ทันทีที่ เรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าจีนยี่ห้อ BYD ประกาศลดราคารถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3 ทั้ง 4 รุ่น ลดสูงสุดคันละ 340,000 บาท ฉลองการเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ BYD ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.นี้ ถึง 31 ก.ค.2567 หรือจนกว่ารถจะหมด ผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD ก่อนหน้านี้ต่างก็หมดความอดทนทันที ทุกคนรู้สึกเหมือนถูก...ถูก...ถูก... (ไปเติมคำเอาเอง) คนที่ซื้อรุ่นแรกๆยิ่งเจ็บปวดหนัก ผ่อนยังไม่ถึง 340,000 บาทด้วยซ้ำ ซื้อใหม่วันนี้กลับราคาถูกกว่า ขายต่อไม่ต้องพูดถึง

การลดราคาแบบสะบั้นหั่นแหลกของ BYD ได้ทำมาหลายครั้งแล้ว ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ไทยอย่างรุนแรง ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์สันดาป

รถยนต์ไฟฟ้าจีนที่เข้ามาอาละวาดตัดราคาในเมืองไทยได้อย่างทุกวันนี้ เป็นผลมาจาก “นโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า” ซึ่งเริ่มจาก รัฐบาล คสช. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายก รัฐมนตรี ต่อเนื่องมาจนถึง รัฐบาลเพื่อไทย ที่มี คุณเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ โดยฝันหวานแบบไม่ต้องคิดว่า บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีนมาสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยมากๆ จะทำให้ประเทศไทยเป็น “ฮับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า” เหมือนกับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาสร้างฐานผลิตในเมืองไทยจนทำให้ประเทศไทยกลายเป็น “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” ในอดีต

ผลประโยชน์ที่ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และ รัฐบาลเศรษฐา มอบให้กับ รถยนต์ไฟฟ้าจีน ที่แห่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยกว่า 10 ยี่ห้อแล้วก็คือ รถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จรูปที่ผลิตจากจีนนำเข้ามาขายในไทยเสียภาษีนำเข้า 0 เปอร์เซ็นต์ คือ ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าเลย เพื่อแลกกับการผลิตชดเชยในอนาคต

นอกจากนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ออก “มาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า 2565–2566” ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าจีนได้รับประโยชน์ไปเต็มๆคือ “การให้เงินอุดหนุนแก่ผู้ซื้อรถยนต์นั่งไฟฟ้าที่ขายในราคาคันละไม่เกิน 2 ล้านบาท สูงถึงคันละ 150,000 บาท” ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าจีนที่มีต้นทุนถูกอยู่แล้ว สามารถขายลดราคาได้อย่างเต็มที่ เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าคันละ 150,000 บาท เป็นเงินภาษีของคนไทยนะครับ ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า จีนก็ให้เงินสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าที่ส่งออกไปตีตลาดต่างประเทศด้วย ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าจีนสามารถลดราคาลงได้มาก เลยไม่แปลกใจที่ สหรัฐฯ ยุโรป จะตั้งกำแพงภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีน เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศเขา

...

ปลายเดือนมิถุนายน 2567 กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ได้ประกาศแพ็กเกจอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าระยะที่ 2 ที่เรียกกันว่า EV 3.5 ลดเงินสนับสนุนการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าปี 65-66 จากคันละ 70,000-150,000 บาท เหลือคันละ 50,000-100,000 บาท และ อุดหนุนต่อไปจนถึง 2570 อุดหนุนกันขนาดนี้ บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นเลยถอดใจปิดโรงงานดีกว่า ต่อไป ไทยจะกลายเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้จีน โดยไทยไม่มีสมบัติเป็นของตัวเองสักชิ้นเดียว

การลดราคาอย่างรุนแรง ของ รถยนต์ไฟฟ้าจีน โดยมี รัฐบาลไทยเป็นผู้สนับสนุนกำลังทำลายอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทย ซึ่งมีมูลค่าหลายล้านล้านบาทให้พังลงอย่างรวดเร็ว ตลาดรถใหม่ที่เป็นรถสันดาปก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ตลาดรถยนต์ที่กำลังพังพินาศต่อไปก็คือ “ตลาดรถยนต์มือสอง” ที่มียอดขายปีละ 6-7 แสนคัน มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าลดราคาลงมาคันละ 3.4 แสนบาท รถยนต์สันดาปก็ต้องลดราคาลงมา กดดันลงไปถึง “รถยนต์มือสอง” ที่มีอยู่เป็นล้านคัน ต้องลดราคาลงไปด้วยเช่นเดียวกัน สร้างความเสียหายอีกไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนล้านบาท

เรียกว่า พังพินาศกันทั้งอุตสาหกรรม โดย ฝีมือรัฐบาลไทยเอง ตอนนี้กำลังลามไปถึงบริษัทประกันภัยรถยนต์แล้ว

ถ้ารัฐบาลไม่รีบแก้ไขโดยด่วน ตลาดรถยนต์ไทยจะพังคามือรัฐบาล แน่นอน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม