การมีรถยนต์สักคันย่อมต้องมาพร้อมการดูแลรักษา หากบ้านไหนมีผู้ชายแน่นอนว่าหน้าที่นี้อาจตกเป็นของหนุ่มๆ ไปโดยปริยาย แต่หากบ้านไหนมีแต่สาวๆ หรือในกรณีที่เราเป็นผู้หญิงสายสตรองที่จำเป็นต้องใช้รถยนต์คนเดียวล่ะ จะทำยังไงดี?

พอพูดถึงการตรวจเช็กสภาพรถยนต์และการซ่อมบำรุง สาวๆ หลายคนอาจมีความรู้สึกไม่มั่นใจว่า เอ๊ะ! เราจะดูแลไหวไหมนะ ลำพังแค่เปิดกระโปรงหน้ารถมาเจอแต่อะไรไม่รู้รุงรังไปหมดก็ใจเสียแล้ว จนพาลทำให้กลัวการขับรถไปเลย แต่งานนี้อย่าเพิ่งกังวลใจไป เพราะการตรวจเช็กสภาพรถเบื้องต้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แม้ไม่มีผู้ชายอยู่ข้างๆ สาวเก่งอย่างเราก็สามารถตรวจเช็กความผิดปกติเบื้องต้นและบำรุงรักษาเล็กๆ น้อยๆ เองได้เหมือนกัน ซึ่งเคล็ดวิชาติดตัวนี้จะช่วยลดทั้งความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น รวมไปถึงช่วยให้เรามีสติ พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนนได้อีกด้วย

เช็กหม้อน้ำ น้ำมันเครื่อง น้ำฉีดกระจก

ส่วนสำคัญที่ทำให้รถขับเคลื่อนได้ไม่ได้มีเพียงเครื่องยนต์กลไกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงของเหลวในระบบต่างๆ ที่มีส่วนช่วยให้รถยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น สำหรับการใช้งานประจำวัน มีของเหลว 3 ชนิดจำเป็นต้องหมั่นเช็กเป็นประจำ ซึ่งแม้แต่สาวๆ ก็สามารถตรวจสอบความผิดปกติได้อย่างง่ายดาย ประกอบไปด้วย

“น้ำยาหล่อเย็น” สารเหลวมีสีที่บรรจุในหม้อน้ำ คอยทำหน้าที่ระบายความร้อนของเครื่องยนต์ หากมีปริมาณน้ำในหม้อน้ำไม่เพียงพอ หรือน้ำยาเสื่อมประสิทธิภาพ ก็อาจทำให้รถยนต์หยุดทำงานได้ วิธีการตรวจเช็กสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงมองหาหม้อน้ำที่อยู่บริเวณเครื่องยนต์ จากนั้นสังเกตว่าปริมาณน้ำอยู่ในระดับใด หากต่ำกว่าขีด LOW ควรรีบเติมน้ำยาหล่อเย็นให้ถึงขีดบน หรือ FULL หรือในกรณีน้ำยามีสีสนิม ก็ควรเข้าศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นโดยด่วน ทั้งนี้ ก่อนตรวจสอบหม้อน้ำต้องดับเครื่องและรอให้เครื่องยนต์หายร้อนก่อน เพื่อความปลอดภัย

“น้ำมันเครื่อง” เป็นของเหลวที่มีหน้าที่ช่วยหล่อลื่น ลดการเสียดสี ป้องกันสนิม ลดการกัดกร่อน ทำความสะอาดเขม่าที่อุดตันในเครื่องยนต์ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรหมั่นตรวจสอบ ซึ่งโดยปกติจะมีรอบการเปลี่ยนอยู่ที่ทุกๆ 6 เดือน หรือระยะการขับขี่ 8,000-10,000 กิโลเมตร โดยการตรวจเช็กสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงเปิดฝากระโปรงหน้าแล้วมองหาก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นวงแหวน จากนั้นดึงขึ้นมาเช็ดด้วยผ้าสะอาด จากนั้นใส่กลับลงไปแล้วดึงขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อดูว่าน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับใด หากต่ำกว่า L ให้ทำการเติมให้ได้ระดับปริมาณที่เหมาะสม คือระหว่างขีด F และ L ไม่ควรเติมมากเกินไป นอกจากนี้ยังควรสังเกตสีว่าใสหรือไม่ รวมไปถึงความหนืดว่ามากเกินไปหรือเปล่า หากพบว่าผิดปกติควรรีบเปลี่ยนทันที

“น้ำฉีดกระจก” นับเป็นอีกหนึ่งของเหลวที่ควรตรวจเช็กให้พร้อมใช้งานเสมอ เพราะคราบสกปรกต่างๆ อาจบดบังวิสัยทัศน์จนทำให้การขับขี่ไม่ปลอดภัย โดยจุดเติมน้ำฉีดกระจกจะมีสัญลักษณ์ระบุไว้ชัดเจน เพียงเปิดฝาออกแล้วเติมน้ำสะอาด หรืออาจจะเลือกใช้น้ำยาที่มีวางขายทั่วไปก็ได้เช่นกัน

ตรวจสอบระบบเบรก

เบรกเป็นอีกหนึ่งระบบสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยโดยตรง จึงต้องหมั่นตรวจเช็กให้อยู่ในสภาพปกติเสมอ อย่างไรก็ตาม กลไกส่วนมากของระบบเบรกอาจจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเป็นคนตรวจเช็ก เช่น น้ำมันเบรก หรือท่อและสายต่างๆ ซึ่งโดยทั่วไปควรนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการเป็นประจำทุกปีเพื่อเช็กสภาพ อย่างไรก็จะตาม จะมีในส่วนของผ้าเบรกที่ผู้ใช้รถทั่วไป หรือสาวๆ สามารถตรวจสอบความผิดปกติได้ด้วยตนเองโดยการทดลองเหยียบเบรก หากรู้สึกว่าแป้นเหยียบต่ำกว่าปกติ หรือมีเสียงเหมือนการเสียดสี นั่นแปลว่ามีโอกาสสูงมากที่ผ้าเบรกจะเหลือน้อยหรือใกล้เสื่อมสภาพ นอกจากนี้ในการขับขี่ทั่วไปควรระมัดระวัง ไม่ควรวางสิ่งของหรือถอดรองเท้าไว้ใต้แป้นเบรก เนื่องจากสิ่งของหรือรองเท้าอาจขัดเบรกได้ เพื่อความปลอดภัยในชั่วโมงฉุกเฉิน

เช็กแบตเตอรี่

แบตเตอรี่คือแหล่งจ่ายพลังหลักของรถยนต์ หากละเลยอาจทำให้เกิดปัญหาสตาร์ทไม่ติดและอื่นๆ จึงควรตรวจสอบทุกครั้งก่อนเดินทางไกล หรือหากใช้งานเกินกว่า 1 ปี ก็ควรหมั่นเช็กสภาพเช่นกัน โดยวิธีการตรวจเช็กความปกติของแบตเตอรี่สามารถทำได้ง่ายๆ กรณีแบตเตอรี่น้ำให้คอยสังเกตระดับน้ำกลั่น หากต่ำกว่าระดับ Lower ควรรีบเติมทันที โดยให้อยู่ระหว่างเส้น Lower กับ Upper หรือในกรณีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มักจะมีการใช้งานแบตเตอรี่แบบแห้งเป็นหลัก ก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ เช่นกันคือการสังเกตที่ “ตาแมว” ด้านบนแบตเตอรี่ ซึ่งจะระบุไว้ชัดเจนว่าสีต่างๆ หมายถึงสถานะใด โดยทั่วไปสีเขียวคือปกติ หากตาแมวเป็นสีอื่นให้รีบตรวจสอบคำอธิบายที่ปรากฏบนแบตเตอรี่

ไม่ละเลยความผิดปกติที่มาตรหน้าจอ

ในการขับขี่ทั่วไปเราอาจสังเกตหน้าปัดแค่เกจ์วัดความเร็วและปริมาณน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ส่วนนี้เป็นจุดที่เราควรหมั่นสังเกตบ่อยๆ เพราะเมื่อรถยนต์มีระบบใดผิดปกติ หรือถึงเวลาที่ควรเข้าศูนย์เช็กสภาพ จะมีไฟสัญลักษณ์ปรากฏอย่างชัดเจน โดยรถแต่ละรุ่นอาจมีรูปแบบการแสดงไฟต่างๆ ไม่เหมือนกัน ผู้ใช้รถควรตรวจสอบคู่มือขับขี่อย่างละเอียด เพื่อจะได้ทราบกรณีมีสัญลักษณ์ไม่คุ้นตาปรากฏขึ้น หรือหากไม่แน่ใจ การติดต่อศูนย์บริการเพื่อจองคิวนำรถเข้าเช็กสภาพเต็มรูปแบบก็อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

เช็กลมยางและสภาพยางรถยนต์

มาที่หมวดสุดท้ายคือส่วนของยางรถยนต์ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ามีความสำคัญลำดับต้นๆ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นส่วนที่ผู้ขับขี่อาจมองข้ามได้ง่ายที่สุด รู้ตัวอีกทีคือตอนเกิดอุบัติเหตุไปแล้ว โดยมี 3 ส่วนที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ ประกอบด้วย

“ลมยาง” ควรตรวจเช็กอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรือทุกครั้งที่ต้องเดินทางไกล หากพบว่าลมอ่อนควรหาจุดเติมทันที เพื่อป้องกันยางเสื่อมสภาพ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจเช็กและเติมลมยางในขณะที่ยางยังเย็นอยู่ หรือไม่มีความร้อนสูงเกินไปเพื่อความปลอดภัย โดยสามารถเติมลมยางได้ที่สถานีบริการน้ำมัน หรือศูนย์บริการรถยนต์ต่างๆ

“ความลึกดอกยาง” เป็นอีกจุดที่ต้องตรวจสอบเป็นประจำ เพราะดอกยางส่งผลโดยตรงต่อการทรงตัวของรถยนต์ โดยเฉพาะทางโค้ง หรือวันที่ถนนเปียก วิธีการตรวจสอบว่าดอกยางยังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ คือการใช้เครื่องมือที่วัดความลึกร่องดอกยาง หรือหากว่าไม่มีมีเครื่องมือดังกล่าว ก็สามาถใช้เครื่องมือวัดระยะต่างๆ โดยจิ้มอุปกรณ์ไปในร่องยาง วัดเทียบกับความสูงของยางด้านบนสุด หากพบว่าต่ำกว่า 2 มม. ควรรีบเปลี่ยนโดยด่วน

“รอยแตกและความเสียหายของยาง” ส่วนนี้สามารถสังเกตได้ง่าย คือการดูที่สภาพโดยรวมของยางว่ามีร่องรอยแตกร้าว บวม ปูด หรือแก้มยางแตกหรือไม่ ในกรณีที่ยางเสียหายมาก หรืออายุการใช้งานนานเกินไปแล้ว การเปลี่ยนยางใหม่อาจจะตอบโจทย์มากกว่า เพื่อความปลอดภัยของเราเองและผู้ร่วมใช้ถนน

เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยาง ปัญหาที่หลายคนต้องเจอไม่เฉพาะแค่กับผู้หญิง คือการไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้ยางแบบไหน และอาจคิดว่ายางแต่ละแบบก็คล้ายๆ กัน แต่แท้จริงแล้วยางรถยนต์มีการออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่แตกต่าง เพื่อให้การขับขี่ที่ตอบโจทย์และปลอดภัยที่สุด อาทิ ยางเกรดพรีเมียมจากแบรนด์ระดับโลก “Bridgestone” ที่มียางรถยนต์คุณภาพให้เลือกถึง 5 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสาวนักขับสไตล์ไหน ก็ตอบโจทย์ตรงใจได้ทั้งหมด

TURANZA T005A

เรียกได้ว่าเป็นนิยามใหม่ของความนุ่ม เงียบ อย่างแท้จริง สำหรับ TURANZA T005A ยางสุดพรีเมียมที่มีจุดเด่นเรื่องความนิ่ง ผู้ขับขี่จะพบความนุ่มนวลขั้นสุดทั้งระหว่างขับขี่ทั่วไปและจังหวะเข้าโค้ง ด้วยโครงสร้างแก้มยางที่แข็งแรงพร้อมรับแรงกระแทก กระจายแรงกดสม่ำเสมอ นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติในการยึดเกาะถนนเป็นเลิศ ยังช่วยให้ปลอดภัยได้ยิ่งขึ้นเมื่อพื้นถนนเปียก TURANZA T005A จึงเป็นยางที่เหมาะกับผู้ชื่นชอบบรรยากาศการขับขี่ที่พรีเมียมเหนือชั้น ทั้งเงียบ ปลอดภัย และนุ่มสบาย

POTENZA Adrenalin RE004

หากมองหายางที่ตอบโจทย์ความเร็วแรง มั่นใจได้ทุกโค้ง POTENZA Adrenalin RE004 พร้อมจะช่วยให้คุณบรรลุทุกความท้าทายอย่างมั่นใจ ด้วยนวัตกรรมการออกแบบร่องดอกยางที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ จัดเต็มทั้งความสวยโดดเด่น อัดแน่น DNA Adrenalin และยังมาพร้อมฟีเจอร์กระจายแรงกดบริเวณหน้าสัมผัสของยางกับพื้นถนนอย่างสม่ำเสมอ จึงช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ยึดเกาะติดหนึบทุกโค้ง ตอบโจทย์ทั้งพื้นเปียกและแห้ง ยาง POTENZA Adrenalin RE004 จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนนิยมความเร็ว สายสตรองที่ขับขี่อย่างมั่นใจ และนักแต่งรถที่มองหายางที่จะเผยความสปอร์ตในตัวคุณ

ECOPIA EP300

ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีเซฟค่าใช้จ่าย ยาง ECOPIA EP300 คือคำตอบที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ด้วย ECOPIA COMPOUND สารพิเศษที่ผสมอยู่ในเนื้อยาง จะทำให้โมเลกุลในยางมีการจัดเรียงตัวได้ดีมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในความต้านทานการหมุน ผลคือรถยนต์ที่ใช้ยาง ECOPIA EP300 จะได้ระยะทางที่ไกลกว่า ทำให้ใช้งานเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า นอกจากนี้ด้วยโมเลกุลที่จัดเรียงอย่างดียังช่วยเพิ่มความต้านทานการสึกหรอ ทำให้ยางมีอายุเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนอีกด้วย

ALENZA 001

นักขับสายครอบครัวต้องลอง ALENZA 001 ยางที่ออกแบบมาเพื่อรถสไตล์ SUV และ Crossover โดยเฉพาะ จึงมุ่งเน้นไปที่เรื่องของความปลอดภัยเป็นพิเศษ พร้อมช่วยให้คุณไปถึงทุกจุดหมายอย่างมั่นใจด้วยนวัตกรรมหน้ายางและดอกยางที่ช่วยให้การยึดเกาะดีขึ้น สามารถรีดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นิ่งเงียบแม้ในจังหวะเบรกกะทันหัน จึงเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับคนรักครอบครัวและคนขับ SUV CROSSOVER ที่ต้องการความพรีเมียมเหนือระดับในทุกการขับขี่

DUELER ALL-TERRIAN A/T002

สุดท้ายกับ DUELER ALL-TERRIAN A/T 002 ยางตัวจบสำหรับนักผจญภัย ผสานหลากเทคโนโลยีของ Bridgestone เพื่อทำให้ประสบการณ์ในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะทางราบ ทางลื่น ขึ้นเขา หรือลงห้วย ก็สามารถขับขี่ได้อย่างสนุก ไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย ยางตัวนี้เหมาะอย่างยิ่งกับนักขับสายลุย ผู้ที่ต้องใช้เส้นทางสมบุกสมบันเป็นประจำ สายแคมป์ สายธรรมชาติ ที่เน้นออกเดินทางไกลฮีลใจทุกวันหยุดก็น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

หรืออยากดูรายละเอียดรุ่นยางเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.bridgestone.co.th/th

ดูวิธีการตรวจสภาพรถยนต์เบื้องต้นได้ที่ : https://www.bridgestone.co.th/th/tire-clinic/drivers-essential/ten-important-things-to-check-before-road-trip 

มาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่าการตรวจเช็กสภาพรถยนต์เบื้องต้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเกินมือแต่อย่างใด ขอเพียงหมั่นใส่ใจและดูแลเป็นประจำก็สามารถช่วยยืดอายุรถยนต์คันโปรดได้อีกยาวนาน รวมไปถึงยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เรียกว่าเซฟทั้งรถ เซฟทั้งคุณ รวมไปถึงคนที่รักและห่วงใยอีกด้วย