ทำไมถึงเราคิดว่า รถ BEV นั้นสะอาด ทั้งๆ ที่เรายังคงเผาทุกอย่างเพื่อผลิตไฟฟ้าเอามาชาร์จให้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เราแค่ย้ายมลพิษจากในเมืองไปที่โรงไฟฟ้าเท่านั้น ถ้าจะทำให้ BEV สะอาดอย่างแท้จริง ไฟฟ้าที่นำมาชาร์จ ต้องผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมเท่านั้น

ประเด็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 สู่บรรยากาศนั้น ในขณะที่เราอ้างถึงทั้ง 4 เทคโนโลยีหลักว่า มีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ หรือ Zero Emissions แต่ในข้อเท็จจริง ยังมีการปล่อย CO2 เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตไฟฟ้า หรือ Production of Electricity ไฮโดรเจน หรือเชื้อเพลิงสังเคราะห์ SynGas & Fuel อาจแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าหรือ Battery Electric Vehicle : BEV จะพยายามทำตัวให้เป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutral แต่ความสะอาดที่แท้จริงของรถยนต์ EV จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อกระบวนการขุดเหมืองเพื่อหาแร่มาทำแบตฯ ยุติลง รวมถึงการชาร์จไฟด้วยพลังงานหมุนเวียนเพียงอย่างเดียว (พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานจากไฮโดรเจนสีเขียว) แต่ในความเป็นจริง จากการใช้งานในปัจจุบันของรถยนต์ไฟฟ้า ก็ยังทำให้เกิดการปล่อยคาร์บอนที่สูงอยู่ดี เนื่องจากไฟฟ้าที่มาจากโครงข่ายระบบสายส่งสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้น เรายังคงเผาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินรวมถึงเชื้อเพลิงฟอสซิลกันอย่างหนักหน่วงเหมือนเดิมแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราแค่ย้ายมลพิษจากในเมืองไปยังสถานีผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติและถ่านหินในการผลิตไฟเท่านั้น

การปล่อยคาร์บอน จากกระบวนการผลิตไฮโดรเจน มีความแตกต่างออกไปอย่างอย่างมาก เมื่อเทียบกับการผลิตกระแสไฟจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหินหรือเชื้อเพลิงฟอสซิล ไฮโดรเจนสามารถควบคุมได้ง่ายกว่าการเผาสารพัดคาร์บอนอย่างถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างเช่น ไฮโดรเจนสีเขียว หรือ Green Hydrogen ที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม 100% แต่พลังงานจากธรรมชาติเหล่านั้น ยังคงไม่มีความแน่นอน ในบางวัน อาจปราศจากกระแสลมไปหมุนกังหันเพื่อปั่นไฟ หรือไม่มีแสงอาทิตย์ที่เข้มมากพอสำหรับแผงโซลาร์เซลล์

...

แม้จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการผลิตแบตเตอรี่ แต่รถยนต์ไฟฟ้า EV ก็ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าตลอดอายุการใช้งาน เมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ICE ยานยนต์ที่เผาไหม้เชื้อเพลิงนั้นปล่อยมลพิษมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า ตัวเลขการปล่อยคาร์บอนของรถ EV (ในขั้นตอนการผลิต) ต่ำกว่ามาก แม้ว่าจะคำนึงถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากกรรมวิธีในการผลิตแบตเตอรี่และการประกอบตัวถัง พูดง่ายๆ ก็คือ แม้จะใช้ไฟฟ้าสกปรก ที่ได้มาจากการเผาถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ หรือเชื้อเพลิงฟอสซิล เพื่อนำมาชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ยานยนต์ EV ก็ยังสะอาดกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่ดี 

ทุกวันนี้เราได้ไฟฟ้าส่วนใหญ่มาจากการเผาก๊าซหรือเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งยังปล่อยมลพิษเหมือนเดิม เป็นวัฏจักรที่วนเวียนอยู่กับการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศของโลก แม้จะย้ายโรงไฟฟ้าออกไปอยู่นอกเมืองก็ตาม. 



อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/