BYD ผู้ผลิตยานยนต์ของจีน กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์พลังงานสะอาดรายใหญ่ที่สุดของโลกในเวลาไม่ถึง 20 ปี BYD เปิดตัวแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า YangWang เมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมกับรถอเนกรประสงค์เอสยูวี 5 ที่นั่งพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีเป้าหมายหลักเพื่อการแข่งขันกับ Mercedes-Benz EQG, BMW XM และ Audi Q8 e-Tron รถรุ่นนั้นก็คือ U8

...

วิศวกร และฝ่ายขายของ BYD พยายามแสดงให้เห็นว่าซุปเปอร์เอสยูวีรุ่นใหม่ทำอะไรได้บ้าง U8 Premium Edition ช้างยักษ์ติดหรูมอเตอร์สี่ตัว รถเอสยูวีฟูลไซส์ภายใต้ร่มเงาของแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากจีน เป็นยานยนต์อเนกประสงค์คันโตพลังงานไฟฟ้าที่เน้นความหรูหรา รวมถึงความเป็นรถออฟโรดที่มีทั้งความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพในการลุยฝ่าทางออฟโรดได้อย่างสมบุกสมบัน รถใหม่ U8 ซุปเปอร์เอสยูวีไฟฟ้า มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนที่มีความโดดเด่น นั่นก็คือการใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนที่ล้อทั้งสี่ รวมสี่ตัว 

BYD U8 Premium Edition 4x4 เอสยูวีไฟฟ้า สร้างขึ้นบนแชสซีแบบใหม่ เป็นเฟรมสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะ ยักษ์ U8 มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตำแหน่ง! หนึ่งตัวสำหรับล้อแต่ละล้อ ผสานเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบที่รับหน้าที่ปั่นไฟ กำลังรวมโดยประมาณมากกว่า 1,180 แรงม้า แรงบิด 1,280 นิวตันเมตร SUV ขนาดใหญ่คันนี้มีความยาว 5,318 มิลลิเมตร หนัก 3,460 กิโลกรัม ใช่ครับ มอเตอร์ และแบตเตอรี่ทำให้เจ้ายักษ์ไฟฟ้าคันนี้หนักมากถึง 3.4 ตัน U8 สามารถลอยอยู่ในน้ำได้นานถึง 30 นาที พร้อมๆ กับเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็ว 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถหมุนรถในขณะลอยน้ำได้อีกตะหาก ประสิทธภาพการลอยอยู่ในน้ำแบบฉุกเฉินคล้ายฮิปโปนั้นเป็น "ฟังก์ชันฉุกเฉิน" ออกแบบมาสำหรับน้ำท่วมฉับพลัน หรือต้องวิ่งลุยน้ำท่วมในระดับสูง 

...

ระบบส่งกำลังมอเตอร์ 4 ตัว เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.6 วินาที นั่นเร็วมากเลยทีเดียว 
แบตเตอรี่ขนาดยักษ์บวกกับเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ 2.0 ลิตรที่คอยปั่นไฟ เชื้อเพลิงหนึ่งถัง 75 ลิตร ของ U8 สามารถทำระยะทางได้ไกลลิบถึง 1,000 กิโลเมตร ถังน้ำมันขนาด 75 ลิตร ยังช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทาง เนื่องจาก U8 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีระยะทางไกล (EREV) ระบบส่งกำลังจึงรวมเครื่องยนต์เบนซินสูบเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งทำงานเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือเครื่องปั่นไฟใส่แบตเตอรี่

...

แบตเตอรี่ BYD Blade มีคุณสมบัติทางเคมี LFP และมีความจุ 49 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ทำให้สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าไกล 180 กิโลเมตร แบตเตอรี่ถูกรวมเข้ากับแชสซีโดยใช้เทคโนโลยี Cell-to-Chassis (CTC) ของ BYD การชาร์จแบตเตอรี่จาก 30-80 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลา 18 นาที เมื่อใช้เครื่องชาร์จ DC แบบเร็ว (ที่อัตราสูงสุด 110 กิโลวัตต์)

แบตเตอรี่ยังมีความสามารถในการจ่ายไฟ (V2L) ขนาด 6 กิโลวัตต์ ซึ่งเพียงพอที่จะป้อนไฟให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังสูงได้นานถึง 25 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีแหล่งจ่ายไฟ 220V ออนบอร์ด ขนาด 2.2 kW อีกด้วย

มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสี่ แต่ละตัวให้กำลัง 220 กิโลวัตต์ หรือ 295 แรงม้า กำลังรวมทั้งระบบ 880 กิโลวัตต์ หรือ 1,180 แรงม้า แรงบิดรวม 1,280 นิวตัน-เมตร การเร่งความเร็วของซุปเปอร์เอสยูวี U8 Premium Edition 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.6 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 199 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

...

นอกจากแพลตฟอร์ม e4 แล้ว BYD Yangwang U8 ยังมีความสามารถมากมายจากระบบควบคุมตัวถังไฮดรอลิกอัจฉริยะ DiSus-P ระบบนี้รับประกันการควบคุม และตอบสนองของช่วงล่าง การหน่วงจากระบบแอร์สปริงอย่างต่อเนื่อง ปรับความแข็งเมื่อความเร็วสูงขึ้นเพื่อการทรงตัวท่ีดีในย่านความเร็วสูง ช่วยลดการโคลงตัว ความเสี่ยงของการพลิกคว่ำระหว่างการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ระหว่างการเร่งความเร็ว หรือการเบรก ปกป้องรถจากความเสียหายในสภาพถนนที่คดเคี้ยว ระบบนี้ระยะห่างระหว่างพื้นดิน 149 มิลลิเมตร หรือยกสูงจนมีระยะห่าง 225 มิลลิเมตร แอปพลิเคชันที่ยอดเยี่ยมคือ การปรับระดับความสมดุลด้วยการกดปุ่มคลิกเดียว

โครงสร้าง หรือแพลตฟอร์มเน้นความสามารถในการขับแบบออฟโรดอย่างจริงจัง U8 นำเราไปสู่ความสามารถในการขับออฟโรด Yangwang U8 เป็นยานพาหนะไฟฟ้าที่สามารถพิชิตยอดเขา Bilutu ซึ่งเป็นเนินทรายที่สูงที่สุดในโลก หรือที่รู้จักในชื่อ "Desert Everest" ที่ความสูง 1,600 ฟุต U8 ยังมีโหมดออฟโรด 15+1 โหมด สามารถปรับให้เข้ากับการขับในทุกภูมิประเทศ 

เทคโนโลยีของ U8 ติดตั้ง Yangwang Pilot ADAS ประกอบด้วยเซนเซอร์ 38 ตัว  LiDAR 3 ตัว เรดาร์คลื่น 5 มิลลิเมตร เซนเซอร์อัลตราโซนิก 14 ตัว กล้อง 16 ตัว ทำงานร่วมกับโปรเซสเซอร์การขับอัจฉริยะ NVIDIA Drive Orin สองตัว ที่มีพลังการประมวลผลรวมกันสูงถึง 508 TOPS ADAS เปิดใช้งานระบบช่วยขับขี่บนทางหลวง (HDA), ระบบนำทางอัตโนมัติในเมือง และระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ (ACC) ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (APA) ฟังก์ชัน Highway Driving Assist, City Navigation Autopilot และ Smart Cockpit พร้อมใช้งานผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ over-the-air (OTA) 

ภายในของ U8 Premium Edition มีจอแสดงผล OLED Galaxy Curved Center Display ขนาด 12.8 นิ้ว, หน้าจอคู่ขนาด 23.6 นิ้ว ตามยาว สำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า, หน้าจอเพิ่มเติมอีกสองจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง หน้าจอขนาดเล็กบนคอนโซล ระหว่างที่นั่งด้านหลัง จอแสดงผลบนกระจกหน้าแบบ Augmented Reality ขนาด 70 นิ้ว ระบบควบคุมเสียงอัจฉริยะ แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 3 จุด รองรับการชาร์จเร็ว 50W ในส่วนของความหรูหรา มาพร้อมเบาะหนัง Nappa ระดับเครื่องเสียงไฮเอนด์ ระบบนวดร้อน 10 จุด ภายในตกแต่งด้วยไม้ Sapele จากแอฟริกา ระบบเสียงระดับไฮเอนด์ Dynaudio Evidence Series ลำโพง 22 ตัว พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 7.1.4, Rhythmic หลังคากระจกซันรูฟ ตู้เย็น

BYD Yangwang U8 Premium Edition รถยนต์ไฟฟ้าที่แพงที่สุดในจีน ด้วยราคา 150,000 ดอลลาร์ (1,098,000 หยวน) หรือคิดเป็นเงินไทยยังไม่รวมอัตราภาษีจะอยู่ที่ 5,336,000 บาท การส่งมอบให้กับลูกค้าในจีนเริ่มในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สำหรับ BYD U8 แบบไฟฟ้า 100% อาจเปิดตัวในปีหน้า (2024) ตามรายงานของ CarNewsChina.