การพักผ่อนหย่อนใจของเหล่าผู้มีอันจะเหลือกินนอกเหนือไปจากของเล่นต่างๆ เช่น รถยนต์ซุปเปอร์คาร์ความเร็วสูง เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว บ้านพักต่างอากาศสุดหรูแล้ว ยังมีอุปกรณ์ในการขับเคลื่อนทางน้ำอีกชนิดหนึ่งซึ่งมีสมรรถนะสูงสุดเท่าที่อำนาจของเงินจะดลบันดาล อุปกรณ์ดังกล่าวนั่นก็คือเรือยอร์ชหรือเรือสำราญ ที่ถูกเนรมิตขึ้นเพื่อสนองความต้องการในการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากธรรมดานั่นเอง การเดินทางท่องเที่ยวไปในมหาสมุทรอันกว้างไกลกับสุดยอดเรือยอร์ชทั้ง 6 ลำของอภิมหาเศรษฐี ที่แต่ละลำมีความแตกต่างกันทั้งในด้านของรูปแบบ สมรรถนะในการขับเคลื่อน และราคาที่ชวนให้ขนลุก




Velvet 35

นี่คืออภิมหาเครื่องจักรทางน้ำ ที่ใช้ในการเดินทางเพื่อพักผ่อนหย่อนใจของบรรดาเศรษฐีเงินถุงเงินถัง เรืือยอร์ชสุดหรูอลังการลำนี้ ผลิตโดยบริษัท  Tecnomar S.r.L ซึ่งเป็นอู่ต่อเรือสำราญหรูหรา ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี ลำตัวมีความยาว 112.2 ฟุต กว้าง 24.62 ฟุต กินน้ำลึก 6.89 ฟุต มีชั้นถึงสองชั้น และมีตำแหน่งในการควบคุมพังงา หรือ Cockpit ซึ่งเป็นสะพานเดินเรือในแบบปิด ที่มีตำแหน่งอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางของตัวเรือ ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ในการนำร่องแบบดิจิตอล ระบบ Auto Pilot และระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม เรดาร์รุ่นก้าวหน้า โซน่าและซาว์เดอร์ครบครัน ในส่วนของห้องภายในเคบินจะประกอบไปด้วยส่วนเปิดโล่งด้านท้าย ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับการดินเนอร์หรือเตรียมอาหาร เปิดประตูเคบินเข้ามาด้านใน จะพบกับห้องรับแขก ที่ใช้ฟอร์นิเจอร์ในการตกแต่งจากดีไซน์เนอร์ชื่อดังของอิตาลี ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้อง มีห้องน้ำพร้อมเครื่องสุขภัณฑ์ส่วนตัวทั้งสองห้อง และห้องนอนขนาดเล็กอีกสองห้อง ทุกห้องภายในเคบิน ติดตั้งระบบปรับอากาศ และระบบให้ความบันเทิงเต็มรูปแบบ เช่น เครื่องเสียงชั้นดีจาก McIntosh พร้อมระบบจอภาพ LCD-DVD ส่วนห้องพักของลูกเรือจะถูกแยกออกไปอยู่ในชั้นล่างสุด

...

เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล สองเครื่องของ MTU Marine Diesel TE ให้กำลังสูงสุดถึง 5050 แรงม้า ความเร็วเดินทางประมาณ 25 น็อต มีความเร็วสูงสุดบนผิวน้ำถึง 31 น็อต และมีรัศมีทำการไกลถึง 500 ไมล์ทะเล บรรจุเชื้อเพลิงในถังได้สูงสุด 10,000 ลิตร บรรทุกน้ำจืดได้ถึง 2,000 ลิตร ในราคาประมาณ 15.8 ล้านยูโร




Wally Power 118

เรือสำราญของเหล่าคนมีอันจะเหลือกิน ของบริษัทเรือยอร์ชในโมนาโค ฝรั่งเศส ที่มีการออกแบบแปลกประหลาด ด้วยการนำรูปทรงที่คล้ายกับเครื่องบินรบล่องหน หรือ Stealth Design มาใช้ เรือ Wally Power 118 เต็มไปด้วยเหลี่ยมมุมทั่วทั้งลำ ทำให้มันมีพื้นที่ในการสะท้อนเรดาร์ตรวจจับน้อยลงกว่าลำตัวของเรือยอร์ชแบบปกติ (ไม่ทราบว่าจะทำไปเพื่ออะไร) ด้วยการออกแบบตัวเรือในลักษณ์ดังกล่าว ทำให้เรือ Wally Power 118 ได้รับรางวัลการออกแบบ Millennium Yacht Design Award และผ่านการทดสอบการแล่นด้วยความเร็วสูงบนผิวน้ำ ในสถาบันการทดสอบของมหาวิทยาลัยแห่ง Goteborg ประเทศ Sweden

ระบบควบคุมภายในตัวเรือทั้งหมด ก็ผ่านการทดสอบอย่างหนักจาก Ferrari facility ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเมือง Maranello ประเทศ Italy ความยาวทั้งลำเรือ ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายยาวถึง 118 ฟุต เครื่องยนต์ gas turbines generator ที่ใช้งานในอากาศยานจำนวนสามเครื่อง ให้แรงขับประมาณ 17,000 แรงม้า ในระบบ driving water jets ซึ่งถือได้ว่าเป็นอภิมหาเรือยอร์ชที่มีกำลังและมีความเร็วสูงติดอันดับโลก

แรงม้าที่มากมายมหาศาล ใช้ในการขับเคลื่อนลำเรือของ Wally Power 118 ที่มีน้ำหนักถึง 95 ตันให้สามารถวิ่งไปบนผิวน้ำด้วยความเร็วกว่า 75 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำให้มันกลายสภาพมาเป็นเครื่องจักรบนผิวน้ำ ที่มีความเร็วมากกว่าเรือเร็วโจมตีของกองทัพเรือทั่วโลก บนตัวเลขกว่า 70 น็อตต่อชั่วโมง ทำให้มันขึ้นถึงจุดสูงสุดของความเร็วในประเภทเรือยอร์ชที่เรือใหญ่ขนาดนี้จะสามารถทำได้

ภายในเคบินตกแต่งอย่างหรูหราด้วยสไตล์สีโทนดำ ขาวบวกงานไม้สีโทนอ่อนชั้นดี หนังแท้เกรดสูง และอลูมิเนียม ห้่องส่วนกลางของลำเรือ เป็นห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ที่ใช้กระจกกันแดดสีเข้ม เป็นหลังคาแบบ Panorama ที่ผู้โดยสารไปกับเรือลำนี้ สามารถเพิ่มมุมมองภายนอกได้ 360 องศารอบตัว ส่วนสะพานเดินเรือหรือห้องบังคับการ จะอยู่ตรงกึ่งกลางของตัวเรือ เพื่อความเสถียรยามแล่นด้วยความเร็ว ระบบเดินเรือที่ทันสมัย พร้อมพรั่งไปด้วยเรดาร์ทั้งบนผิวน้ำและใต้น้ำ ระบบสื่อสารทางไกลด้วยดาวเทียม ระบบนำร่องแบบดิจิตอล ห้องนอนขนาดใหญ่ก็ยังใช้กระจกเป็นวัสดุที่ใช้ประกอบกันขึ้น เป็นทั้งผนังและเพดานติดตั้งระบบปรับอากาศทั่วทั้งลำ ในราคาประมาณ 17.7 ล้านยูโร




Maltese Falcon

ที่สุดของเรือยอร์ช ประเภทเรือใบสามเสา ต้องยกให้กับเจ้า Maltese Falcon เรือใบสามเสาขนาดยักษ์สุดไฮเทค ติดเครื่องยนต์ความยาว 289 ฟุต เรือ Maltese Falcon เป็นซูเปอร์ยอชต์แบบมีใบเรือ ทำจากวัสดุสังเคราะน้ำหนักเบาชนิดพิเศษ ขนาดความยาวของตัวเรือ 289 ฟุต สร้างโดย Perini Navi ในปี ค.ศ. 2006 สามารถขับเคลื่อนได้ทั้งแบบกางใบเรือ เพื่อนำพลังงานลมมาขับเคลื่อน และแบบใช้เครื่องยนต์ ระบบควบคุมทั้งลำด้วยคอมพิวเตอร์ สามารถแล่นข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกได้ภายในเวลาเพียง 10 วัน เรือยอชต์สามเสาลำนี้ ได้รับการตกแต่งภายในอย่างหรูหรา สไตล์คอนเทมโพรารี่ โดย Ken Freivokh สถาปนิคนักออกแบบและตกแต่งระดับโลก

ภายในเคบินประกอบด้วย มาสเตอร์รูม หรือห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องพักสำหรับแขก 5 ห้อง และห้องลูกเรืออีก 8 ห้อง ทุกห้องล้วนได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และความบันเทิงต่างๆ อย่างครบครัน อาทิ ทีวีจอพลาสมาขนาด 42 และ 50 นิ้ว ที่สามารถรับชมรายการต่างๆ ผ่านทางระบบดาวเทียม เครื่องเล่น DVD และเครื่องเสียงชั้นเยี่ยมจาก Bang & Olufsen ทำให้มันขึ้นทำเนียบของ เรือยอชต์สุดหรูลำใหญ่ที่สุดในโลก ออกแบบดีที่สุดในโลก และมีราคาแพงที่สุดในโลก

...

เรือ Maltese Falcon ถูกนำมาประกาศขายเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2007 ในราคา 5,400 ล้านบาท แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำต่อเนื่องจากปี 2008-2009 จึงยังขายไม่ได้ หลังจากนั้นเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมของปีที่ผ่านมา เรือลำหรูแสนแพงนี้ได้ถูกนำมาประกาศขายอีกครั้งทางเว็บไซต์เจมส์ลิสต์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการจำหน่ายสินค้าหรูหราสำหรับบรรดาเศรษฐี โดยเสนอราคาลดลงอยู่ที่ 4,600 ล้านบาท แต่ก็ยังขายไม่ได้ ต่อมาทางบริษัทผู้ผลิตเรือ Maltese Falcon ก็ลดราคาลงอีกครั้ง ซึ่งเป็นการลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ครั้งสุดท้าย เหลือเพียง 3,400 ล้านบาท (70 ล้านยูโร) ก่อนที่จะถูกซื้อไปเมื่อต้นเดือนมกราคม 2010




Couach Yachts 3700 Fly

ซุปเปอร์ยอร์ชขนาดกลาง ความยาว 120.73 ฟุต จากบริษัท  Couach Yachts เป็นพาหนะสุดหรูที่ใช้โทนสีดำรอบลำเรือ และใช้โทนสีขาวในส่วนของเคบินทั้งหมด ทั่วทั้งลำติดตั้งระบบควบคุม Home Automation Management ที่ใช้งานแบบภายในบ้านพักอาศัย ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระบบไฟส่องสว่าง และเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่น TV-DVD ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง หรือสวิชท์แบบ On-Board Technology ระบบเครื่องเสียงและลำโพงรอบลำเรือ

ภายในเคบินติดตั้งระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน มีห้องนอนถึง 4 ห้อง ประกอบไปด้วยห้องนอนใหญ่ 2 ห้อง และห้องนอนขนาดเล็กอีก 2 ห้อง การบังคับควบคุมแบ่งออกเป็นสองตำแหน่งสามารถขับได้ทั้งบนดาดฟ้าด้านท้ายและในเคบิน ด้วยระบบคอลโทรลที่ทันสมัย มีทั้งระบบนำร่องด้วยดาวเทียม ระบบสื่อสารทางไกล เรดาร์และโซน่า พร้อมจอแสดงผล LED Couach Yachts 3700 Fly มีต้นกำลังเป็นเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบดีเซล 2 เครื่อง ให้กำลังรวมกันกว่า 5,400 แรงม้า พร้อมด้วยเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าที่ทำงานแยกกันขนาด 60 แรงม้า อีก1 เครื่อง สามารถแล่นในขณะที่มีระวางการบรรทุกสูงสุดได้ถึง 30 น็อตต่อชั่วโมง ในการใช้ความเร็วเดินทางแบบปกติที่ 12 น็อตต่อชั่วโมง เรือ Couach Yachts 3700 Fly มีพิสัยในการใช้งานได้ระยะทางไกลกว่า 1,900 ไมล์ทะเล สามารถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 22,000 ลิตร น้ำจืดอีก 3,000 ลิตร ในราคาประมาณ 12.8 ล้านเหรียญยูเอส



Yachts Plus 40

เรือยอร์ชขนาดยักษ์ในรูปแบบของเรือสำรวจสมุทรศาสตร์แห่งอนาคตลำนี้ ผลิตโดยบริษัท Ocean Emerald ในอิตาลี ความยาวของลำตัวเรือ 132 ฟุต โครงของตัวเรือสร้างจากโลหะประเภทสแตนเลสและอลูมินัมอัลลอย ไฟเบอร์กลาส และคาร์บอนไฟเบอร์ เพียบพร้อมไปด้วยความหรูหราสะดวกสบาย เคบินที่ได้รับการตกแต่งมาอย่างเริ่ดหรูอลังการ มีชั้นทั้งหมดถึงสี่ชั้นตั้งแต่ชั้นดาดฟ้าไปจนถึงชั้นล่างสุดที่ติดตั้งเครื่องยนต์

...

ห้องรับแขกขนาดยักษ์ บวกด้วยห้องนอนขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัว 2 ห้อง และห้องนอนขนาดกลางที่ตกแต่งอย่างดีพร้อมห้องน้ำอีก 3 ห้อง สามารถรองรับผู้โดยสารระดับ VIP ได้ 12 คน คล้ายโรงแรมลอยน้ำสุดหรู โดยมีห้องพักของลูกเรือทั้ง 7 คน แยกอยู่ในส่วนชั้นสอง

เรือสำราญ Yachts Plus 40 ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลของ Caterpillar รุ่น C32 engines ถึงสองเครื่อง ทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 17.5 น็อตต่อชั่วโมง มีพิสัยในการเดินทางด้วยความเร็วปกติที่ 12 น็อตต่อชั่วโมง สามารถแล่นไปได้ในระยะทางไกลถึง 2,400 ไมล์ทะเล เรือลำนี้ออกแบบและสร้างสำหรับให้ลูกค้ามหาเศรษฐี เช่าซื้อไว้เพืื่อการเดินทางท่องเที่ยวในมหาสมุทร โดยคิดราคาค่าเช่าต่อเดือนที่ 1.8 ล้านยูโร/30วัน




Benetti Diane Luxury

เรือสำราญสุดหรูลำนี้ สร้างจากบริษัทเรือยอร์ชชั้นเยี่ยมของโลกนาม Azimut Benetti ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี เรือยอร์ช Benetti Diane Luxury ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต เพื่อสร้างให้มันเป็นหนึ่งในบรรดาเรือยอร์ชที่ดีที่สุด และมีระบบควบคุมทั่วทั้งลำทันสมัยที่สุด ลูกค้ามหาเศรษฐีที่ซื้อเรือลำนี้ สามารถเลือกวัสดุและการตกแต่งภายใน ที่มีแบบแปลนให้เลือกมากมาย

โครงสร้างและการออกแบบภายนอกจากวิศวกรของบริษัท Azimut ชื่อ Stefano Natucci ใช้วัสดุประเภทอลูมินัมอัลลอย มาขึ้นรูปเป็นโครงเรือทั้งลำ ความยาวตลอดลำตัวเรืออยู่ที่ 141.8 ฟุต กว้าง 30.45 ฟุต และกินน้ำลึก 7.55 ฟุต บรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน พร้อมลูกเรืออีก 8 คน ภายในมีห้องนอนขนาดใหญ่ 1 ห้องพร้อมห้องน้ำภายใน ห้องนอนขนาดกลางอีก 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัวและห้องนอนเตียงเดี่ยวขนาดเล็กอีก 2 ห้อง ตกแต่งอย่างอลังการด้วยวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ชั้นสูง ส่วนห้องพักของลูกเรือแยกออกไปอยู่ในบริเวณส่วนหัวชั้นล่าง

...

Benetti Diane Luxury ติดตั้งระบบกันโคลงจากคลื่นทะเล Naiad Marine Stabilization ซึ่งมีการทำงานในระหว่างที่เรือแล่นฝ่าคลื่นลมและทำให้ตัวเรือมีอาการโคลงลดลง เพิ่มความเสถียรให้กับเรือในขณะที่แล่นไปบนผิวน้ำ ระบบปรับอากาศภายในเคบินแบบ Entire Yacht with Individual Cabins Controls ทั่วทั้งลำเพื่อความสะดวกสบาย เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบดีเซล MTU 16V 4000 M90 สองเครื่องยนต์ ให้กำลัง 5,400 แรงม้า พร้อมด้วยเครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้าแบบเจนเนอร์เรเตอร์ 80 แรงม้า อีกหนึ่งเครื่อง

เรือยอร์ช Benetti Diane Luxury มีตำแหน่ง หรือ Cockpit ในการควบคุมตัวเรือถึงสองตำแหน่ง จุดแรกอยู่บนส่วนท้ายของชั้นดาดฟ้าที่เปิดโล่ง จุดที่สองสามารถย้ายการควบคุมมาที่ห้องควบคุมส่วนกลางที่ปิดทึบยามเกิดพายุ หรือสภาพอากาศไม่ดี ระบบที่ใช้งานในการนำร่องมีความทันสมัยเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์เดินเรือแบบดิจิตอลคอนโทรล จอแอลซีดีแจ้งเตือนต่างๆ 6 จอ ระบบนำร่องอัตโนมัติที่ทำงานควบคู่ไปกับระบบดาวเทียม กำหนดพิกัดที่แม่นยำ วิทยุ และโทรศัทพ์ดาวเทียม เรดาร์สามมิติที่แจ้งเตือนทั้งทิศทาง ความเร็ว และความลึกของระดับน้ำทะเลในขณะที่เรือแล่นผ่าน

นอกจากนั้น ยังมีเรือเล็กที่สามารถบรรทุกไปได้พร้อมกับเรือใหญ่ ประกอบไปด้วยเรือเร็วขนาดเล็ก Novurania CL 600 tender เครื่องยนต์อินบอรด์ท 190 แรงม้า เรือเจ็ทสกี Kawasaki 800 SXR เครื่องยนต์ 800cc สำหรับเศรษฐีที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำ ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าเช่าต่อ 1 อาทิตย์ประมาณ 135,000 ยูโร หรือถ้าอยากจะครอบครอง ก็คงต้องถอนขนหน้าแข้งสัก 27 ล้านยูโร เพื่อการเป็นเจ้าของเรือ Benetti Diane Luxury อย่างเต็มภาคภูมิ

arcom roumsuwan
E-Mail : chang.arcom@thairath.co.th

Photo By
www.yachtplus.co.uk
www.asiayachting.net