ฮุนได มองสถานการณ์เศรษฐกิจไทยหดตัวจากหนี้ครัวเรือนสูง แนะเร่งแก้ไขก่อนจะเกิดต้มยำกุ้งรอบสอง ระบุปีนี้ยอดขายรถในไทยร่วงเป็นอันดับ 3 ของตลาดรถยนต์อาเซียนรองจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย

นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นอาจจะส่งผลกระทบบานปลายในอนาคต ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาหนี้เสียก่อนจะเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งรอบสอง ขณะที่ผลกระทบจากเศรษฐกิจและความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ ปีนี้พบว่า ฮุนไดก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน จากเดิมที่มีการอนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าฮุนไดสูงถึง 90% ปีนี้ลดลงมาเหลือเพียง 70% เท่านั้น

"ตลาดรวมรถยนต์ปีนี้ มองว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนคันบวกลบ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและความเข้มงวดของไฟแนนซ์ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ในช่วง 1-2 ปี ยังยอมรับได้ แต่ถ้าต่อเนื่องยาวกว่านี้ ไม่ส่งผลดีต่อวงการรถยนต์อย่างแน่นอน และอาจมีบริษัทที่เกี่ยวข้องจะต้องปิดตัวเพิ่มขึ้น เห็นได้จากตัวเลขยอดขายตลาดรวมรถยนต์ไทยตกลงมาอยู่ที่อันดับ 3 โดยมาเลย์แซงขึ้นเป็นอันดับที่สอง รองจากอินโดนีเซีย"

...

ส่วนของแผนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ หรือ BEV และผลิตแบตเตอรี่โดยเริ่มจากขั้นตอนการประกอบโมดูล เพื่อป้อนให้กับสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเริ่มประกอบรถยนต์ไฟฟ้า IONIQ 5 เป็นรุ่นแรกนั้น ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ยังมีเวลาว่าจะดำเนินการยังไงต่อไป

อย่างไรก็ตามในอีก 2 ปีข้างหน้า จะเห็นเทรนด์เพราะฮุนไดจะกระโดดข้ามจากไฮบริดไปทำ EREV (Extended Range Electric Vehicle) เพราะ EREV ขยายระยะทางวิ่งรถได้ไกลมากขึ้น มีทั้งเครื่องยนต์และชาร์จได้ เราวางแผนว่าจะผลิตรถ EREV ทุกเซกเมนต์ เพราะฮุนไดมองทุกโอกาสและช่องว่างที่จะดำเนินงาน