JAECOO 7 PHEV เตรียมเข้าไทย หลังทดสอบทำสถิติใหม่วิ่งได้ไกลกว่า 1,427 กิโลเมตรจากสิงคโปร์ ผ่านมาเลเซีย มาสู่ไทย โดยใช้น้ำมัน 1 ถัง และชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้งด้วยระยะทาง 1,427.5 กิโลเมตร
เอมิลี่ เล็ค รองประธานของเจคู่ หรือ JAECOO ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า เรารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้แสดงสมรรถนะและศักยภาพของรถยนต์ JAECOO 7 PHEV ให้ตลาดในประเทศมาเลเซียและประเทศอื่นๆ ได้เห็นว่ารถรุ่นนี้ผ่านการทดสอบอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเส้นทาง
โดยสะท้อนถึงคำมั่นของแบรนด์เจคู่ที่มุ่งมั่นในการมอบรถยนต์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยีระบบ Super Hybrid (SHS หรือ Super Hybrid System) เป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในกลุ่มเทคโนโลยีแถวหน้าของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นเทคโนโลยี PHEV แบบเดียวที่รองรับการชาร์จไฟโดยใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct current หรือ DC) รวมถึงมีข้อดีอีกมากมายในรถยนต์ JAECOO 7 PHEV นี้
จากการทดสอบการขับขี่ระยะไกลผ่าน 3 ประเทศ JAECOO 7 PHEV มีสมรรถนะเหนือกว่าตัวเลขที่ระบุในรายละเอียดทางเทคนิค เนื่องจากรถรุ่นนี้สามารถขับขี่โดยใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 947 กิโลเมตร (โดยที่น้ำมันยังคงเพียงพอในการขับขี่อีก 372 กิโลเมตร)
ส่วนการขับขี่โดยใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 108 กิโลเมตร ซึ่งไกลกว่าระยะทางที่ระบุในรายละเอียดทางเทคนิคถึง 18 กิโลเมตร การทดสอบการขับขี่ครั้งนี้ยังเป็นการทดสอบอัตราการใช้น้ำมันของ JAECOO 7 PHEV โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ 3.5 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งดีกว่ามาตรฐานที่ 6.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร

...
"เราเชื่อมั่นว่าเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของ JAECOO 7 PHEV สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งด้านการประหยัดพลังงานและสมรรถนะที่เหนือกว่า โดยเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของ JAECOO 7 PHEV ประกอบด้วยแบตเตอรี่ขนาด 18.3 กิโลวัตต์ ถังน้ำมัน ความจุ 60 ลิตร พร้อมระบบส่งกำลังไฮบริดโดยเฉพาะซึ่งสามารถสลับการทำงานได้อย่างไร้รอยต่อและสร้างแรงบิดได้ถึง 525 นิวตันเมตร"
สำหรับสมรรถนะของรถยนต์ JAECOO 7 PHEV เป็นผลของการใช้ระบบ Super Hybrid (SHS หรือ Super Hybrid System) ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 สำหรับรถยนต์ไฮบริด ระบบส่งกำลังไฮบริดแบบแปรผันต่อเนื่อง และแบตเตอรี่ไฮบริดประสิทธิภาพสูง ส่วนประกอบทั้ง 3 ส่วนทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อเพื่อให้ได้สมรรถนะที่สูง กำลังที่มากขึ้น รวมถึงอัตราการใช้พลังงานน้ำมันและไฟฟ้าที่ลดลง
ส่วนระบบ Super Hybrid (SHS หรือ Super Hybrid System) ของเจคู่ ได้รับการออกแบบให้รองรับการชาร์จไฟได้อย่างหลากหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ รูปแบบแรกคือการชาร์จไฟแบบช้าผ่านปลั๊กไฟ 3 ขา 230 โวลต์ สามารถชาร์จไฟรถจาก 0% ถึง 100% ได้ภายในเวลา 8.5 ชั่วโมง ด้วยกำลังไฟ 3.3 กิโลวัตต์ รูปแบบที่ 2 คือ การชาร์จแบบ AC ที่สามารถชาร์จไฟรถจาก 30% ถึง 80% ในเวลา 3 ชั่วโมงด้วยกำลังไฟ 6.6 กิโลวัตต์
รูปแบบสุดท้าย คือ การชาร์จแบบ DC ซึ่งถือเป็นระบบที่สร้างความแตกต่างที่สำคัญที่ทำให้ JAECOO 7 PHEV แตกต่างไปจากเดิม รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของเจคู่เป็นรถยนต์ PHEV รุ่นเดียวในท้องตลาดปัจจุบันที่รองรับการชาร์จไฟแบบเร็วโดยใช้การชาร์จแบบ DC ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 30% ถึง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 20 นาที ที่กำลังไฟ 40 กิโลวัตต์
ทั้งนี้ JAECOO 7 PHEV เป็นรถยนต์ที่ติดตั้งแบตเตอรี่ไฮบริดที่ออกแบบมาให้มีระบบจัดการความร้อนแบบพิเศษเฉพาะ ซึ่งมาจากการลงทุนด้านคุณภาพ การออกแบบ และความปลอดภัยของแบตเตอรี่ของเจคู่ ที่ออกแบบให้แบตเตอรี่มีความทนทานต่อแรงกระแทกด้วยเกราะแบตเตอรี่ขั้นสูง
นอกจากนี้ยังมีโล่ป้องกันภายในและโครงสร้างหุ้มเหล็กภายนอก พร้อมได้รับการออกแบบมาให้สามารถทำงานได้ภายใต้อุณหภูมิที่สูง ซึ่งได้รับการรับรองจากมาตรฐานระดับ IP68 และทนทานต่อไฟแม้อยู่ในสภาวะที่รุนแรง เช่น แบตเตอรี่โดนเจาะทะลุหรือถูกบีบอัด
อย่างไรก็ตามเป้าหมายของเจคู่ในการจัดการทดสอบการเดินทางระยะไกลจากสิงคโปร์ มาเลเซีย มาสู่ประเทศไทย เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ให้เข้าใจถึงความเข้ากันได้ของเครื่องยนต์ PHEV กับตลาดในประเทศและต่างประเทศ พร้อมตอบโจทย์สิ่งที่ผู้ขับขี่สนใจอย่างระยะทางสูงสุดในการขับขี่และอัตราการใช้พลังงานของรถยนต์ JAECOO 7 PHEV ซึ่งสเปคของประเทศไทยจะประกาศ และพร้อมจำหน่าย อย่างเป็นทางการในประเทศไทยเร็วๆ นี้