อโมดา แอนด์ เจคู พร้อมตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่ระยอง คาดเสร็จปี 2025 ย้ำไม่เล่น "สงครามราคารถอีวี" แน่นอน

มิสเตอร์ฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท อโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) หรือ OMODA & JAECOO กล่าวว่า บริษัทมีแผนการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในระยะยาว จึงมีนโยบายไม่เข้าร่วมสงครามราคา แต่จะพัฒนาส่งรถยนต์ไฟฟ้าและรถปลั๊กอินไฮบริดเข้ามาสู้ศึกในตลาด และมีราคาเดียวกันทั่วประเทศ

ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้เวลาศึกษาและเตรียมตัวมากกว่า 1 ปี แม้จะมีความล่าช้ากว่าแผนงานที่วางไว้จึงเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV เนื่องจากต้องการศึกษาตลาด พฤติกรรมลูกค้าชาวไทย โดยย้ำด้วยว่าจะไม่มีการปรับลดราคาใดๆ ในช่วง 2-3 เดือนนี้อย่างแน่นอน ขณะเดียวกันบริษัทตั้งเป้าติดผู้นำ 1 ใน 3 รถยนต์นั่ง ภายในระยะเวลา 3 ปี และมีแผนเตรียมส่งรถยนต์ออกสู่ตลาดประเทศไทยอย่างน้อย 2 รุ่น ทั้งในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า 100% และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด

มิสเตอร์ฉี กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีการเซ็นสัญญาซื้อโรงงานสำเร็จรูปและอยู่ระหว่างการนำเครื่องจักรเข้าไปในพื้นที่โรงงานสำหรับผลิตรถยนต์ในเขตพื้นที่ จ.ระยอง ซึ่งคาดว่าดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมผลิตรถยนต์ได้ในปี 2025 โดยจะลงทุน 2 เฟส ซึ่งเฟสแรกระหว่างปี 2024-2028 มีกำลังการผลิต 50,000 คัน เฟส 2 เพิ่มกำลังผลิตอีก 30,000 คัน ขยายรองรับตลาดส่งออก

...

ขณะเดียวกันเรามีแผนขยายศูนย์บริการและผู้จำหน่ายมากถึง 40 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปี ไม่เพียงเท่านี้ ภายในกลางปี 2025 โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จะเริ่มดำเนินการผลิตและประกอบรถยนต์ในไทย เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง ในอนาคตต่อไป

ปัจจุบัน โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) สามารถให้บริการหลังการขายของทั้งสองแบรนด์ 25 แห่ง และภายในปีนี้จะขยายถึงกว่า 40 แห่ง อีกทั้ง ริษัทยังมีความพร้อมด้านคลังอะไหล่บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร และได้ร่วมมือกับ DHL ในการจัดส่งอะไหล่ไปถึงมือลูกค้า โดยในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ใช้เวลาภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนต่างจังหวัดไม่เกิน 3 วัน เพราะต้องการให้บริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าชาวไทยที่สนใจรถยนต์ของ OMODA & JAECOO

มิสเตอร์เฉิน ชุนชิง รองประธาน เชอรี่ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า Chery Automobile ในฐานะบริษัทแม่ของโอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) มีประสบการณ์ด้านยานยนต์ระดับโลกมากว่า 27 ปี ที่ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไปยังกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ขึ้นแท่นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (passenger car) รายใหญ่ที่สุดของจีน ด้วยศักยภาพและการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งเราพร้อมเติมเต็มประสบการณ์ของผู้ขับขี่ให้รถยนต์เป็นมากกว่ารถยนต์

รวมถึงส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด และวันนี้เราพร้อมแล้วที่จะส่งมอบประสบการณ์ระดับโลกเหล่านั้นแก่ลูกค้าชาวไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้แบรนด์ โอโมดา แอนด์ เจคู ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก การเข้ามาในประเทศไทยครั้งนี้เรามุ่งส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่และอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้ทัดเทียมกับมาตรฐานระดับโลก และพร้อมเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าชาวไทย

นายพิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และเครือข่ายผู้จำหน่าย บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รถยนต์ OMODA C5 EV เป็นรถไฟฟ้า 100% รุ่นแรกจากแบรนด์ โอโมดา แอนด์ เจคู ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็นสองรุ่นย่อย ได้แก่

- OMODA C5 EV Long Range Plus ที่มีสี Lunar White, Space Black และ Mercury Grey จำหน่ายในราคา 899,000 บาท

- OMODA C5 EV Long Range Ultimate ที่มีสี Lunar White (Black Roof), Space Black, Mercury Grey, Volcanic Red และ Mint Green (Black Roof) จำหน่ายในราคา 949,000 บาท

...

โดยเป็นยนตรกรรมที่ผสมผสานการออกแบบแห่งอนาคต เข้ากับ 17+1 เทคโนโลยีสุดอัจฉริยะ ADAS+DMS พร้อมทั้งฟังก์ชันความปลอดภัยและความสะดวกสบายแบบจัดเต็ม พร้อมให้ประสบการณ์ที่เป็นมากกว่ารถยนต์

นอกจากนี้เรายังได้นำ JAECOO 6 EV รถออฟโรดพรีเมียมพลังงานไฟฟ้า 100% เวอร์ชันพวงมาลัยขวา รุ่นก่อนผลิตจริง (Pre-production) ครั้งแรกในโลก ที่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับเทคโนโลยียนตรกรรม ภายใต้คอนเซปต์ OFF-ROAD TRENDY อัดแน่นไปด้วยพลังสุดแข็งแกร่งและสุนทรียะที่งดงาม

โดยตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียมทั้งหมด พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเทียมฟอสเฟต ระยะยื่นหน้าและหลังที่สั้นทำให้การขับขี่แบบออฟโรดมีความคล่องตัวสูงไฟหน้าแบบ Headlamp Matrix Adaptive สะดุดตาส่องได้กว้างและไกลกว่า กับโหมดการขับขี่ 6 แบบที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมือง และการขับขี่แบบสมบุกสมบัน มี 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น JAECOO 6 EV Long Range 2WD ราคาคาดการณ์ 1,099,000 บาท และรุ่น JAECOO 6 EV Long Range 4WD ราคาคาดการณ์ 1,249,000 บาท.