัดวางทุกฟังก์ชั่นให้อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งานรวมถึงหน้าจอทัชสกรีน 7 นิ้วและระบบนำทางให้ผู้ขับขี่ควบคุมได้ง่ายดาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นมีสวิตช์ควบคุมระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติและสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง พร้อมแพดเดิลชิฟต์ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC) ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าถึงแม้รถคันหน้าจะชะลอความเร็วหรือหยุดรถ 

ระบบความปลอดภัยใน Mitsubishi Pajero Sport (ETACS) ระบบนี้ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในตัวรถ ทั้งใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดระบบไฟฟ้า ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนช่องทาง ระบบเตือนลืมปิดไฟหรี่ ระบบสัญญาณไฟกะพริบเมื่อหยุดรถฉุกเฉิน ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็ว ระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์และเมื่อกดรีโมต ระบบกุญแจนิรภัยและกุญแจอัจฉริยะ

เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงรุก เช่น ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (UMS) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW) กล้องมองภาพรอบคัน (Muti Around Monitor) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (ASTC) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ถุงลมนิรภัย 7 ลูก และโครงสร้างตัวถังนิรภัยเหล็กกล้า (RISE) 

Pajero Sport ใช้เครื่องยนต์บล็อกอะลูมิเนียมแบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ กำลัง 181 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่มีอัตราทดครอบคลุมด้วยแรงบิดที่ดี ระบบขับเคลื่อน Super Select 4WD-II ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มีทั้งหมด 4 โหมด ประกอบด้วย

โหมด 2H ระบบขับเคลื่อนสองล้อ (2WD High-Range)

โหมด 4H ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time – All Wheel Control (4WD High-Range)

โหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง (4WD High-range with Locked Transfer)

โหมด 4LLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ (4WD Low-Range with Locked Transfer) ระบบนี้ยังมาพร้อมโหมดออฟโรดที่หลากหลายและเฟืองท้ายดิฟล็อกที่สืบทอดมาจากตำนานในสนามแข่ง

การผสมผสานเทคโนโลยี กำลังและการขับเคลื่อนทำให้ Mitsubishi Pajero Sport ครองอันดับที่ 2 ในด้านตัวเลขยอดขายโดยเป็นรองแค่เจ้าตลาดอย่าง Toyota Fortuner นับเป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์ที่ครบเครื่องและให้อุปกรณ์มาเยอะสุดเพื่อการใช้งานได้อย่างหลากหลาย การเริ่มต้นพัฒนาจากรถ Pajero ต้นแบบไร้หลังคาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 จนมาถึงปัจจุบัน จุดประกายให้เกิดรถอเนกประสงค์ที่นับว่าเป็นหนึ่งในรถ PPV ที่ขายดีในปัจจุบัน.


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/