จากการที่ภาวะโรคระบาด “โควิด-19” ได้ลดลงไปมาก โดยเฉพาะในส่วนของประเทศไทย เพราะทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนในสังคมได้ร่วมใจกันฝ่าภัยวิกฤตินี้

ส่งผลให้ทางการเริ่มผ่อนคลายหลากหลายมาตรการ ทำให้ธุรกิจต่างๆเริ่มหวนกลับมาเดินหน้าได้ต่อไป เช่นเดียวกับทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์และตลาดรถยนต์

ขณะนี้ทุกค่ายรถยนต์ที่มีโรงประกอบรถยนต์ในไทยได้กลับมาเดินเครื่องการผลิตอีกครั้ง โดยทุกค่ายต่างยังมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยและอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยอย่างเต็มเปี่ยม

อย่างเช่นล่าสุด นิสสัน มอเตอร์ ได้ประกาศกลับมาเริ่มสายการผลิตในไทยอีกครั้ง!!

โดยนิสสันพร้อมปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และคำแนะนำจากภาครัฐ และกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อปกป้องดูแลสุขภาพของพนักงาน ลูกค้า และสังคม รวมถึงการจำกัดจำนวนพนักงานที่จะกลับเข้ามาปฏิบัติงานที่สำนักงานทุกพื้นที่ และกำหนดมาตรการป้องกันเพื่อให้พนักงานปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย และเพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของพนักงานในสถานที่ทำงาน

ขณะเดียวกัน นิสสัน มอเตอร์ ยังประกาศแผนระยะ 4 ปี เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน เสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงิน และความสามารถในการสร้างผลกำไร ภายในสิ้นปีงบประมาณปี พ.ศ.2566

โดยแผนปฏิรูปการดำเนินธุรกิจนี้ยังครอบคลุมถึงการจัดการต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์ขององค์กรจากเดิมที่ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจมากจนเกินไป

จึงได้ยุติการดำเนินงานของโรงประกอบรถยนต์นิสสันในประเทศอินโดนีเซีย และมุ่งมาให้ความสำคัญกับโรงประกอบรถยนต์นิสสันในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตแห่งเดียวในอาเซียน

...

ขณะที่ค่ายรถบิ๊กเบิ้มของจีนอย่าง “เกรท วอลล์ มอเตอร์ส” (Great Wall Motors) ก็เชื่อมั่นในประเทศไทย บ่ยั่น “โควิด-19” ที่กำลังอาละวาดในขณะนี้ ด้วยการประกาศจะเดินหน้าลงทุนในไทย เพื่อใช้เป็นฐานผลิตรถยนต์ส่งออกทั่วอาเซียน

เมื่อต้นปีนี้จึงได้ซื้อโรงประกอบรถยนต์ของเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ที่ จ.ระยอง

“เว่ย เจียนจูน” ประธานคณะกรรมการค่ายเกรท วอลล์ มอเตอร์ส ประกาศลั่นว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการผลิตและส่งออกอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับการส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศสำคัญๆในกลุ่มอาเซียนของเกรท วอลล์ มอเตอร์ส ซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจยานยนต์ในประเทศจีน

ค่ายเกรท วอลล์ มอเตอร์ส กำลังเร่งขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วไปทั่วโลกภายใต้กลยุทธ์โลกาภิวัตน์ (Globalization)

โดยในอนาคตมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ผ่านระบบอัจฉริยะ (Intelligence) การเชื่อมต่อ (Network) และพลังงานสะอาด (Clean)

“โดยการเปลี่ยนแปลงและการดำเนินงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของบริษัท รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่จะถูกพัฒนาขึ้นนั้น ชาวไทยจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงล่าสุดของเราเป็นอันดับแรกๆ”.

อัลคาโปน
motorwars@thairath.co.th