NETA ย้ำรัฐบาลท้องถิ่นในจีนเป็นเจ้าของ มั่นใจการปรับโครงสร้างจะสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมยืนยันยังทำธุรกิจในไทยเต็ม 100% เผยปี 68 เตรียมเปิดไลน์การผลิต NETA X ในประเทศไทยปีหน้า
มร. ชู กังจื้อ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันของ NETA ในประเทศจีนที่เป็นบริษัทแม่นั้น เรามั่นใจว่าการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร จะเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินให้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมให้บริษัท NETA ในประเทศจีนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม เราได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด นั่นคือ หนานหนิง อินดัสเทรียล อินเวสต์เมนต์ กรุ๊ป จำกัด (Nanning Industrial Investment Group) ซึ่งเป็นบริษัทที่รัฐบาลเป็นเจ้าของโดยตรง ภายใต้การดูแลของรัฐบาลท้องถิ่นหนานหนิง โดยให้การสนับสนุนพิเศษกับ NETA สำหรับซัพพลายเชนในการทำตลาดนอกประเทศจีน นอกจากนี้ เรากำลังทำงานร่วมกัน เพื่อเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกง ด้วยการสนับสนุนพิเศษจากผู้ถือหุ้นของเรา ขอขอบคุณที่มั่นใจใน NETA ในฐานะที่ บริษัท NETA เป็นเจ้าของโดยรัฐบาลท้องถิ่นในประเทศจีน
...
ขณะเดียวกัน NETA ได้ส่งออกไปมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 460,000 รายทั่วโลก สำหรับแผนการดำเนินงานในประเทศไทย เรายังคงสานต่อกลยุทธ์ All in Thailand, All for Thailand ในการยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ที่มีคุณภาพดี และติดตั้งเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง NETA ไม่หยุดยั้งที่จะคิดค้น และวิจัยพัฒนา เพื่อเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ๆ ของเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต
สำหรับการทำตลาดในประเทศไทยนั้น เราก็อยากให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจในไทยนั้นยังเป็นไปตามปกติ ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 22,000 รายเข้าร่วมเป็นครอบครัว NETA และเราก็มีดีลเลอร์ที่เปิดเป็นทางการแล้วอยู่ที่ประมาณ 52 สาขาและจะมีการขยายสาขาต่อไปเรื่อยๆ ให้ครบ 80 สาขาตามเป้าหมายเดิม
ทั้งนี้ NETA ได้แนะนำเทคโนโลยี EREV ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมสุดล้ำของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ผสานประสิทธิภาพของพลังงานไฟฟ้า และความยืดหยุ่นของเครื่องยนต์สันดาปภายในมีมอเตอร์ไฟฟ้าใช้เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก และเครื่องยนต์สันดาปภายในใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ โดยรถยนต์เทคโนโลยี EREV ทำให้สามารถ ขับขี่ในโหมดไฟฟ้าเต็มรูปแบบในระยะทางที่ยาวขึ้นได้ถึง 1,200 กิโลเมตรต่อน้ำมันหนึ่งถัง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้ชาร์จไฟได้เร็วขึ้น และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สำหรับ NETA เราภูมิใจที่จะแนะนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เหนือกว่า EREV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ NETA Super EREV คือ เทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องยนต์สันดาปภายใน สามารถทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟและจ่ายตรงไปยังมอเตอร์เพื่อขับเคลื่อนตัวรถ โดยไม่ต้องผ่านแบตเตอรี่ ทำให้รถ NETA สามารถขับเคลื่อนได้
แม้ในสภาวะที่แบตเตอรี่หมด หรือไม่ทำงานได้ พร้อมเผยโฉม NETA S Shooting Brake รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Wagon ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยี Super EREV ลงในรถรุ่นนี้ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้คอนเซป New Energy, Super Intelligent, More FUN ที่มาพร้อมดีไซน์สุดล้ำในสไตล์ Wagon ที่ผสมผสานความโฉบเฉี่ยว และสปอร์ตเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งนี้ NETA ตั้งเป้าหมาย แนะนำเทคโนโลยีนี้ในรถยนต์ NETA รุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวให้แก่ลูกค้าชาวไทย ปี 2568
"NETA มั่นใจในศักยภาพการเติบโต และการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาลไทย โดย NETA ตั้งเป้าจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ 1 รุ่น ทุกปี ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป และก้าวสู่การเป็น TOP 5 แบรนด์รถยนต์ในประเทศไทย ภายในปี 2573"
มร. ชู กังจื้อ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องบริการหลังการขายนั้นเนต้าเองก็มีการสต๊อกอะไหล่ทั้งในประเทศจีน และในประเทศไทยเพื่อรองรับความต้องการเอาไว้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน เรามีเพียงพอที่จะซับพอร์ตความต้องการลูกค้าแน่นอน ส่วนประเด็นเรื่องสงครามราคารถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ เรามองว่าเป็นเรื่องหลักการทำการตลาด เพราะมีรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยหลายเจ้า ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์ แต่ในส่วนของเนต้าเองนั้นเราทำราคาอยู่ในระดับกลางที่คุ้มค่าคุ้มราคากับการใช้งาน