เพื่อตอกย้ำความมั่นใจทั้งแก่ลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าในอนาคต ล่าสุด ค่ายซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้จัดแถลงข่าวด่วนถึงแผนดำเนินธุรกิจในไทย พร้อมรุกเข้มเต็มร้อย
แม้จะมีแผนปิดโรงประกอบรถยนต์ในไทยภายในสิ้นปี 2568 โดยหันมาทำตลาดรถนำเข้าแทน พร้อมมุ่งเสริมความแข็งแกร่งด้านงานบริการ เร่งเดินหน้าขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค
“ทาดาโอะมิ ซูซูกิ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงย้ำถึงการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยว่า จากการที่มาตรการส่งเสริมการลงทุนในการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือ “อีโคคาร์” ของไทย จะสิ้นสุดลงในปีหน้า คือ ปี 2568 ขณะที่สภาวะตลาดรถยนต์ในไทยมีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่หดตัว ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในประเทศพลอยซบเซา สถาบันการเงินเพิ่มการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อรถยนต์
ขณะเดียวกันในตลาดยังมีผู้เล่นรายใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ตลาดรถในประเทศไทยกลับเล็กลง ทำให้เกิดสงครามราคารุนแรง และดูแนวโน้มตลาดในประเทศยังไม่มีวี่แววจะฟื้น
กอปรกับการที่ซูซูกิมีฐานผลิตรถยนต์ที่ใหญ่อยู่ 3 แหล่ง คือ อินโดนีเซีย อินเดีย และญี่ปุ่น จึงได้ตัดสินใจปิดโรงประกอบรถยนต์ในประเทศไทยภายในปีหน้า หันมาเน้นการทำตลาดรถนำเข้าจาก 3 ประเทศดังกล่าวซึ่งจะทำให้ซูซูกิมีรถที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งใช้พลังงานหลากหลายให้สามารถตรงกับความต้องการของตลาด
ทั้งนี้ ซูซูกิยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไปอย่างมั่นคง
ซูซูกิจึงได้เตรียมแผนการดำเนินธุรกิจให้พร้อมรองรับต่อการแข่งขันในอนาคต ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจ “Enhancing the Ability to Compete in the Upcoming Automotive Market เพิ่มขีดความสามารถสู่การแข่งขันในอนาคต” ที่ได้ทำการประกาศแก่ผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
...
โดยแผนการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่จะเกิดขึ้นภายใต้แคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” ซึ่งจะเป็นการยกระดับงานบริการในทุกด้าน เน้นย้ำถึงการดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจ มอบคุณภาพของงานบริการที่ดีที่สุด
ซูซูกิยังเตรียมความพร้อมแข่งขันในตลาดรถยนต์ ด้วยแผนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ 4 รุ่น ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางและนโยบายการรักษาความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยประกอบไปด้วยรถประเภทไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้า 100%
ด้าน “วัลลภ ตรีฤกษ์งาม” รองประธานกรรมการบริหารของซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เพื่อให้ซูซูกิสามารถดำรงอยู่ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในประเทศไทย การปรับปรุงแผนและพัฒนาการดำเนินงานเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ จึงได้มีการนำเสนอแคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” ที่เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับการดูแลลูกค้าด้วยคุณภาพและมาตรฐานของซูซูกิได้อย่างแท้จริง
ประกอบด้วย 1.ฟรี! ค่าแรงเช็กระยะ สูงสุด 3 ปี, 2.ขยายการรับประกันอะไหล่และงานบริการ, 3.บริการพิเศษรถสำรองใช้ระหว่างซ่อม, 4.HELLO SUZUKI APPLICATION ยกระดับงานบริการแบบ S-Solution, 5.ระบบการจัดการอะไหล่ มีเป้าหมายรองรับบริการได้ไม่น้อยกว่า 10 ปี, 6.ศูนย์บริการครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และ 7.ศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังตามมาตรฐานของซูซูกิ
“ขอให้เชื่อมั่นว่า เราจะยังเดินหน้าพัฒนาคุณภาพในทุกด้านอย่างไม่หยุดยั้ง โดยยึดความสำคัญด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขายเป็นที่ตั้ง”.
อัลคาโปน
motorwars@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “มอเตอร์วอร์ส” เพิ่มเติม