BYD Seal หรือชื่อในตลาดส่งออก BYD Atto 4 จะเปิดตัวในประเทศไทย ภายในปี 2566 นี้ BYD Seal เป็นส่วนหนึ่งของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคตของแบรนด์ BYD ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 'Ocean' ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการขับทดสอบในไทย โดยจะมีการเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในแผนการทำตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า BYD โดยเฉพาะ Atto 3 ซึ่งทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยพุ่งขึ้นมาเป็นอันดับที่หนึ่งอยู่ในขณะนี้ 

...

BYD Seal อยู่ในกลุ่มซีดานไฟฟ้าขนาดกลางที่ใช้เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าขั้นสูง เป้าหมายในการเอาชนะของ Seal ก็คือ รถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมอย่าง Tesla Model 3 แต่ Seal มีราคาที่ย่อมเยากว่า คาดว่า ราคาของ Seal ตอนเปิดตัวในไทยไม่น่าจะเกิน 2 ล้านบาท หรืออาจถูกกว่านั้น นอกจากนี้ Sela ยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับลูกค้าที่ต้องการสมรรถนะ ความสะดวกสบายและไดนามิกในการขับขี่แบบรถยนต์สปอร์ตซีดานพลังสูง การกำหนดราคาจะถูกกว่ารถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลางของยุโรป ซึ่งน่าจะอยู่ที่ 1.7 ล้านบาท หรือมากกว่านั้นเล็กน้อย ตราประทับอาจดูคุ้นเคยหากคุณเคยเห็น Han EV แต่ Sela มีการออกแบบภายนอกที่โดดเด่นด้วยความโค้งมนที่เชื่อมโยงกับระบบอากาศพลศาสตร์ ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานอากาศที่ต่ำ ช่วยให้ Seal ลู่ลมและช่วยประหยัดพลังงาน ทรงของมันได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบแนวคิด BYD Ocean X ด้วยดีไซน์ที่น่าดึงดูด จากสัดส่วนที่ดูคล้ายรถสปอร์ต โดยเฉพาะส่วนท้ายที่ลงตัว ด้านหน้าของ BYD Seal ออกแบบกันชนหน้าทรงต่ำ ไฟหน้าเพรียวบางพร้อมส่วนต่อขยายรูปตัว C ช่องอากาศด้านข้างเอียงรับในแนวตั้งในการออกแบบอย่างมีศิลปะ และช่องดูดอากาศล่างขนาดกะทัดรัดรูปตัว A

...

Seal อวดโฉมรถคูเป้สี่ประตูด้วยแนวหลังคาที่โฉบเฉี่ยวและเรือนกระจกรอบคันรูปทรงโค้งมน มือจับประตูแบบเรียบ การออกแบบเส้นสายที่นุ่มนวลของด้านข้าง ลวดลายคล้ายหยดน้ำบนเสา C ส่วนเสริมคล้ายเหงือกปลาฉลามที่บริเวณแก้มข้าง ไฟท้าย LED แบบเต็มความกว้างที่คล้ายกับ Mercedes EQE ช่องระบายอากาศด้านข้างแนวตั้ง กันชนหลังมีครีบดิฟฟิวเซอร์ ไฟถอยหลังแบบแยกตำแหน่งที่วางเคียงข้างไฟตัดหมอกหลัง โดยภาพรวม รูปลักษณ์ของ BYD Seal สวยงามใช้ได้ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Tesla Model 3 และ Nio ET5 ภายนอกถูกขัดเกลาตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่งผลดีต่อการใช้พลังงานและความสะดวกสบายของห้องโดยสาร มีแนวโน้มว่าแบตเตอรี่สามารถทำระยะทางได้ไกลขึ้นและรอบการชาร์จที่น้อยลงก็หมายถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น

...

...

ซีรีส์ Ocean ของ BYD มีการออกแบบที่ลื่นไหลและถูกต้องตามหลักแอโรไดนามิกมากกว่าซีรีส์ Dynasty ซึ่งรวมถึง Han EV ดีไซน์แบบใหม่สอดคล้องกับแนวโน้มการออกแบบยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขัน ในตลาดส่งออก ความดุดัน ความสปอร์ต เส้นสายที่ซับซ้อน และความรู้สึกของรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่แตกต่างจากรุ่น Dynasty เป็นแบบอย่างตามหลักอากาศพลศาสตร์และมีประสิทธิภาพที่สุดในกลุ่มยานยนต์ ซีรีส์ Ocean ของ BYD

BYD Seal มาพร้อมเบาะที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร 5 คน เบาะนั่งแบบสปอร์ตสีขาว บุภายในด้วยฟองน้ำอย่างนุ่ม มีพนักพิงด้านข้างที่กว้างขวางที่ด้านหน้า เบาะนั่งอันหรูหราที่ด้านหลัง เบาะโทนสีอ่อน ครอบงำงานตกแต่งภายในของ Seal จนทำให้ห้องโดยสารสว่างและโปร่งโล่ง งานดีไซน์ภายใน สอดคล้องกับธีม Ocean ของโมเดล เบาะนั่งสีขาวสลับสีน้ำเงินอ่อนเพื่อลุคที่ตัดกัน ที่จับประตูฝังอยู่กับบานประตูอย่างแน่บสนิท หนังอัลคันทาร่าเพิ่มความหรูหราให้กับห้องโดยสาร สามารถโหลดสัมภาระลงในพื้นที่เก็บสัมภาระส่วนท้ายพร้อมฝาท้ายไฟฟ้า

ซีดานไฟฟ้า BYD Seal มีการตกแต่งภายในที่เรียบง่ายด้วยสีฟ้า องค์ประกอบต่างๆ แผงหน้าปัดที่โฉบเฉี่ยว พร้อมช่องแอร์ที่กว้างและโค้งมน แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาดใหญ่ คอนโซลกลางแบบสะพาน พร้อมปุ่มช่วยจอด และส่วนควบคุมการขับเคลื่อนอื่นๆ หลังคากระจกแบบพาโนรามา กาบบันไดข้างแบรนด์ BYD, แผ่นชาร์จไร้สาย Qi และระบบเสียง Dynadash เป็นอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร Seal มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว แบบแท็บเล็ตที่เอียงได้ คนขับสามารถเปลี่ยนการวางแนวจากแนวนอนเป็นแนวตั้งได้ตามความต้องการ ระบบที่รองรับ 5G นั้นน่าจะรวมถึงระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink ของ BYD ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันที่เหมือนสมาร์ทโฟนในระบบสาระบันเทิงได้ BYD ยังไม่ได้เปิดเผยรายการคุณสมบัติทั้งหมดบนเว็บไซต์สำหรับผู้บริโภคชาวจีน

BYD e-Platform 3.0 รองรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า แบบขับเคลื่อนล้อหลัง RWD และขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แพลตฟอร์ม 3.0 มีขนาดของแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน และทำระยะทางได้ไกลมากขึ้น ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ที่ด้านหน้าดับเบิลวิชโบน และระบบกันสะเทือนแบบอิสระ Five-link (มัลติลิงก์) ที่ด้านหลัง แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า Han EV แต่ฐานล้อมีขนาดความยาวเท่ากัน Seal เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของ BYD ที่ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB (cell-to-body) การรวมแบตเตอรี่เข้ากับตัวรถ ช่วยให้สามารถใช้โครงสร้างแบบแซนด์วิช ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้สำหรับชุดแบตเตอรี่ในรถยนต์ ฝาครอบด้านบนของชุดแบตเตอรี่ ถูกรวมเข้ากับพื้นตัวรถ CTB ส่งผลให้โครงสร้างมีความแข็งแรง ต้านทานแรงบิดตัวเพิ่มขึ้น 100% หรือ -40,000+ Nm/°

BYD Seal ในประเทศจีนมีทางเลือกความจุของแบตเตอรี่สองแบบ: 61.4 kWh และ 82.5 kWh พร้อมระบบชาร์จเร็ว (DC) 110 กิโลวัตต์ และ 150 กิโลวัตต์ ระยะเวลาในการชาร์จไฟจนได้ไฟใส่แบตฯ 30-80% อาจใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที


ชุดแบตเตอรี่ขนาด 61.4 kWh มาใน Seal รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD แบบมอเตอร์เดี่ยวขนาด 150 กิโลวัตต์ (201 แรงม้า) ทำระยะทางไกล 550 กิโลเมตร ระบบชาร์จเร็ว DC 110 กิโลวัตต์

ชุดแบตเตอรี่ 82.5 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 700 กิโลเมตร รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD แบบมอเตอร์เดี่ยว กำลัง 230 กิโลวัตต์ (308 แรงม้า)

รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบบมอเตอร์คู่ กำลัง 390 กิโลวัตต์ (523 แรงม้า) มาพร้อม DC ชาร์จอย่างรวดเร็วได้ถึง 150 กิโลวัตต์ โดยใช้เวลาเติมไฟ 30-80% น้อยกว่า 30 นาที อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม.ใน 3.8 วินาที ชาร์จเต็มทำระยะทางได้ไกล 650 กิโลเมตร 

Seal เป็นรถยนต์คันแรกของ BYD ที่มีเทคโนโลยี iTAC ใหม่ ย่อมาจาก "Intelligence Torque Adaption Control" ระบบนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีแรงฉุดลากมากกว่า ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวแบบเดิมที่ใช้เซนเซอร์ล้อ เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงความเร็วและเบรกเพื่อเข้าไปแทรกแซงเมื่อจำเป็น เซนเซอร์ความเร็วล้อ แบ่งแต่ละรอบของปลายล้อออกเป็น 32 หรือ 48 บิตในการรับข้อมูล จาก iTAC ปลายล้อของแต่ละเทิร์นสามารถแบ่งออกเป็น 4,096 บิต ซึ่งหมายความว่าความเร็วและความแม่นยำของข้อมูลที่รวบรวมนั้นสูงขึ้นอย่างมาก iTAC สามารถปรับการส่งแรงบิดของมอเตอร์ตามเวลาจริงได้ตามต้องการ มันสามารถถ่ายโอนแรงบิดบางส่วนหรือทั้งหมด ไปยังล้อด้วยการยึดเกาะที่มากขึ้น และหลีกเลี่ยงการทำให้รถต้องถูกแทรกแซงด้วยระบบรักษาเสถียรภาพ ESP เมื่อ BYD ทดสอบ Seal บนหิมะ พบว่าระบบ iTAC สามารถเร่งความเร็วบนถนนที่ลื่นไถลได้เร็วกว่านอกจากนี้ เมื่อสูญเสียการทรงตัว คนขับก็ไม่ต้องการการแก้ไขทิศทางของรถมากเกินไป

BYD Seal จะถูกผลิตขึ้นที่โรงงาน Changzhou ในประเทศจีน โดยมีกำลังการผลิต 5,000 คันต่อเดือน หรือ 60,000 คันต่อปี ในขั้นต้น BYD ได้รับคำสั่งซื้อ Seal ล่วงหน้า 22,637 คัน ในเวลาเพียงหกชั่วโมงที่เปิดรับจองในประเทศจีน และหากความต้องการยังคงเพิ่มขึ้น BYD อาจต้องขยายกำลังการผลิตอย่างเร่งด่วน โรงงานแห่งนี้สามารถผลิตรถยนต์ได้ 400,000 คันต่อปี ในขณะที่ทำงานเต็มกำลัง BYD ยังมีโรงงานผลิตอีกสามแห่งในเมืองเซินเจิ้น ฉางซา และเส้ากวน Seal จะสร้างกระแสในกลุ่มรถยนต์ซีดานไฟฟ้าขนาดกลางที่กำลังได้รับความนิยมในจีน ตามรายงานของ CnEVPost ทีมนักวิเคราะห์ที่นำโดย Xu Huixiong ที่ Essence Securities กล่าวว่า Seal น่าจะเป็นการเปิดตัวของรถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD ที่มีความสำคัญ โดยอาจทำยอดขายได้ 30,000 คันต่อเดือน โดยมีข้อได้เปรียบมากกว่า Tesla Model 3

แบรนด์ BYD เข้าสู่ยุโรปผ่านทางนอร์เวย์ในปี พ.ศ. 2564 โดยเปิดตัวรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรุ่นแรก BYD Tang EV ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนแบรนด์นี้ ได้ขยายขอบเขตการขายไปทั่วโลก เพื่อรวม BYD Yuan Plus (Atto 3) และ Seal เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของสหภาพยุโรปภายในสองปี.