ปอร์เช่ เอเซีย แปซิฟิก จัดงานแถลงข่าว เพื่อประกาศการมาถึงของกิจกรรมที่หลายฝ่ายต่างตั้งใจรอคอย Porsche Driving Experience ซึ่งกำลังจะได้รับการจัดขึ้น ณ สนามแข่งรถระดับโลก เซปัง ด้วยโปรแกรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บรรจงสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการนักขับรถ ผู้ปรารถนาที่จะยกระดับทักษะการขับขี่ให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นไปอีกขั้น ด้วยหลักสูตรการฝึกสอนที่หลากหลาย บนพื้นที่อันแสนเพียบพร้อมเหมาะสมของสนามแข่งขันรถยนต์สูตร 1 และอีกหลากหลายสงครามความเร็วที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ตั้งอยู่ไม่ห่างจากสนามบิน Kuala Lumpur International Airport นับได้ว่าเป็นสถานที่ในอุดมคติที่สามารถรองรับกิจกรรมทุกรูปแบบของปอร์เช่ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่ง ทั้งในแง่ของลูกค้าและบุคคลทั่วไปที่สนใจเข้าร่วม
...
สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย ได้รับการไว้วางใจจากชื่อเสียงอันเป็นที่รู้จัก ในฐานะของศูนย์กลางกิจกรรมกีฬามอเตอร์สปอร์ตของภูมิภาค เอเซีย แปซิฟิก และพื้นที่ใกล้เคียง เช่นเดียวกับกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นที่นิยมในการจัดกิจกรรมระดับนานาชาติสุดยิ่งใหญ่ ด้วยระยะทางของสนาม 5.543 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางโค้งที่สุดท้าทายตลอดเส้นทาง รวมทั้งทางตรงยาวสุดสายตา
...
หลักสูตรการฝึกอบรมที่มีความเฉพาะตัว มีให้เลือกหลากหลายแตกต่างกันถึง 7 หลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม Warm-up, Precision, Performance, Master, Race Track Experience, Porsche World Roadshow และ Co-pilot ล้วนแล้วแต่มีวัตถุประสงค์หลักในการเสริมสร้างความคุ้นเคยให้แก่บรรดานักขับในการควบคุมและเข้าถึงสมรรถนะของรถยนต์ ด้วยสถานการณ์ที่แตกต่าง และสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ล้ำยุคของตัวรถ ที่พร้อมเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนให้เกิดการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลักษณะการเรียนรู้จะถูกจัดเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และเข้าถึงขั้นตอนทุกรายละเอียดอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งรวมไปถึงการฝึกสอนโดยครูฝึกระดับเดียวกับนักขับรถแข่งมืออาชีพ เพิ่มเติมจากเนื้อหาหลักสูตรตามปกติ เชื่อมั่นได้ว่าทุกโปรแกรมการเรียนรู้จากปอร์เช่ จะเต็มไปด้วยความสนุกสนานตื่นเต้น สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรมอย่างแน่นอน
...
...
กิจกรรม Porsche Driving Experience คือ มหกรรมการรวมตัวสุดอลังการของยนตรกรรมสปอร์ตจากปอร์เช่ครบถ้วนทุกรุ่น เริ่มตั้งแต่ ปอร์เช่ 718 จนถึงปอร์เช่ 911 มาคันน์ (Macan) คาเยนน์ (Cayenne) และรุ่นล่าสุดที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวเป็นทางการเพียงเมื่อไม่นานมานี้ อย่าง พานาเมร่า (Panamera) นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้สัมผัสกับเรือธงของแต่ละรุ่น เช่น 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S), คาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S) และ พานาเมรา เทอร์โบ (Panamera Turbo) Martin Limpert กรรมการผู้จัดการ ของ ปอร์เช่ เอเซีย แปซิฟิก กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า “นี่คือเป้าหมายหลักอีกหนึ่งประการ ที่ ปอร์เช่ เอเซีย แปซิฟิก มุ่งมั่นปรารถนาให้ถือกำเนิดขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้อยู่เสมอ ตัวผมเองรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งกับผลสำเร็จที่ได้รับ ในท้ายที่สุด เอเซีย แปซิฟิก คือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยกลุ่มบุคคลที่มีความรักในแบรนด์ปอร์เช่ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถปอร์เช่ หรือแฟนพันธุ์แท้ก็ตาม พวกเขาเหล่านี้ต่างเฝ้ารอคอยคำตอบถึงหนทางที่จะสร้างเสริมประสบการณ์ในการเข้าถึงศักยภาพสูงสุดของรถยนต์ปอร์เช่ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเดินทางไกลจากถิ่นพำนักของตน ขณะนี้หนทางในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับขี่หนึ่งในยนตรกรรมสปอร์ตที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก บนสนามแข่งขันความเร็วที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปเอเชีย พร้อมการฝึกสอนโดยทีมงานครูฝึกมืออาชีพที่ผ่านการรับรองจากปอร์เช่นั้น ง่ายและสะดวกสบายอย่างไม่น่าเชื่อ ผมมีความยินดีที่จะเรียนเชิญทุกท่านที่สนใจ ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมของเราโดยทันที หากท่านไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ เช่นนี้ เนื่องจากมีผู้รอคอยเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมครั้งนี้เป็นจำนวนมาก”
สำหรับหลักสูตร Co-pilot เริ่มต้นที่ 6,700 บาท ในส่วนของกิจกรรม Porsche World Roadshow เริ่มต้นจาก 16,700 บาท ทางด้านของหลักสูตรพื้นฐาน Warm-up และหลักสูตรอื่นที่มีระดับเทียบเท่ากับหลักสูตรยอดนิยม Porsche Sport Driving School เริ่มต้นจาก 67,000 บาท ผู้เข้าร่วมสามารถนำรถยนต์ของตนเองเข้าร่วมการฝึกอบรม หรือเลือกใช้รถยนต์ที่ทางปอร์เช่ เอเซีย แปซิฟิก ดำเนินการจัดเตรียมไว้รองรับได้ตามต้องการ ผู้สนใจร่วมกิจกรรมทุกท่านสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์รถยนต์ปอร์เช่เอเอเอสฯ ทั้ง 3 แห่ง
ภาพรวมของกิจกรรม Porsche Driving Experience ณ สนามเซปัง
หลักสูตรพื้นฐาน Warm-up (Porsche Sport Driving School)
การเล่นกีฬาทุกประเภทล้วนแล้วแต่เริ่มต้นด้วยการอบอุ่นร่างกาย และสำหรับรถสปอร์ตย่อมไม่มีข้อยกเว้น หลักสูตรพื้นฐานหรือ warm-up มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่านได้รับประสบการณ์ที่สนุกสนานเร้าใจจากการขับขี่รถยนต์ปอร์เช่ในสนามแข่งความเร็วสูง วัตถุประสงค์หลักของหลักสูตรคือการถ่ายทอดหลักการที่ถูกต้องในการบังคับควบคุมรถยนต์ให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม
ประสิทธิผลจากหลักสูตร : จำลองสถานการณ์การขับขี่ในสภาวะเสี่ยงอันตราย ซึ่งนักขับอย่างลูกค้าและสื่อมวลชนอาจจำเป็นต้องเผชิญบนท้องถนนในชีวิตประจำวันที่ระดับความเร็วต่างๆ และถ่ายทอดประสบการณ์ด้านสมรรถนะการขับขี่ของรถยนต์ปอร์เช่รุ่นที่จัดเตรียมไว้รองรับ ฝึกปฏิบัติวิธีการเบรกอย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนช่องทางและการควบคุมอาการโอเวอร์สเตียร์ รวมทั้งอันเดอร์สเตียร์ นอกจากนี้ ยังจะได้ฝึกปฏิบัติการขับขี่ตามไลน์ที่ถูกต้องในสนามแข่ง รวมทั้งทดสอบวิธีการเข้าสลาลอมด้วยการควบคุมคันเร่งที่แม่นยำ เจ้าหน้าที่ครูฝึกมืออาชีพของปอร์เช่ จะรับหน้าที่ในการอธิบายเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับกฎทางกายภาพพื้นฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่และการบังคับควบคุมรถยนต์ หลักสูตรนี้ยังครอบคลุมไปถึงวิธีการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งได้รับการติดตั้งในรถยนต์ปอร์เช่ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์อีกด้วย
หลักสูตร Precision (Porsche Sport Driving School)
รถยนต์ปอร์เช่เปรียบเสมือนอุปกรณ์ หรือเครื่องมือที่เปี่ยมไปด้วยความเที่ยงตรงแม่นยำ รับหน้าที่สะท้อนปฏิกิริยาจากการควบคุมพวงมาลัยของผู้ขับขี่ เปลี่ยนเป็นการแสดงของตัวรถได้อย่างไร้ที่ติ ในทุกกรณีที่คนขับต้องการ สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมหมายความตามคำสั่งอย่างไม่ผิดเพี้ยน สิ่งที่เพิ่มเติมคือความมั่นใจในทุกการขับขี่พร้อมความปลอดภัยที่เหนือกว่า ทุกสิ่งข้างต้นคือหัวใจหลักของการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้ หรืออาจกล่าวได้ว่า หลักสูตรระดับ Precision คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของการขับขี่เพื่อรีดสมรรถนะสูงสุดทุกหยาดหยดของรถยนต์ เนื้อหาของหลักสูตรมุ่งเน้นไปที่วิธีการควบคุมรถและพื้นฐานการขับขี่อย่างปลอดภัย ในขณะเดียวกัน ยังคงให้ความสำคัญกับการรับมือสถานการณ์เสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในชีวิตประจำวันบนท้องถนน ส่วนที่ถูกเสริมเพิ่มเติมคือองค์ประกอบที่จำเป็นในการเรียนรู้เพื่อประมาณความเร็วที่เหมาะสมและเรียนรู้เพื่อเพิ่มอัตราการตอบสนองที่รวดเร็วยิ่งขึ้น สื่อมวลชนและลูกค้าจะได้ฝึกทดสอบการขับขี่ในสนามเพื่อสัมผัสและหลีกเลี่ยงอาการลื่นไถลที่แตกต่างกันไปตามแต่ละระดับความเร็ว ซึ่งเกิดขึ้นได้จากความรุนแรงของการถ่ายเทน้ำหนักตัวรถ เรียนรู้สถานการณ์จำลองเมื่อต้องรับมือกับอาการโอเวอร์สเตียร์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังจากการอบรมในแต่ละส่วนจบลง นักขับทั้งหมดได้รับทราบถึงบทสรุปโดยรวม และความคาดหวังที่คุณจะได้รับจากการเรียนการสอนขั้นพื้นฐานที่ผ่านมา พร้อมคำวิเคราะห์วิจารณ์ถึงประสิทธิผลจากการเข้าร่วมอบรมของแต่ละคนแยกตามสถานีต่างๆ โดยละเอียดถี่ถ้วน รวมไปถึงข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการนำไปขับขี่บนสนามจริง การฝึกปฏิบัติการควบคุมพวงมาลัยอย่างถูกวิธี ทักษะการเบรกที่มีประสิทธิภาพ และะการใช้คันเร่งด้วยความระมัดระวัง
หลักสูตร Performance (Porsche Sport Driving School)
เมื่อผ่านหลักสูตรระดับ Precision มาเรียบร้อยแล้ว ขอต้อนรับเข้าสู่หลักสูตรฝึกอบรมระดับ Performance อีกขั้นของความก้าวหน้าที่จะนำพาลูกค้าและสื่อมวลชนเข้าใกล้ขีดสุดแห่งสมรรถนะการขับขี่มากยิ่งขึ้น การอบรมในหลักสูตรนี้เน้นการเรียนรู้เพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลเม็ดเคล็ดลับและเทคนิคการขับขี่ การปรับเปลี่ยนศักยภาพผันแปรเป็นสมรรถนะของรถยนต์คันแรง ขยายขอบเขตความสามารถในการควบคุมรถยนต์ หลักสูตรในระดับนี้จะเริ่มมุ่งเน้นและเพิ่มความเข้มข้นในการพัฒนาวิธีการขับขี่ควบคุมรถยนต์ ผู้เข้ารับการอบรมทุกท่านจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีพื้นฐานความรู้และทักษะที่ดี อาทิ วิธีการปรับตำแหน่งท่านั่งของตนเองให้เหมาะสม การใช้สายตาคาดคะเนระยะที่ถูกวิธีและการรับมือกับอาการโอเวอร์สเตียร์ของตัวรถที่เกิดขึ้นบนความเร็วต่ำได้อย่างถูกต้อง หลังจากนั้นคือก้าวต่อไปที่จะเติมเต็มให้ซึ่งแน่นอนย่อมต้องคู่ขนานไปกับความปลอดภัยสูงสุดหลังพวงมาลัยของรถทดสอบ
สำหรับภาคทฤษฎีจะเป็นเนื้อหาที่ผสมผสานระหว่างการขับขี่โดยเน้นสมรรถนะและหลักปฏิบัติที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ขั้นสูง การฝึกอบรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สร้างความคุ้นชินกับขั้นตอนการเข้าโค้งและการค้นหาไลน์ที่ถูกต้องในอุดมคติ วัตถุประสงค์หลักพุ่งเป้าไปที่การพัฒนากลวิธีถ่ายทอดคำสั่งไปยังตัวรถอย่างแม่นยำ โดยทดสอบขับลักษณะรอบต่อรอบ ฝึกฝนการชะลอความเร็วอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อกำลังจะเข้าโค้ง และหลีกเลี่ยงการหมุนพวงมาลัยที่เกินจำเป็น ข้างต้นคือหัวข้อที่ใช้ในการฝึกปฏิบัติ หนึ่งในสถานีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่จริงบนสนามคือสถานี ‘lapping’
นับเป็นโอกาสอันดีในการค้นหาจุดเด่นด้านทักษะ จากการเผชิญสถานการณ์ในสนามแข่ง ทีมงานครูฝึกจากโปรแกรม Porsche Sport Driving School คือผู้รับหน้าที่ในการประเมินผลการปฏิบัติ และการทดสอบโดยตลอดทุกสถานี พร้อมให้คำแนะนำอันมีคุณค่าต่อการพัฒนาของนักขับแต่ละคนหลังจบแต่ละขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ในหลักสูตรนี้ยังคงให้น้ำหนักกับการปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพการบังคับควบคุมรถยนต์ให้เพิ่มมากขึ้น มากกว่าที่จะพุ่งเป้าไปยังการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ลูกค้าและสื่อมวลชนจำเป็นต้องผ่านหลักสูตรระดับ Performance เสียก่อน จึงจะสามารถเลื่อนระดับไปยังหลักสูตรขั้นต่อไป นั่นคือ ระดับ Master
หลักสูตร Master (Porsche Sport Driving School)
ปอร์เช่ให้ความสำคัญสูงสุดทั้งการพัฒนาสมรรถนะตัวรถไปพร้อมกับการเพิ่มพูนศักยภาพของผู้ขับขี่ หลังจากผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมหลากหลายระดับจาก Porsche Sport Driving School เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาสำหรับหลักสูตรต่อไปหรือยัง หลักสูตรระดับ Master คือ โปรแกรมการฝึกอบรมที่ส่งเสริมประสบการณ์ในรูปแบบของนักขับอาชีพ เหล่าครูฝึกผู้เชี่ยวชาญจะร่วมทุ่มเทฝึกสอนอย่างหนัก เพื่อให้ลูกค้าและสื่อสามารถพิชิตหลักสูตรนี้ไปให้ได้ตลอดรอดฝั่ง และแน่นอนว่าครูฝึกทุกคนล้วนแล้วแต่เปี่ยมประสบการณ์จากสนามแข่งรถความเร็วสูงมาอย่างโชกโชน
ถึงตอนนี้นักขับทั้งหมดพร้อมแล้วกับการเป็นนักขับตัวจริง ไม่มีความจำเป็นต้องทบทวนพื้นฐานการขับขี่อีกต่อไป สิ่งอื่นๆ นับจากนี้ คือเราสามารถมุ่งมั่นในการถ่ายทอดกรรมวิธีการขับขี่ที่เป็นตัวตนมากยิ่งขึ้น ค้นหา และจับจุดสำคัญของเส้นทางต่างๆ ในสนามโดยปราศจากการช่วยเหลือของกรวยจราจร และคำแนะนำของครูฝึก โดยปกติแล้วหลักสูตรนี้จะครอบคลุมถึงการกำหนดและขับขี่ตามไลน์ในสนามแข่ง ผู้เข้าร่วมอบรมจะต้องพยายามเข้าถึงและค้นพบแนวทางในการพัฒนาทักษะเหล่านี้ ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง หลักสูตรการอบรมจะถูกจัดแบ่งเป็นกลุ่มเล็กเพื่อให้เหมาะสมกับการวิเคราะห์ผลการทดสอบขับของแต่ละคนแบบเจาะลึกทุกรายละเอียด
นอกจากนี้ ยังได้รับเวลาพิเศษสำหรับการทดสอบขับขี่บนสนาม เพื่อทบทวนทักษะต่างๆ ที่ได้เรียนรู้มาทั้งหมดอีกครั้ง เปิดโอกาสให้คุณสามารถพัฒนาตนเองได้อยู่ตลอดเวลา ในบางครั้งคุณอาจได้รับแม้กระทั่งการแนะนำแบบตัวต่อตัวระหว่างครูฝึกของคุณ ในขณะฝึกปฏิบัติบนสนามแข่งขันจริง
ยิ่งไปกว่านั้น หลักสูตรการฝึกอบรมนี้ ครอบคลุมทั้งในเชิงของทฤษฎีและเป้าหมายการปฏิบัติจริง มุ่งเน้นการถ่ายทอดและฝึกสอนทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับระบบตัวถังและยางรถยนต์ เพื่อเติมเต็มศักยภาพในการถ่ายทอดพละกำลังทั้งหมดจากรถลงสู่พื้นถนนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หลักสูตร Race Track Experience
หลักสูตร Race Track Experience จากปอร์เช่ คือทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับการขับขี่รถยนต์ ความโลดโผนและความตื่นเต้นเร้าใจ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปันประสบการณ์สุดล้ำค่าในครั้งนี้ ภายในระยะเวลาหนึ่งวันเต็มบนสนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ได้ทำความรู้จักยนตรกรรมสปอร์ตมากมายหลายรุ่นจากปอร์เช่อย่างใกล้ชิด สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์คันนี้ รวมทั้งวิธีการที่จะขับขี่มันอย่างสนุกสนาน เริ่มตั้งแต่ตำแหน่งการจัดท่านั่งที่ถูกต้องไปจนถึงการทะยานเข้าโค้งอันสุดแสนจะตื่นเต้น วาดลวดลายบนสถานีสลาลอม และสถานีอื่นๆ อีกมาก
หลักสูตร Porsche World Roadshow
ขีดสุดแห่งการผจญภัยไปกับปอร์เช่ กำลังรอคอยอยู่ ถึงเวลาแล้วที่ความใฝ่ฝันจะกลายเป็นความจริง ร่วมสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์เหนือระดับจากยอดยนตรกรรมสายพันธุ์สปอร์ตหลากหลายรุ่น ทั้งบนสนามแข่งทางเรียบและบนเส้นทางทุรกันดารแบบ off-road เพื่อเข้าถึงทุกแง่มุมของสุดยอดสมรรถนะ รถสปอร์ตรุ่นล่าสุดกว่า 16 คัน พร้อมทีมงานครูฝึกผู้เชี่ยวชาญจากปอร์เช่
หลักสูตร Co-Pilot
ประจำตำแหน่งผู้โดยสาร แล้วเตรียมตัวรับความประทับใจแบบสุดขีดจากส่วนผสมอันแสนลงตัว ระหว่างประสิทธิภาพของพละกำลังและความงดงามของงานออกแบบดีไซน์ เพียงเริ่มต้น ครูฝึกมืออาชีพจะให้คำอธิบายถึงข้อมูลทางเทคนิค เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับตัวรถ หลังจากคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกผู้เชี่ยวชาญจะรับหน้าที่นำพาคุณเข้าสู่ความเร้าใจในฐานะของ co-drive รับประกันความสนุกสนานในทุกขณะที่คุณนั่งอยู่บนเบาะของรถยนต์ปอร์เช่ทุกคัน พร้อมกับสุ้มเสียงคำรามกร้าวแกร่งดุดัน ในทุกครั้งที่เข้าโค้ง บนสนามแข่งที่ได้รับการรับรองจาก FIA
AAS Auto Service
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกรของเราให้มีคุณภาพสูงสุดตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า AAS The Name you can Trust ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/