HONDA นำโด่งยอดขายรถเก๋ง ปี 2565 เน้นเพิ่มความพึงพอใจด้านบริการหลังการขาย

Honda มีรถเก๋งส่วนบุคคลมากมายหลายแบบ และรถยนต์แต่ละแบบนั้น Honda ใช้ความพยายามอย่างหนักในการปรับให้รถมีความสามารถที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น Honda Jazz คันเล็ก 5 ประตูที่มีพื้นที่พอเพียง Honda City ที่มีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งระบบขับเคลื่อนและช่วงล่าง รถอย่าง Honda Civic และ HR-V ที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับแบรนด์ รวมถึง CR-V และ Accord ที่ครองใจคนเกือบทุกเพศทุกวัยให้หลงรัก การมีรถที่โดนใจผู้คนในประเทศไทย ทำให้ Honda ครองยอดขายเบอร์หนึ่งของรถส่วนบุคคลต่อเนื่องอีกปี (2564) หลังจากเคยทำสำเร็จมาแล้วในปี 2563  

Honda Automobile Thailand ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2564 แจงตัวเลขยอดขายในปีที่ผ่านมา ยังขึ้นแท่นครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปี 2564 ในประเทศไทย (นับจากเดือน มกราคม - ธันวาคม 2564) ด้วยยอดจำหน่ายสะสมรวม 88,692 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึง 27.9% และครองอันดับ 1 ต่อเนื่องอีกปี ทั้งยังเป็นผู้นำใน 4 เซกเมนต์หลัก พร้อมเดินหน้าสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ด้วยการยกระดับการบริการหลังการขาย ให้ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้า ภายใต้มาตรฐานเดียวกันจากโชว์รูมและศูนย์บริการ 229 แห่งทั่วประเทศ

โนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ Honda Automobile Thailand กล่าวว่า “Honda ขอขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในแบรนด์ ในปี 2564 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับการทำงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ Honda ต้องปรับเปลี่ยนการทำงาน ให้สอดคล้องและทันกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป การทำงานหนักของ Honda ผู้จำหน่าย และทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน ส่งผลให้ Honda ได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยยอดจำหน่ายสะสม 88,692 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งด้วยสัดส่วนถึง 27.9% ซึ่งในปี 2565 คาดว่าการแพร่ระบาดของ โควิด-19 และเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น Honda ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนที่ดีเช่นนี้ต่อไป”


Honda ที่ครองอันดับ 1 ใน 4 เซกเมนต์หลัก ได้แก่

1. กลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์และอีโค ซับคอมแพคท์ ซีดาน (B and B-Eco Sedan segments)
ยอดจำหน่ายสะสม 23,490 คัน คิดเป็น 28.2%
Honda City Turbo ยอดจำหน่ายสะสม 21,221 คัน
Honda City e:HEV ยอดจำหน่ายสะสม 2,269 คัน

2. กลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์และอีโค ซับคอมแพคท์ ซีดานและแฮตช์แบ็ก (B and B-Eco Sedan and Hatchback segments)
ยอดจำหน่ายสะสม 47,962 คัน คิดเป็น 29.8%
Honda City Series ยอดจำหน่ายสะสม 47,962 คัน

3. กลุ่มรถยนต์คอมแพคท์ (C-segment)
ยอดจำหน่ายสะสม 16,092 คัน คิดเป็น 65.9%
Honda Civic ยังครองความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง ยอดจำหน่ายสะสม 14,755 คัน
Honda Civic Hatchback ยอดจำหน่ายสะสม 1,337 คัน

4. กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (L-SUV segment)
ยอดจำหน่ายสะสม 4,938 คัน คิดเป็น 45.7%
Honda CR-V ยอดจำหน่ายสะสม 4,938 คัน

ในปีที่ผ่านมา Honda แนะนำระบบการขับที่ฉลาดให้กับลูกค้าชาวไทย ด้วยยานยนต์ Full Hybrid e:HEV พร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ซึ่งครอบคลุมในหลากหลายเซกเมนต์ ได้แก่ Honda HR-V e:HEV ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว รวมทั้ง Honda City e:HEV / Honda City Hatchback e:HEV และ Honda Accord e:HEV ส่งผลให้ยานยนต์ Honda กับระบบขับเคลื่อนไฮบริด e:HEV Full Hybrid ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น ตรงกับความต้องการของลูกค้าในด้านสมรรถนะการขับ พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย และอัตราการประหยัดน้ำมัน

สำหรับการดำเนินงานในปี 2565 Honda ยังคงเดินหน้าสร้างความพึงพอใจ ด้วยการพัฒนารถยนต์ที่มีคุณภาพ พร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและระบบความปลอดภัย โดยมุ่งไปสู่สังคมปลอดมลพิษและสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุ ตามเป้าหมายปี 2593 ยกระดับงานบริการหลังการขาย เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้บริการแบบครบวงจร ภายใต้มาตรฐานเดียวกันจากโชว์รูมและศูนย์บริการทั้ง 229 แห่งทั่วประเทศ 

หมายเหตุ
ส่วนแบ่งทางการตลาดและอัตราการเติบโตของยอดขายรถยนต์ปี 2564 ประมาณการโดยรวมจากการคาดการณ์ยอดขายของรถยนต์บางค่าย

ยอดจำหน่ายสะสมและส่วนแบ่งทางการตลาดนับรวมกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/